คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : ใจถึงแล้วพึ่งได้มั้ย?

คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : ใจถึงแล้วพึ่งได้มั้ย?

นัดบิ๊กแมตช์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเป็นคู่ของ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น ไม่ใช่แค่เป็นเกมใหญ่ แต่เพราะฟอร์มของทั้งสองทีมต่างกันมากเหลือเกิน

แมนฯซิตี้ชนะมาแล้ว 9 นัดรวดในเกมลีก นำจ่าฝูงที่ดูอาจจะไม่ห่างจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่การที่มีแมตช์ตกค้างในมือก็ยังถือว่าได้เปรียบ ขณะที่รูปแบบการเล่นในช่วงที่ผ่านมา ดุร้ายกับคู่แข่งเหลือเกิน แม้จะไม่มีกองหน้าคนสำคัญอย่าง เซร์คิโอ้ อากูเอโร่ และเพลย์เมกเกอร์ เควิน เดอ บรอยน์ แต่ความโหดและจำนวนประตูในเกมรุกไม่ได้ลดลงเลย

ในฟากของลิเวอร์พูลที่เหมือนจะฟื้นกลับมาสู่ฟอร์มเก่งได้แล้ว แถมเสริมเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมาถึง 2 คนในตลาดรอบที่ผ่านมา แต่การแพ้ให้ไบรท์ตันคาบ้าน 0-1 ทำให้หลายคนมองว่าหงส์แดงไม่ดีพอจะป้องกันแชมป์ได้แน่ๆ ขอแค่ติด 1-4 ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้ ก็พอแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยฟอร์มฝืดชนะใครไม่ได้ 5 นัดในลีก หลุดท็อป 4 ไปก่อนแล้ว

18 นัดหลังสุดที่เจอกันในแอนฟิลด์ นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก ทีมหงส์แดงไม่เคยแพ้เรือใบสีฟ้า ชนะ 13 เสมอ 5 ชัยชนะครั้งสุดท้ายที่ซิตี้ทำได้ในแอนฟิลด์ต้องย้อนไปอีกเกือบ 18 ปีที่แล้ว

Advertisement

เมื่อดูจากเกมรุกของแมนฯซิตี้ในช่วงหลายนัดที่ผ่านมา ไม่จำเป็นต้องพึ่งพากองหน้า เพราะแดนกลางของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เล่นเกมรุกแบบเด็ดดวงจริงๆ โดยเฉพาะ อิลคาย กุนโดกัน 10 นัดหลังสุดในลีก ยิงไปถึง 7 ประตู ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็กลับสู่ช่วงท็อปฟอร์มอีกครั้ง 5 นัดหลัง ยิง 3 แอสซิสต์ 1 ถือว่าไม่ธรรมดา เกมรับ 12 นัดหลังในลีก เสียไป 2 ประตูเท่านั้น

ลิเวอร์พูลมีปัญหาในหลายจุด เกมรับยังไม่ดีขึ้น เพราะยังไม่ได้ใช้ 2 กองหลังใหม่ที่เพิ่งได้มา เบน เดวีส์ น่าจะได้รับโอกาสในเร็วๆ นี้ หรืออาจจะนัดนี้เลย แต่ โอซาน คาบัก อาจจะต้องปรับตัวสักระยะ เพราะยังไม่เคยเจอเกมในอังกฤษมาก่อน

การถล่มประตูที่ยิงเยอะบางนัด ไม่ยิงในบ้างนัด ยังเป็นเรื่องที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องแก้ไขกันต่อไป เหมือนว่าจะต้องพึ่งพา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นหลัก ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ที่เคยช่วยกันยิงเป็นว่าเล่นในซีซั่นก่อน กลับทำแบบนั้นไม่ได้มาพักใหญ่

Advertisement

อาจจะพูดได้ว่ามองไม่เห็นหนทางที่ลิเวอร์พูลจะได้แต้มในเกมนี้ แต่ต้องไม่ลืมว่าหงส์แดงยังเป็นทีมที่ใจสู้ ไม่ตั้งรับรอโดน พร้อมเปิดเกมรุกใส่คู่แข่งไม่ว่าตัวเองจะฟูลทีมหรือขาดนักเตะไปเยอะก็ตาม รวมทั้งหัวจิตหัวใจของนักเตะที่อยากจะกลับมาชนะเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา น่าจะเป็นแรงผลักดันที่ดีของทัพหงส์แดง

แต่แมนฯซิตี้ที่ไร้เทียมทานเกินไปในช่วงนี้ ไม่น่าจะพลาดให้ทีมลิเวอร์พูลที่ไม่พร้อม เพราะพวกเขาดีกว่าทั้งสภาพทีม ทั้งหัวจิตหัวใจ และแรงจูงใจในการทิ้งระยะคะแนนกับแมนฯยู

ถ้าซิตี้ทำไม่ได้ อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในการลุ้นแชมป์เลยทีเดียว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image