ตำนานเชิ้ตดำ คอลลิน่า เผยเหตุทดเวลาบาดเจ็บนานในบอลโลกหนนี้
หลังจากมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ในครั้งนี้ มีการทดเวลาบาดเจ็บค่อนข้างนานในแต่ละนัด โดยจากสถิติพบว่า ในการแข่งขันกลุ่มบี คู่ระหว่างอังกฤษกับอิหร่านซึ่งต้องหยุดเกมเพื่อดูอาการของนายทวารอิหร่าน อาลีเรซ่า เบรานวานด์ นั้น มีการทดเวลาบาดเจ็บถึง 29 นาที ส่วนคู่เซเนกัลกับเนเธอร์แลนด์ในกลุ่มเอ ทดเวลาบาดเจ็บทั้ง 2 ครั้งรวม 14 นาที ขณะที่คู่สหรัฐอเมริกากับเวลส์ ทดเวลา 16 นาที ซึ่งเกมนี้มีการทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งหลัง 9 นาที แม้ว่าแทบไม่มีจังหวะที่กรรมการเป่าหยุดเกมเลย
สื่อต่างประเทศรายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีเจตนาที่จะลดการถ่วงเวลาของผู้เล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยในจังหวะที่หยุดเล่นจะถูกนำมาพิจารณาทดเวลาบาดเจ็บเพิ่ม
ทั้งนี้ ตำนานผู้ตัดสินอย่าง ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินฟีฟ่า เผยกับ “อีเอสพีเอ็น” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้น ว่าในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ฟีฟ่าพยายามคำนวณการทดเวลาบาดเจ็บอย่างแม่นยำ เนื่องจากคำนึงถึงการหยุดชะงักของเกมในช่วงเวลาต่างๆ เช่นการฉลองประตูหรือเหตุการณ์อื่นๆ โดยได้บอกกับทุกคนว่าไม่ต้องแปลกใจหากผู้ตัดสินที่ 4 จะชูป้ายทดเวลาบาดเจ็บนาถึง 6, 7, 8 นาที
คอลลิน่ากล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างถ้าแมตซ์ไหนมีการทำประตู 3 ลูก เวลาทำประตูได้ก็ต้องมีการฉลองประตูเฉลี่ยครั้งละ 1 ถึง 1 นาทีครึ่ง คุณก็จะเสียเวลาไป 5 หรือ 6 นาที สิ่งที่เราต้องการทำคือการคำนวณการทดเวลาบาดเจ็บอย่างแม่นยำเมื่อสิ้นสุดในแต่ละครึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ 4 ที่จะทำหน้าที่นั้น
ประธานผู้ตัดสินฟีฟ่ากล่าวด้วยว่า เราประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลกที่รัสเซีย และเราคาดหวังเช่นเดียวกันในกาตาร์ นี่ยังไม่นับเรื่องการใช้วีเออาร์ ซึ่งจะมีทีมคำนวณเวลาที่ใช้ไปในการพิจารณาภาพรีเพลย์ต่างหากอยู่แล้ว
“สมัยที่ผมยังเป็นผู้ตัดสินอยู่ ในส่วนของข้อมูลเวลาการทดเวลาบาดเจ็บ ผมก็ได้รับมากจากผู้ตัดสินที่ 4 ในสนาม คุณแทบจะไม่มีเวลาตัดสินใจใดๆ ในสนามคุณจะจดจ่อกับบางสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่มีเวลาพิจารณา ผู้ตัดสินที่ 4 มักจะเสนอเวลาในการทดเวลาบาดเจ็บให้ผู้ตัดสินในสนามเป็นคนตัดสินใจ” คอลลิน่ากล่าวในตอนท้าย
