Amazing Muay Thai Master Class in UK 2024 ภารกิจนำมวยไทยไปเป็นสมบัติของโลก
มวยไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่ทำให้หลายชาติรู้จักบ้านเกิดเมืองนอนของเราเป็นอย่างดี เพราะทุกวันนี้คนจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาเรียนวิชามวยไทยกันในถิ่นกำเนิดกันจำนวนมาก
ถึงแม้ว่าชาวต่างชาติจะนิยมมาเรียนมวยไทยในหลายพื้นที่ของไทยแล้ว รัฐบาลไทยเองกลับไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะได้ส่งออกศิลปะป้องกันตัวไปยังประเทศต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นเพียงมรดกฝังรากลึกในประเทศไทยเท่านั้น
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ในคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ยกทัพนักมวยชื่อดังไปจัดกิจกรรม “Amazing Muay Thai Master Class in UK 2024” ที่เมืองเรดดิ้ง ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
กิจกรรมครั้งนี้นอกจากการนำมวยไทยไปเผยแพร่กับผู้ที่สนใจแล้ว คณะนักมวยไทยชื่อดังที่ไปรับหน้าที่เป็นครูมวยให้กับชาวต่างชาติ นำโดย “ซุปเปอร์บอน” ศุภชัย หมื่นสังข์, “เพชรจีจ้า” นิลดา มีคุณ, น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย ซึ่งเป็นเหมือนดาราแม่เหล็กที่คนรักมวยไทยรู้จักกันทั่วโลกอยู่แล้ว
บรรยากาศช่วงเช้าของวันที่ 4 พฤษภาคม ที่โรงแรมฮิลตัน ออเนอร์ เรดดิ้ง ซึ่งเป็นวันจัดกิจกรรม สำหรับสายตาคนไทยที่คุ้นเคยกับมวยไทย ยังรู้สึกทึ่งกับการอยากเรียนมวยไทยของคนที่นั่น เพราะคนจำนวนกว่า 300 คน ที่พกอุปกรณ์และชุดซ้อมมวยมาครบชุดมาต่อคิวรอเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง
“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ที่เป็นหัวเรือใหญ่ของการจัดงานครั้งนี้ กล่าวด้วยคำว่า “ทึ่งและตื้นตันใจมากๆ” อยู่หลายครั้ง เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีขนาดนี้
ถึงแม้ว่าจะจัดกิจกรรมที่อังกฤษ แต่มีผู้ที่มาร่วมเรียนมวยไทยครั้งนี้จาก 21 ประเทศ ทั่วทั้งยุโรปและมาไกลสุดจากแคนาดา ส่วนอายุของผู้ที่มาสนุกกับมวยไทยครั้งนี้ น้อยที่สุด 6 ขวบ และมากที่สุดเลยวัย 60 ปีไปแล้ว เรียกได้ว่ามีทุกเพศ ทุกวัย มาจากหลากหลายพื้นที่ แต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การมาเจอ3 ซุป’ตาร์มวยไทย และการเพิ่มวิชาต่อสู้แบบฉบับไทยๆ
ในแถวหน้าของการเรียนมวยไทยเต็มไปด้วยหนูน้อยทั้งชายและหญิงที่มาในกางเกงมวยไทยแบบเต็มยศ และเอาจริงเอาจังกับทุกเทคนิคที่ครูซุปเปอร์บอน ครูโอ๋ ครูเพชรจีจ้า สอนกันแบบเกาะติด หลายคนมากับพ่อแม่ บางคนมากับย่า และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เคยได้มาเยือนประเทศไทย แต่กลับหลงไหลในมวยไทย
ผศ.พิมลกล่าวว่า เป้าหมายในการจัดกิจกรรมนี้ไม่ได้มองแค่ว่าคนอังกฤษหรือคนที่มาร่วมงานนี้จะต้องต่อยมวยไทยได้ในทันที หรือเอาจริงเอาจังจนไปเป็นนักมวยไทยอาชีพ แต่เป็นการนำเอาของดีของประเทศไทยมาบอกเล่าให้พวกเขาเข้าใจและเก็บไว้ในใจเพื่อจะได้เดินทางไปเจอของจริงที่บ้านเราในอนาคต
“งานนี้มีเด็กมาเยอะมาก นี่คือเป้าหมายของการเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์อย่างแท้จริง เพราะถ้าหนูๆ อยากไปเที่ยวเมืองไทย พ่อแม่ก็ต้องไปด้วย เราจะได้นักท่องเที่ยวเป็นครอบครัว และเมื่อรู้จักและรักเมืองไทยตั้งแต่เด็ก วันข้างหน้าก็จะต้องเดินทางไปอีกหลายครั้ง สิ่งเหล่านี้จะบอกกันปากต่อปาก เราไม่ได้ประโยชน์ในวันนี้ แต่จะได้ประโยชน์ในระยะยาวอย่างแน่นอน” ผศ.พิมลกล่าว
นอกจากการมาสอนมวยแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ยังได้นำคณะมาตรวจสอบค่ายและยิมมวยไทยในประเทศอังกฤษ เพื่อมอบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานแต่ละค่าย เพื่อให้ผู้ที่มาเรียนกับค่ายเหล่านี้มั่นใจว่าได้มาตรฐานจากองค์กรที่ดูแลมวยไทยในประเทศไทย และเพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกันในแต่ละค่าย ถึงแม้ครั้งนี้จะเดินสายตรวจได้ไม่มากนัก แต่เป็นจุดเริ่มที่ทำให้ค่ายต่างๆ ตื่นตัว เพื่อร่วมกันทำให้มวยไทยเติบโตไปแบบถูกต้อง
ปรีชา ลาลุน รองผู้ว่า กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กล่าวว่า การมาตรวจค่ายครั้งนี้ มีผลดีกับค่ายที่จะได้รู้ว่ามาตรฐานในการเป็นค่ายมวยไทยต้องมีมาตรฐานอะไรบ้าง เมื่อได้รับการรับรองจาก กกท. ซึ่งเป็นองค์กรกีฬาจากประเทศต้นทางมวยไทยแล้ว จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลต่อรายได้ที่ดีขึ้นของค่ายมวยนั้นๆ ส่วนประเทศไทยก็จะได้เผยแพร่มวยไทยที่ถูกต้องจริงๆ เมื่อขยายไปตรวจมาตรฐานในประเทศต่างๆ ทั่วโลกแล้ว ก็จะมีคนที่สนใจเรียนมวยไทยมากขึ้น คนเหล่านั้นเมื่อเรียนแล้วก็จะมีจำนวนมากพอสมควรที่อยากไปเรียนมวยไทยที่ประเทศไทย ซึ่งได้มีการเตรียมค่ายมาตรฐานเอาไว้แล้ว 400 กว่าแห่ง และจะขยายไปให้มากขึ้นตามเป้ามากกว่า 500 ค่ายทั่วประเทศ ที่มีเทรนเนอร์ที่อบรมมาเรียบร้อยแล้ว
นอกจากการเรียนรู้มวยไทยแล้ว ยังมีการสอดแทรกเรื่องวัฒนธรรม ทั้งการไหว้ การใช้คำพูดง่ายๆ ในระหว่างการสอน รวมทั้งการเสิร์ฟอาหารไทยให้ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมได้อิ่มท้องกันถ้วนหน้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่า กว่า 300 ชีวิตในวันนั้นมีความเข้าใจและรู้จักสิ่งต่างๆ ที่ได้สื่อสารกันมาก่อนแล้วด้วยซ้ำ
Amazing Muay Thai Master Class in UK 2024 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในการพามวยไทยฝังรากลึกไปทั่วโลก เพราะเป็นการจัดกิจกรรมรูปแบบนี้ในต่างแดนครั้งแรก หลังจากนี้จะขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วยุโรป ก่อนจะกระจายไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ให้โลกรู้จักมวยไทย แต่เพื่อให้คนไทยได้เห็นมวยไทยที่อยู่ตามจุดต่างๆ ในโลก ว่าเติบโตและแข็งแรงไปขนาดไหนแล้ว
เมื่อถึงเวลาที่ความทุ่มเทสุกงอม มวยไทยจะไม่ใช่ซอฟต์พาวเวอร์ของพวกเราชาวไทยเท่านั้น แต่จะเป็นสมบัติของคนทั้งโลก
