ส.กีฬาทางน้ำ รับมอบเงินหนุน 4 องค์กร 29 ล้าน ลุยสานงานต่อ ยกระดับการพัฒนา
“ส.กีฬาทางน้ำ” รับมอบเงินสนับสนุน 4 องค์กร “ปตท.-ไทยเบฟ-พีทีที โกลบอล-ไทยออยล์” รวม 29 ล้านบาท พร้อมจัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2566 พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคม หวังสานงานต่อ ยกระดับพัฒนาวงการกีฬาทางน้ำไทย โดยเฉพาะการสร้าง “เนชั่นแนล อควาติกส์ เซ็นเตอร์” เพื่อผลักดันนักกีฬา และต่อยอดความสำเร็จไปสู่เป้าหมายให้ได้ พร้อมยืนยันการบริหาร “โปร่งใส-ตรวจสอบได้”
สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย จัดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2566 ที่ห้องพาวิลเลี่ยน โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา โดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน พร้อมด้วย พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ เลขาธิการสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย รวมถึงแขกผู้มีเกียรติและสโมสรสมาชิก 245 สโมสร ซึ่งคิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์ของสมาชิกทั้งหมด ถือว่าผ่านครบองค์ประชุม
ในโอกาสนี้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ได้รับมอบเงินสนับสนุนสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 15 ล้านบาท, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 10 ล้านบาท, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 2 ล้านบาท และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มอบ 2 ล้านบาท รวม 29 ล้านบาท ในปี พ.ศ.2567
พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยในที่ประชุมเพื่อให้สโมสรสมาชิกได้รับทราบว่า วงการว่ายน้ำของเราอาจจะยังทำบางอย่างไม่สำเร็จ เชื่อว่าแวดวงของวงการว่ายน้ำก็น่าทราบดีกับการยกระดับวงการกระโดดน้ำ เรายังไม่สามารถสร้าง เนชั่นแนล อควาติกส์ เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายังขาดอยู่ ทางสมาคมพยายามที่จะผลักดันให้สำเร็จ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ตนเองคลุกคลีในสมาคมนี้มา 3-4 ปี มั่นใจว่าผู้ฝึกสอนและนักกีฬากระโดดน้ำเราเก่ง มีความสามารถ แต่เราขาดสิ่งที่กล่าวมา ถ้ามีเราจะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แน่นอน ส่วนการประชุมเอเชีย อควาติกส์ และเวิลด์ อควาติกส์
“ด้านการบริหารผลการประเมินการบริหารจัดการอย่างมีมาตรฐานตามแนวทางการพัฒนากีฬาเป็นเลิศในปี พ.ศ.2566 ได้รับการประเมินผลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเต็ม 5 คะแนน ในส่วนของการประเมินจาก เวิลด์ อควาติกส์ สมาคมได้รับการประเมินหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ได้รับผลคะแนนประเมินจัดอยู่ในระดับดีเยี่ยม ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนา และปรับระบบการบริหารจัดการของสมาคมให้มีประสิทธิภาพ และสามารถตรวจสอบผลการดำเนินงานได้ชัดเจน ส่วนการบริหารสมาคมก็ยืนยันว่าทุกอย่างต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้” พล.อ.ศิริชัยกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของฝ่ายกีฬา สมาคมกีฬาทางน้ำฯ ได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา นักกีฬาว่ายน้ำทำผลงานได้ 4 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดงทีมโปโลน้ำหญิงคว้าเหรียญทอง เป็นแชมป์ซีเกมส์ 4 สมัย ส่วนทีมโปโลน้ำชายได้เหรียญทองแดง และการส่งนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันรายการ 45th SEA Age Group Swimming Championships 2023 ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย กีฬาว่ายน้ำได้ 17 เหรียญทอง 29 เหรียญเงิน และ 44 เหรียญทองแดง กีฬาโปโลน้ำ ทีมหญิงได้เหรียญทอง และทีมชายได้เหรียญเงิน ส่วนกีฬากระโดดน้ำ ทำผลงานได้ 2 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน
นอกจากนี้ การดำเนินโครงการพิเศษว่ายน้ำเพื่อชีวิต และโครงการลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น ในปีที่ผ่านมา สามารถสอนเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลและเสี่ยงกับการจมน้ำ ให้สามารถลอยตัวได้ ว่ายน้ำได้ รวม 7,383 คน ในวาระแถลงกิจกรรมสมาคม ในปี 2567 สมาคมได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติจำนวนหลายรายการ อาทิ World Aquatics Championships ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์, รายการ 11th Asian Age Group Championships ที่เมืองนิวคลาร์ก ประเทศฟิลิปปินส์ และวางแผนส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ สมาคมยังได้รับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทางน้ำเยาวชนระดับอาเซียนรายการ 46th SEA Age Group Swimming Championships ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 อีกด้วย
ในการประชุมครั้งนี้ มีวาระแก้ไขข้อบังคับสมาคมกีฬาทางน้ำฯ เนื่องจากสมาคมได้เปลี่ยนชื่อจาก “สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย” เป็น “สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย” จึงมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับสมาคม เพื่อให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อสมาคม รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดข้อบังคับสมาคม ให้มีความถูกต้อง ทันสมัย เป็นไปตามมาตรฐานของ World Aquatics และไม่ขัดกับพระราชบัญญัติของการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยที่ประชุมมีมติรับรองวาระการประชุมทั้งหมดด้วย
