คำต่อคำ เปิดใจเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ กับวันพรุ่งนี้ของแมนยู (ตอน4-จบ)

AP

คำต่อคำ เปิดใจเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ กับวันพรุ่งนี้ของแมนยู (ตอน4-จบ)

เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หนึ่งในเจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นต่างๆ ของสโมสรกับทางสำนักข่าว “บีบีซี” เรียกได้ว่าตอบแบบไม่กั๊ก ตอบตรงทุกคำถาม

หลายคำถามไปจี้ใจดำนักเตะ บางคำถามอาจจะสร้างความไม่พอใจให้แฟนบอล แต่ทำให้ได้เห็นแนวทางที่ผู้บริหารต้องการให้ทีมปีศาจแดงเดินหน้าไปในอนาคต

คำต่อคำ เปิดใจเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ กับวันพรุ่งนี้ของแมนยู (ตอน1)
คำต่อคำ เปิดใจเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ กับวันพรุ่งนี้ของแมนยู (ตอน2)
คำต่อคำ เปิดใจเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ กับวันพรุ่งนี้ของแมนยู (ตอน3)

บีบีซี : เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับกีฬาจักรยาน แต่หลายคนสงสัยว่าเขามีศักยภาพเพียงพอและเป็นบุคคลที่เหมาะสมกับการบริหารจัดการสโมสรแมนยูหรือเปล่า คุณคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร? เขาจะทำอะไรให้ทีมได้บ้าง?
แรทคลิฟฟ์ : เดฟประสบความสำเร็จสุดยอดกับกีฬาจักรยานซึ่งเขาพาทีมคว้าชัยชนะได้ คนอาจจะลืมไปว่ากว่า 100 ปีก่อนหน้านั้น สหราชอาณาจักรไม่เคยคว้าแชมป์จักรยานทางไกล “ตูร์ เดอ ฟร้องซ์” ได้เลย แต่เขาพาทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 7 ปี กับนักปั่น 4 คน เพราะงั้นนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
เขามีทักษะสูงในการดึงศักยภาพของนักกีฬาออกมาถึงขีดสุด และนั่นคือสิ่งที่เขาจะโฟกัสในการทำงานกับแมนยู ให้ทีมโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ดูว่าเราจะพัฒนาได้อย่างไร เพราะที่สุดแล้ว ฟุตบอลเป็นเรื่องของศักยภาพของนักกีฬา เราต้องเน้นเรื่องข้อมูลเรื่องสมรรถภาพต่างๆ ฟุตบอลยุคนี้เป็นกีฬาที่นักเตะต้องวิ่งให้เยอะ ต่างจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นั่นคือเหตุผลที่นักเตะยุคนี้มีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขากันเยอะมาก เพราะฟุตบอลยุคปัจจุบันเกมเข้มข้นกว่ายุคของบ๊อบบี้ ชาร์ลตัน และจอร์จ เบสต์

ADVERTISMENT

บีบีซี : คุณบอกว่าต้องรับช่วงนักเตะอย่างอันโตนี่และอีกหลายคน คือคุณจะบอกว่าพวกเขาไม่ดีพอใช่มั้ยครับ?
แรทคลิฟฟ์ : ไม่ ผมแค่บอกว่าเรา… (การสัมภาษณ์โดนขัดจังหวะ)

บีบีซี : หรือจะบอกว่าพวกเขาได้ค่าเหนื่อยสูงเกินจริง? นั่นคือสิ่งที่จะสื่อใช่มั้ยครับ?
แรทคลิฟฟ์ : บางคนไม่ดีพอ บางคนอาจจะได้ค่าเหนื่อยสูงเกินไป แต่ถ้าเราจะสร้างทีมขึ้นมา ก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ซึ่งมันต้องใช้เวลา ตอนนี้เราอยู่ตรงกลางของการเปลี่ยนผ่านจากอดีตสู่อนาคต เรารู้ว่ามีนักเตะชั้นเลิศอยู่ในทีมบางส่วน กัปตันของเราเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม บรูโน่ แฟร์นานเดส จำเป็นสำหรับเรา ถ้าไม่มีเขาก็จะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับทีม

บีบีซี : ว่ากันเรื่องสนามใหม่ มีกำหนดเวลาการสร้างหรือยังครับ?
แรทคลิฟฟ์ : ครับ เราอาจจะสร้างสนามใหม่ได้ ทั้งออกแบบและก่อสร้างในระยะเวลา 5 ปี ปกติแล้วจะสร้างสนามที่ใหญ่ขนาดนี้ ต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปี แต่ประเด็นอยู่ที่จะได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลเรื่องแผนงานต่างๆ เร็วขนาดไหนมากกว่า
เราต้องมาคุยกับหน่วยงาน อธิบายว่าโครงการนี้จะมีประโยชน์ยังไง ผมคิดว่ารัฐบาลจะกระตือรือร้นอย่างมากถ้าโครงการนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเมือง โดยเฉพาะใน 3 จุดหลัก คือ สนามบินฮีทโธรว์ พื้นที่ซิลิคอนวัลเลย์ ออกซ์ฟอร์ด-เคมบริดจ์ และการปฏิรูปเมืองแมนเชสเตอร์ ผมว่ารัฐบาลจะไฟเขียวให้โครงการของเราอย่างรวดเร็ว และหนุนหลังอย่างจริงจัง ถ้ารัฐสร้างรางรถไฟความเร็วสูง บางทีการก่อสร้างอาจจะแล้วเสร็จใน 5 ปีได้ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก

บีบีซี : นั่นคือเหตุผลที่คุณบอกก่อนหน้านี้ว่าสโมสรสามารถทำกำไรได้สินะ
แรทคลิฟฟ์ : นั่นคือส่วนเสริม อย่างไรเสีย เราก็จะเป็นสโมสรที่ทำกำไรได้มากที่สุดในระยะเวลา 3 ปี กับสนามใหม่ และอะไรอีกหลายอย่าง

บีบีซี : คุณคาดหวังว่าการออกมาให้สัมภาษณ์ในวันนี้จะทำให้คนเข้าใจในสิ่งที่คุณทำมากขึ้นมั้ย?
แรทคลิฟฟ์ : ก็คุณมาขอสัมภาษณ์ผมในวาระครบรอบ 1 ปีที่เข้าไปถือหุ้นของสโมสรเองนี่! ผมคิดว่าบทสัมภาษณ์นี้น่าจะเป็นประโยชน์ และเราควรจะยืนหยัดพร้อมรับเสียงวิจารณ์ต่างๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีทั้งด้านบวกและลบ ก็เลยคิดว่าน่าจะมานั่งตรงนี้ แล้วตอบคำถามต่างๆ

บีบีซี : มีบางคนกล่าวหาว่า อิเนออสทำเหมือนแมนยูไนเต็ดเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ มองสโมสรเป็นโรงกลั่นน้ำมัน หรือเป็นอะไรที่ไม่ใช่สมบัติล้ำค่า เพราะนโยบายเรื่องลดค่าใช้จ่ายต่างๆ คุณจะตอบเรื่องนี้ยังไง?
แรทคลิฟฟ์ : ผมเข้าใจประเด็นที่เขาจะสื่อ แต่เราต้องยอมรับว่าองค์ประกอบหนึ่งของแมนยูไนเต็ดก็คือเราเป็นภาคธุรกิจด้วย และถ้าคุณมีธุรกิจ ก็ต้องบริหารมันให้ดี ซึ่งเวลานี้การดำเนินงานไม่ค่อยสู้ดีนัก ถ้าไม่แก้ปัญหาต่างๆ ให้เรียบร้อย ก็จะเจอเรื่องยากลำบากแน่ๆ ซึ่งเราต้องแก้ปัญหาให้เรียบร้อย แต่แน่นอนว่าในขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นตัวตนที่ยึดเหนี่ยวทางอารมณ์ของคนจำนวนมาก เราอยู่ในฐานะของผู้ดูแลสโมสรซึ่งมีแฟนๆ เป็นเจ้าของ สิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมมักส่งผลกระทบด้านจิตใจกับแฟนๆ ซึ่งรวมถึงตัวผมเองด้วย สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมากกับชีวิตของพวกเขา อารมณ์ของพวกเราในเช้าวันจันทร์มักได้รับอิทธิพลจากฟอร์มการเล่นและผลงานของทีมในช่วงสุดสัปดาห์
ไม่ว่าผมจะไปที่ไหนในโลก ใครๆ ก็อยากเข้ามาคุยเรื่องแมนยูไนเต็ด เพราะมันกระทบกับชีวิตของพวกเขา ลองนึกถึงอารมณ์ร่วมที่เรามีกับเกมล่าสุด (เสมออาร์เซน่อล 1-1) ลูกนั้น (ลูกยิงของบรูโน่ที่โดนดาบิด ราย่า ปัดถึง 2 จังหวะ) ในช่วงท้ายเกมควรจะเป็นประตู แต่กลับไม่เข้า คุณจะไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนั้นจากองค์ประกอบไหนในชีวิตของคุณนอกเหนือจากกีฬาจริงมั้ย? เพราะงั้นมันเลยเป็นอะไรที่มีอารมณ์ร่วมอย่างเข้มข้นมากๆ
หนึ่งในช่วงเวลาที่ผมจะไม่มีวันลืมในชีวิตนี้ คือในปี 1999 ตอนที่เท็ดดี้ เชอริงแฮม กับโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ (ในรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับบาเยิร์น มิวนิก) คุณจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาเหล่านั้น อารมณ์ร่วมเหล่านั้น แต่ขณะเดียวกัน มันก็มีแง่มุมของธุรกิจอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องจัดการให้เรียบร้อย เพราะถ้าภาคธุรกิจไม่มั่นคง ก็คงไม่สามารถประสบความสำเร็จในด้านกีฬาอย่างที่ต้องการได้

บีบีซี : ถึงจะมีปัญหาอุปสรรคมากมาย แต่คุณยิ่งรู้สึกมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพลิกสถานการณ์ให้ทีม คุณอยากทำสิ่งนี้ให้เป็นเกียรติประวัติของตัวเองเพื่อตกทอดสู่อนาคตใช่มั้ย?
แรทคลิฟฟ์ : ใช่ มองอย่างนั้นก็คงจะได้ จริงๆ ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย เพราะรู้ดีว่า…หลังจากได้อ่านหนังสือพิมพ์ และได้ยินได้ฟังมา ผมเข้าใจว่าตอนนี้ตัวเองไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบนัก แต่ก็พร้อมจะยอมรับและรับมือกับกระแสต่อต้านเหล่านี้ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และมันจะพาเรา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังตกราง กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง กลับมาอยู่บนรางได้
ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่เรากำลังทำ และไม่มีปัญหาอะไรกับการถูกเกลียดขี้หน้า ผมขอเป็นคนที่โดนเกลียดดีกว่าเป็นรูเบน สื่อต้องให้เวลาและสนับสนุนรูเบน แฟนๆ เองก็เช่นกัน แมนยูมักตกเป็นเป้าหมายของใครต่อใคร เพราะเป็นเป้าใหญ่ เราจึงต้องสามัคคีกันก้าวข้ามช่วงเวลายากลำบากนี้ไปให้ได้ เวลาเจออุปสรรค เราต้องรู้จักยืดหยุ่นและอดทน ไม่ท้อถอย แล้วจะฝ่าฟันไปได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราจะทำ