ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผ่านพ้นครึ่งฤดูกาลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คือทีมที่ยึดตำแหน่งหัวตารางเอาไว้ได้ โดยมีแต้มทิ้งอันดับ 2 อย่าง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ถึง 6 คะแนน และทิ้งแชมป์เก่าอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7 คะแนนด้วยกัน
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่ครึ่งทาง แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่าระหว่างช่วงเวลาเดียวกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนถึงฤดูกาลนี้ บรรดาทีมท็อป 6 ของพรีเมียร์ลีก มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง ใครแต้มมากขึ้น ใครอันดับตกลงไป
1.ลิเวอร์พูล – เพิ่มขึ้น 16 คะแนน อันดับดีกว่าเดิม 3 อันดับ
ลิเวอร์พูลออกสตาร์ทได้อย่างเชื่องช้าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จมอยู่อันดับ 9 หลังจากผ่านไป 10 เกม แต่ทำแต้มหล่นหายถึง 7 คะแนนใน 5 เกมแรกของฤดูกาล มากกว่าทั้ง 19 นัดของทีมในฤดูกาลนี้เสียอีก
นี่เป็นฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลออกสตาร์ทได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แต่แต้มก็ยังเป็นรองเรือใบสีฟ้าเมื่อฤดูกาลก่อนถึง 4 คะแนนด้วยกัน
แต่ตอนนี้พวกเขามีแต้มนำถึง 6 คะแนน และเป็นทีมที่แข็งแกร่งเมื่อผ่านครึ่งฤดูกาลแรก อย่างไรก็ตามในช่วง 10 ปีหลังสุดของพรีเมียร์ลีก หงส์แดง เป็นทีมเดียวที่จบอันดับ 1 ก่อนคริสมาสต์ แต่สุดท้ายแล้วไม่ได้แชมป์ลีกถึง 2 หนด้วยกัน แล้วครั้งที่ 3 นี้จะเป็นอย่างไร?
2.สเปอร์ส – เพิ่มขึ้น 11 คะแนน อันดับดีกว่าเดิม 3 อันดับ
นับว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์อย่างมากหลังจากที่ไก่เดือยทองเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ไม่ซื้อผู้เล่นคนใดเข้ามาเสริมทีมเลยในช่วงเปิดตลาดซื้อขายหน้าร้อนที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ทำสถิติการออกสตาร์ทที่ดีที่สุดของสโมสรในปีนี้ได้
เมื่อปีที่แล้ว สเปอร์ส นั้นอยู่ห่างจากท็อปโฟร์ 1 คะแนน และ 5 คะแนนจากท็อป 3 แต่ในฤดูกาลนี้พวกเขาเป็นผู้ท้าชิงที่อยู่ใกล้กับจ่าฝูงอย่างหงส์แดงมากที่สุด แต่ก็ตามหลังถึง 6 คะแนนด้วยกัน
สเปอร์สกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีมากๆ ชนะ 8 จาก 9 เกมหลังสุด หนึ่งในนั้นคือการถล่มเชลซี 3-1 ที่เวมบลีย์ ซึ่งหวังว่าในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะได้ช็อปปิ้งผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทีมบ้าง
3.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ลดลง 11 คะแนน อันดับตก 2 อันดับ
มันดูยากมากที่เรือใบสีฟ้าจะทำคะแนนให้เท่ากับครึ่งฤดูกาลแรกเมื่อฤดูกาลก่อน เพราะเมื่อปีที่แล้วพวกเขาทำแต้มหล่นเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้นก่อนจะทะยานขึ้นไปคว้าแชมป์ในที่สุด แม้ว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะบอกว่าทีมของเขาพัฒนาขึ้นมาหลังจากได้แชมป์แล้วก็ตาม
แต่จากความพ่ายแพ้ 3 ใน 4 เกมหลังสุด ทำให้ซิตี้เสียจังหวะไปรวมถึงอันดับที่ถูกท็อตแน่มแซงไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อบ๊อกซิ่งเดย์ที่ผ่านมา เพราะการแพ้ 2 นัดในเวลาไม่ถึง 4 วัน แถมยังตามหลังลิเวอร์พูลไปเป็น 7 คะแนนแล้วก้วย
แล้วตอนนี้ซิตี้ต้องชนะรวดในทุกเกมที่เหลืออยู่ หากอยากทำสถิติ 100 แต้มเท่าฤดูกาลที่แล้ว
4.เชลซี – เพิ่มขึ้น 1 คะแนน อันดับตก 1 อันดับ
สิงโตน้ำเงินคราม ออกสตาร์ทราวกับทีมลุ้นแชมป์ที่แข็งแกร่งทีมหนึ่ง ภายใต้การนำทีมของเมาริซิโอ ซาร์รี่ เป็นปีแรก ด้วยการออกสตาร์ท 12 นัดแรกไม่แพ้ให้กับใครเลยในพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตามหลังจากที่สะดุดแพ้ให้กับสเปอร์ส, วูล์ฟส์ และเลสเตอร์ ในเดือนที่ผ่านมา ทำให้พวกเขากลายมาเป็นทีมที่ลุ้นให้ติดท็อป 4 แทนเท่านั้น
จริงๆ ดูจะเป็นคะแนนที่ไม่ต่างกันมากเมื่อเทียบจากฤดูกาลก่อน แม้ว่าเรื่องของการลุ้นแชมป์อาจจะดูยากเหมือนกัน แต่เชลซีก็คงหวังว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดีกว่าฤดูกาลที่แล้ว เมื่อชนะเพียงเกมเดียวจาก 5 เกม เมื่อเข้าสู่ปี 2018
5.อาร์เซน่อล – เพิ่มขึ้น 4 คะแนน อันดับขึ้น 1 อันดับ
การปฏิวัตของอูไน เอเมรี่ ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถหาสูตรแห่งชัยชนะได้ หลังจากที่พาทีมปืนใหญ่ไม่แพ้ใครถึง 22 เกมติดต่อกัน โดยเฉพาะการเอาชนะคู่อริร่วมเมืองอย่างสเปอร์ส 4-2 ที่ทำให้พวกเขาขึ้นไปอยู่อันดับ 4 เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
แต่การเก็บได้เพียง 4 คะแนนจาก 3 เกมหลังสุดทำให้โมเมนตัมที่กำลังมาดีๆ สะดุดลงไป แม้ว่าจะจะมีผลงานในบ้านที่ยอดเยี่ยม และการระเบิดฟอร์มของลูคัส ตอร์เรร่า ที่เป็นเหมือนอนาคตใหม่ให้ทีม
ทีมปืนใหญ่คงต้องเสริมผู้เล่นในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวจากรายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บที่ยาวเป็นหางว่าว แต่สิ่งที่เป็นแง่ดีคือระยะห่างจากอันดับ 4 ในฤดูกาลนี้ดีกว่าปีที่แล้วเยอะ
6.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ลดลง 10 คะแนน อันดับตก 4 อันดับ
โชเซ่ มูรินโญ่ บอกว่าการนำทีมปีศาจแดงจบอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว นับเป็นหนึ่งในผลงานการคุมทีมที่ดีที่สุดในชีวิตเขาเมื่อตอนจบฤดูกาลที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามมูรินโญ่ไม่เคยได้อธิบายว่าฤดูกาลที่ 3 ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ว่าเป็นแบบเดียวกันใหม่ก่อนที่จะถูกไล่ออกไป ซึ่งน่าประหลาดใจเล็กน้อยกับผลงานของยูไนเต็ดที่ออกสตาร์ทได้แย่ที่สุด
ปีศาจแดงไม่เคยเป็นชื่อทีมลุ้นแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แม้ว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าทีมอื่นๆ ที่เหลือ อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้พวกเขามีแต้มตามหลังอันดับ 4 อยู่ถึง 8 คะแนน แถมยังน่าสนใจตรงที่ 32 คะแนนที่มี เทียบเท่ากับที่เบิร์นลีย์ทำได้ในจำนวนนัดเท่านี้เมื่อปีก่อนนั่นเอง
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
