U2T เปิดโอกาสให้คนไร้โอกาส อว.เดินหน้าฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19

โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ U2T ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ยังเดินหน้าฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 อย่างไม่หยุด

มีการปรับการจ้างงานให้ผู้ที่ได้รับการจ้างงานในโครงการ U2T ที่ต้องทำงานจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการสร้างงานและพัฒนาแก้ไขปัญหาและเศรษฐกิจของตำบลแบบพุ่งเป้า มาเป็น “จิตอาสา” เพื่อช่วยโรงพยาบาลสนามเพื่อรับมือโควิด-19 ให้ผู้ได้รับการจ้างงาน 6 หมื่นคน มาช่วยกันสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ชุมชนและรณรงค์การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีน รวมทั้งช่วยเหลือชาวบ้านให้รู้จักวิธีป้องกันตนเอง ทำยังไงให้ชาวบ้านได้รับวัคซีน ได้รับยาถ้าเขาป่วย ทำยังไงที่จะส่งเข้าไปโรงพยาบาล รวมไปถึงกระทั่งการเตรียมพร้อมเรื่องคน การฝึกคนที่จะไปเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือ

ล่าสุด ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรี อว. พร้อม ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. และผู้บริหาร อว. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ U2T ที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยบูรพา ที่รับผิดชอบดำเนินโครงการในพื้นที่ 104 ตำบล ของ 7 จังหวัดภาคตะวันออกโดยปัจจุบันได้มีการจ้างงานคนในพื้นที่ไปแล้วกว่า 2,000 ตำแหน่ง แบ่งเป็นตำบลละ 20 คน ซึ่งได้ลงไปทำงานร่วมกับชุมชนในด้านต่างๆ อาทิ การประเมินศักยภาพตำบล การเฝ้าระวังประสานงานและติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 การสำรวจข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชน การจัดทำข้อมูลราชการเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ กิจกรรมการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์และส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังได้รับการพัฒนาทักษะใน 4 ด้าน คือ ด้านดิจิทัล การเงิน ภาษาอังกฤษ และสังคม พร้อมได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อติดอาวุธให้กับผู้ได้รับการจ้างงานในการลงไปทำงานร่วมกับชุมชนและเตรียมพร้อมสำหรับต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต

Advertisement

“โครงการ U2T เริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.พ.2564 เป็นโครงการที่ทำให้คน 6 หมื่นคน มีงานทำในช่วงวิกฤตโควิด มีมหาวิทยาลัย 76 แห่งทั่วประเทศ เข้ามาร่วมในโครงการ เพื่อทำงานในพื้นที่ 3,000 ตำบล และตอนนี้ U2T ได้เดินมาถึงครึ่งทางแล้ว ที่สำคัญ U2T เป็นทีมแนวหน้าของ อว. ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ลงพื้นที่ทำงานในชุมชนโดยปรับเพิ่มการทำงานให้มาช่วยสนับสนุนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด เช่น การรณรงค์ป้องกันโควิดในชุมชน สนับสนุนการคัดกรอง ตรวจเบื้องต้นโดยวิธีหาแอนติเจน (ATK) ฉีดวัคซีน รวมทั้งทำกลไกกักตัวที่บ้านและชุมชน ขอชื่นชม ม.บูรพา ที่ทุ่มเทสรรพกำลังทุกด้านในการดำเนินในโครงการนี้เพื่อช่วยท้องถิ่น อ่างศิลาในวันนี้ ยังดูมีชีวิตชีวา แม้จะซบเซาลงไปบ้าง แต่คนที่นี่ก็ยังแสดงให้เห็นว่า ยังหายใจอยู่ยังสู้อยู่ จึงอยากมาเยี่ยมให้กำลังใจกัน ให้รู้ว่าเรายังสู้ไปด้วยกัน” ศ.ดร.เอนกกล่าว

หลังการตรวจเยี่ยม ได้มีนักศึกษาที่ได้รับการจ้างงานโครงการ U2T ใน ต.หนองตำลึง คือ นายพีรณัฐ อินทรารักษ์สกุล จากวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มายื่นหนังสือถึง ศ.ดร.เอนก โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า…

Advertisement

“ข้าพเจ้าเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการหางานที่เคยหางานอย่างพยายามอุปสรรคยากลำบากหลายครั้ง แต่เคยสมัครงานราชการ และสัมภาษณ์ของราชการไม่ผ่าน หรือสมัครงานบริษัท แต่บริษัทไม่รับคนพิการ ผลกระทบเนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 พอได้ยินข่าวประกาศสมัครงานโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล จึงทำให้ข้าพเจ้าได้รับโอกาสจนได้ทำงาน…

…อยากบอกขอบคุณถึงท่านรัฐมนตรี อว. ให้สนับสนุนตนเองได้เรียนรู้ทำงานปฏิบัติเพื่อพัฒนาศักยภาพของข้าพเจ้า เพราะไม่เคยทำงานปฏิบัติด้านพัสดุข้าพเจ้ามีแต่ประสบการณ์วิชาชีพครู ข้าพเจ้ารู้สึกสบายใจในการทำงานร่วมกันและเรียนรู้ทำงาน และอยากให้ท่านรัฐมนตรี อว. อนุเคราะห์จัดหางานให้ข้าพเจ้าหลังหมดสัญญาจ้าง เพราะหางานได้ยากเนื่องจากเหตุผลที่เป็นคนหูหนวก สำหรับคณะเภสัชศาสตร์นอกจากจะดูแลงาน U2T ในตำบลต่างๆ แล้ว อาจารย์และพี่ๆ ร่วมงานก็กำลังทุ่มเททำงานหนักเพื่อผู้ป่วยโรคโควิด-19ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบาย อว.ครับ ข้าพเจ้าจึงอยากฝากท่านรัฐมนตรี อว. ช่วยสนับสนุนคณะของข้าพเจ้าในการทำกล่องโควิด-19 หรือการผลิตยาฟ้าทะลายโจร เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่จำเป็นต้องใช้ครับ”

ขณะที่ ศ.ดร.เอนกได้รับจดหมายของนายพีรณัฐด้วยตัวเอง พร้อมกล่าวว่า “รู้สึกดีใจมากที่วันนี้ได้พบกับผู้พิการทางการได้ยิน และได้ทราบว่า U2T ได้ช่วยให้เขามีงานทำ จากเดิมไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องอยากให้มีการจ้างงานในโครงการนี้ต่อ แต่รัฐบาลมีความรับผิดชอบในหลายทางจึงอยากให้ทุกคนโดยเฉพาะสื่อมวลชนหากเห็นว่าโครงการนี้ดี มีประโยชน์ ก็อยากให้ช่วยสนับสนุน ยืนยันว่าอว.ยังทำงานอย่างหนัก พร้อมเป็นกองหนุนที่มีทั้งคุณภาพและปริมาณ และร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปให้ได้ โควิดแม้จะเป็นวิกฤต เป็นปัญหา แต่อีกด้านก็เป็นโอกาสให้ อว.ได้พัฒนาความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ และยังทำได้ในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย” ศ.ดร.เอนกกล่าว และว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับรัฐบาลฝากความปรารถนาดีความห่วงใยมาให้ทุกคน และรัฐบาลยังทำงานอย่างหนัก แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ้างเป็นธรรมดา ซึ่งเรื่องไหนมีความถูกต้อง ก็พร้อมรับไปแก้ทันที ปรับปรุงทันที

เชื่อว่าสถานการณ์โควิดในไทยกำลังเริ่มดีขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มน้อยกว่าตัวเลขคนหายป่วยกลับบ้านติดต่อมาหลายวัน แสดงว่าล็อกดาวน์ได้ผล และยังมีการระดมฉีดวัคซีนกันอย่างเต็มที่อีกด้วย เราต้องมีความหวัง รักษาตัวเองไว้ให้ดี เพื่อจะได้ไปชื่นชมกับชัยชนะหลังโควิด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image