
รายงานพิเศษ/โชคชัย บุณยะกลัมพ | บ.บิทคอยน์ปิด เหรียญ bitcoin ไม่ปิด สร้างความวิตกนักลงทุน

รายงานพิเศษ / โชคชัย บุณยะกลัมพ
https://www.ข่าวธุรกิจ888.cyberaitea.com
บ.บิทคอยน์ปิด
เหรียญ bitcoin ไม่ปิด
สร้างความวิตกนักลงทุน
จากข่าวเมื่อวันที่ 2 กันยายน ช่วงเช้ามีข่าวในวงการเงินดิจิตอล เมื่อ “บริษัท #บิทคอยน์ จำกัด” ผู้ให้บริการ Crypto Exchange รายแรกและรายใหญ่ที่สุดของไทยบน BX.IN.TH ได้แจ้งยุติให้บริการภายในสิ้นเดือนกันยายน 2562 นี้ สร้างกระแสความตื่นตระหนกจากการปิดของบริษัท บิทคอยน์ จำกัด ที่ทำหน้าที่ซื้อขาย, แลกเปลี่ยน (เทรดดิ้ง) สินทรัพย์ดิจิตอล บิทคอยน์ ในประเทศไทย
จากข้อมูล #BX #บิทคอยน์ พบว่ามีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ทำธุรกิจเกี่ยวกับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ส่วนวัตถุประสงค์ของการทำธุรกิจคือ ประกอบกิจการค้าสกุลเงินที่ใช้สำหรับทำธุรกรรม BX บิทคอยน์ ก่อตั้งมาแล้วกว่า 5 ปี ในประเทศไทย มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด
หลายคนอาจจะวิตกกังวลถึงอนาคตของวงการคริปโตในบ้านเรา และหวั่นว่าผู้ให้บริการ Crypto Exchange จะเดินรอยตามบิทคอยน์
แต่จริงๆ แล้วมีหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจระบบการเงินดิจิตอล บิทคอยน์
ทั้งนี้ บริษัท bitcoin จำกัด ได้ดำเนินกิจการในเรื่องของเว็บไซต์ที่เป็นเว็บเทรดเงินดิจิตอลที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย โดยใช้เว็บไซต์ที่มีชื่อว่า BX.In.Th หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า BX ซึ่งเป็นเว็บเทรดที่เก่าแก่มาก อยู่กับประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว
หลังจากเมื่อมีข่าวการยุติการให้บริการของ “บริษัท บิทคอยน์ จำกัด” จึงเกิดการรีบเทขายเหรียญกันขึ้น ถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่ามีคนเข้าใจผิดกันเยอะในเรื่องชื่อและการให้บริการ การที่ได้เห็นชื่อบริษัทว่าบิทคอยน์ หลายๆ คนก็เข้าใจว่า bitcoin ที่เป็นเหรียญ bitcoin กับบริษัท bitcoin แปลว่าเหรียญ bitcoin มันมีปัญหาหรือเปล่าก็เลยพากันเทขาย
ถ้าเป็นแบบนี้แล้วเหรียญ bitcoin มันจะไปต่อที่อื่นไม่ได้ หรือมันจะเอาไปใช้ที่อื่นไม่ได้
ซึ่งที่จริงแล้วบอกเลยว่าเป็นความเข้าใจผิดอีกหนึ่งอย่าง
ใครที่อยากจะเข้ามาเทรดหรืออยากจะเข้ามาลงทุนบนโลกของคริปโตเคอร์เรนซี่ เรื่องนี้เราควรที่จะทำความเข้าใจให้ถูกต้อง
เรื่องแรกต้องเข้าใจก่อนว่า บริษัท bitcoin จำกัด ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเหรียญที่มีชื่อว่าเหรียญ bitcoin
บริษัท bitcoin จำกัด ที่กำลังจะปิดตัวลงเป็นแค่ชื่อบริษัทที่มีการจดทะเบียนบริษัทอยู่ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่ใช้ชื่อว่าบริษัท bitcoin จำกัด กำลังจะปิดตัวลงเฉยๆ
แต่ว่าในแง่ของเหรียญ bitcoin ที่เป็นเหรียญบิทคอยน์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท bitcoin ที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทย เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเหรียญในการเทรดเหรียญที่มีชื่อว่า BX
เหรียญที่มีชื่อว่า bitcoin เหรียญนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้บริษัทไหน เหรียญนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้องค์กรใดๆ มีความเป็นอิสระ เป็นเหรียญที่ใช้ได้ทั่วโลก ไม่รวมศูนย์
ไม่มีใครสามารถที่จะไปบริหารจัดการมันได้ ไม่เหมือนเงินตราที่เราใช้ทุกวันนี้ ทั้งเงินบาท เงินยูโร เงินดอลลาร์ เงินทั้งหมดที่อยู่บนโลก จะถูกดูแลควบคุมโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ
แต่ในขณะที่ bitcoin เป็นเหรียญที่ได้ชื่อว่าไม่มีใครสามารถบริหารจัดการมันได้ เพราะว่าเป็นเหรียญที่มีความ decentralized หรือไม่รวมศูนย์ จึงเป็นจุดเด่นของเหรียญที่มีชื่อว่า bitcoin
ดังนั้น เมื่อเราได้ยินข่าวว่า บริษัท bitcoin กำลังจะปิดตัวลง คงไม่ใช่ว่าเหรียญบิทคอยน์มีปัญหา เราควรเข้าใจตรงกันนะว่าบริษัท bitcoin ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเหรียญบิทคอยน์
การปิดเว็บไซต์เทรดเหรียญที่ชื่อว่า BX bitcoin ไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีบริการที่ใช้เทรดเหรียญ bitcoin อีก
ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการเงินคริปโตในประเทศไทยได้รับอนุญาตเป็นทางการ 4 ราย หลังจาก BX.in.th ปิดบริการไปก็จะเหลือ 3 ราย คือ bitkub.com, satang.pro และ coins.co.th
ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน ใครที่อยากต้องการจะเทรดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ ต้องการจะแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เป็นเงินสกุลอื่นๆ สามารถเข้าใช้บริการได้เหมือนกันทั้งหมด
ในการโอนเหรียญ bitcoin ก็ไม่จำเป็นต้องไปแลกเป็นเงินบาทหรือตัวเงินออกมาก่อน
แค่ทำการเคลื่อนย้ายแบบเปลี่ยนกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัว (Personal Wallet) บนโลกอินเตอร์เน็ต โดยใช้ address ใหม่ที่เราไปสมัครที่อื่นเอาไว้กับเว็บเทรดเหรียญ มูลค่าของเหรียญมันก็ยังคงเดิม
โดยที่เราไม่ต้องไปลดมูลค่าของเหรียญด้วยการเทขายเหรียญออกไป
จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ กลต.แจ้งเตือนลูกค้าของ BX ให้ระมัดระวังเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊กหลอกลวงให้โอนเงินหรือสินทรัพย์ดิจิตอล
และทางบริษัท bitcoin จำกัด ได้ออกมาชี้แจงว่า
“บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ได้ตัดสินใจยุติบทบาทการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล หรือการให้บริการด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Asset Wallet) เนื่องจากบริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในทางอื่นๆ แทนการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล
ดังนั้น ภายหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2562 ลูกค้าจะไม่สามารถทำการซื้อขาย, แลกเปลี่ยน (เทรดดิ้ง) ผ่านเว็บไซต์ BX.in.th ได้อีกต่อไป แต่ลูกค้ายังคงทำคำสั่งถอนได้ตามปกติ
และขอเรียนแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทำการเปิดคำสั่งถอนสินทรัพย์ดิจิตอลและเงินออกจากบัญชีของท่านที่มีอยู่ภายใต้ระบบ BX.in.th เพื่อเข้าสู่บัญชีธนาคารพาณิชย์และหรือกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัว (Personal Wallet) ของทุกท่านที่ได้ลงทะเบียนไว้กับเราให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 บริษัทจะยังคงเปิดเว็บไซต์ BX.in.th ต่อไปเพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าสามารถติดต่อบริษัทในการดำเนินการถอนทรัพย์สินของลูกค้าที่ยังคงค้างอยู่ในระบบเท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทจะยุติการทำรายการฝากหลังวันที่ 6 กันยายน 2562 ดังนั้น ลูกค้าจะไม่สามารถทำรายการฝากรายการใหม่ได้อีกต่อไป
หากลูกค้าท่านใดได้รับปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือในการถอน กรุณาส่งคำร้องของท่านผ่านทาง Support Ticket และพนักงานของเราจะทำการติดต่อและช่วยเหลือท่านต่อไป
ท้ายที่สุดนี้ คณะผู้บริหารและพนักงานทุกคน ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านอย่างสุดซึ้งสำหรับความไว้วางใจในบริษัท บิทคอยน์ จำกัด รวมถึงในการใช้บริการ BX.in.th มาตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีด้วยดีเสมอมา
ด้วยมาตรฐานในการกำกับดูแลและให้บริการทุกท่านด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทขอให้ท่านมั่นใจได้ว่าเงินหรือสินทรัพย์ดิจิตอลของลูกค้าทุกท่านได้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย และลูกค้าทุกท่านจะได้รับเงินหรือสินทรัพย์ดิจิตอลของท่านคืนทั้งหมด 100% อย่างแน่นอน”