ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น บนเส้นทางสู่เพอร์เฟกต์ซีซั่น
ชาบี อลอนโซ่ เข้าไปรับงานคุมทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ปี 2022 ในสถานการณ์ที่ทีมอยู่อันดับรองบ๊วยของบุนเดสลีก้า
นั่นเป็นการออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ที่เลวร้ายที่สุดอันดับ 2 ในรอบ 43 ปีของทีม
ก่อนหน้านั้น อลอนโซ่ยังไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมชุดใหญ่มาก่อน โดยก่อนมารับงานนี้ เขาเพิ่งจับงานโค้ชหนแรกในตำแหน่งกุนซือทีมสำรองของ รีล โซเซียดัด ในลีกสเปน
จากวันแรกที่รับงานคุมเลเวอร์คูเซ่น ผ่านไป 557 วัน หรือราว 18 เดือน อลอนโซ่พาทีมห้างขายยาเป็นแชมป์ลีกบุนเดสลีก้า เยอรมนี หนแรกในประวัติศาสตร์ 120 ปีของสโมสร
ที่น่าทึ่งเข้าไปอีกคือ แชมป์แรกในประวัติศาสตร์ของทีมนั้น ได้มาอย่างมีสไตล์สุดๆ เมื่อทำสถิติไร้พ่ายตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนถึงขณะนี้ โดยลงสนาม 29 นัด ชนะ 25 เสมอ 4 มี 79 คะแนน ทิ้งห่างรองจ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิก แชมป์เก่า ถึง 16 คะแนน โดยการันตีแชมป์ล่วงหน้าขณะเหลือเกมเตะอีก 5 นัด
แต่ไม่เพียงเลเวอร์คูเซ่นกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นทางการเป็นแชมป์แบบไร้พ่ายตลอดฤดูกาลเฉพาะในเกมลีกแบบเดียวที่ อาร์เซน่อล เคยทำได้เมื่อฤดูกาล 2003-04 เท่านั้น แต่พวกเขายังมีลุ้นเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่แพ้ใครในทุกถ้วยตั้งแต่เริ่มต้นจนจบฤดูกาลอีกด้วย!
เพราะตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนถึงขณะนี้ อลอนโซ่ทำสถิติไม่แพ้ใครในทุกถ้วยมาแล้ว 43 นัดติดต่อกัน แบ่งเป็นสถิติชนะ 38 นัด เสมอ 5 นัด
ฟุตบอลถ้วยในประเทศอย่าง เดเอฟเบ โพคาล นั้น พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว โดยจะพบกับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ในวันที่ 25 พฤษภาคม
งานหนักที่สุดของเลเวอร์คูเซ่นที่เหลืออยู่น่าจะเป็นถ้วย ยูโรป้าลีก ซึ่งขณะนี้ทีมเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับ เวสต์แฮม โดยนัดแรกเก็บชัยชนะไป 2-0
ในทางทฤษฎี ถ้าพวกเขาผ่านเข้าถึงรอบชิงยูโรป้าลีกได้ เลเวอร์คูเซ่นเหลือเกมเตะฤดูกาลนี้มากที่สุดรวมทั้งสิ้น 10 นัด
ยังมีความเป็นไปได้มากมายที่ทีมห้างขายยาอาจพลาดท่าสะดุดไประหว่างทาง แต่ถ้าทุกอย่างไปได้สวย พวกเขาก็จะกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรปที่คว้าแชมป์ฟุตบอลลีก กับฟุตบอลถ้วยทั้งในประเทศและระดับทวีป โดยทำสถิติไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาล
และนั่นก็จะทำให้การทำหน้าที่โค้ชทีมชุดใหญ่แบบเต็มฤดูกาลครั้งแรกของอลอนโซ่ประเดิมด้วยการคว้าทริปเปิลแชมป์อย่างสุดหรู
ก่อนจะไปถึงจุดนั้น สำนักข่าว เอเอฟพี ชวนไปดูประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลจากทั่วโลกที่สามารถทำสถิติไร้พ่ายได้ในการแข่งขันมากกว่า 1 ถ้วยฤดูกาลเดียวกัน เพียงแต่อาจจะยังขาดปัจจัยบางอย่างที่จะเรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ “ไร้เทียมทาน” ได้อย่าง “สมบูรณ์แบบ”
อัล อาห์ลี
ทีมดังลีกอียิปต์ทำผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2004-05 โดยคว้าแชมป์ลีกในประเทศ และแชมป์ซีเอเอฟ แชมเปี้ยนส์ลีก หรือแชมป์สโมสรทวีปแอฟริกา โดยไม่แพ้ให้กับทีมใดเลย
ในเกมลีก พวกเขาปิดฤดูกาลโดยมีแต้มทิ้งห่างทีมอันดับสองอย่าง เอ็นปี เอสซี ถึง 31 คะแนน โดยลงสนาม 26 นัดตลอดฤดูกาล เก็บชัยชนะได้ถึง 24 นัด เสมอเพียง 2 นัดเท่านั้น
ส่วนเกมบอลถ้วยซีเอเอฟ แชมเปี้ยนส์ลีก ก็เป็นการก้าวไปคว้าแชมป์ที่หอมหวาน เนื่องจากสามารถเอาชนะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง ซามาเล็ก ในรอบรองชนะเลิศด้วยชัยชนะขาดลอยรวม 4-1
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนั้นทำได้แค่เกือบสมบูรณ์แบบเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาจอดเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในประเทศ อียิปต์คัพ ด้วยการพ่ายดวลจุดโทษให้คู่แข่งอย่างน่าเสียดาย
เพรสตัน นอร์ธเอนด์
ฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ของ เพรสตัน นอร์ธเอนด์ ในวงการลูกหนังอังกฤษ ต้องย้อนไปถึงศตวรรษที่ 19 ในยุคบุกเบิกของลีกฟุตบอลเมืองผู้ดี โดยในฤดูกาล 1888-89 เพรสตันคว้าดับเบิลแชมป์ทั้งบอลลีกและบอลถ้วยในประเทศ โดยลงสนามเกมลีก 22 นัด (ชนะ 18 เสมอ 4) ทำสถิติไร้พ่าย ขณะที่ฟุตบอลถ้วยเก่าแก่อย่าง เอฟเอคัพ ก็เอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยุคนั้นเป็นยุคที่ฟุตบอลสมัยใหม่เพิ่งเริ่มตั้งไข่ จึงมีเกมการแข่งขันเพียง 2 รายการ ทีมที่เข้าร่วมก็ยังไม่มาก และมาตรฐานการเล่นยังไม่เข้มข้นสูสี ยากที่จะเทียบเกียรติประวัติกับยุคปัจจุบัน
ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม
ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม หรือชื่อเดิมคือ ยะโฮร์ เอฟซี ทีมดังแห่งลีกมาเลเซียไม่เพียงทำสถิติไร้พ่ายได้ตลอดทั้งฤดูกาล แต่ยังสามารถกวาดถึง 4 แชมป์ได้ในฤดูกาลเดียวกันอย่างเหนือชั้น
สดๆ ร้อนๆ เมื่อปีที่แล้ว ยะโฮร์คว้าแชมป์บอลลีกบอลถ้วยในประเทศ โดยเตะยาวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนธันวาคม คว้าชัยชนะทั้งแชมป์ลีก, แชมป์เอฟเอคัพ, แชมป์ซุปเปอร์คัพ และแชมป์เปียลา มาเลเซีย คัพ
น่าเสียดายที่ฟุตบอลถ้วยใหญ่ที่สุดอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก หรือฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย พวกเขาไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อทำสถิติชนะ 3 แพ้ 3
จึงทำให้นี่ยังคงไม่ใช่ฤดูกาลที่เพอร์เฟกต์อีกเช่นกัน…
