สถานีคิดเลขที่ 12 : ไปต่อกับพรรคไหน

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไปต่อกับพรรคไหน สมาชิกของทั้งพรรคพลังประชารัฐ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไปต่อกับพรรคไหน

สมาชิกของทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นั่งเป็นหัวหน้าพรรค รทสช. ยังคงรอฟังคำตอบถึงความชัดเจนทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะไปต่อในทางการเมือง โดยเฉพาะจะเป็น 1 ใน 3 รายชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคการเมืองใด

เพราะ ส.ส.และสมาชิกของทั้งสองพรรค รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต่างจับตาถึงความชัดเจนทางการเมือง ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า ให้รอฟังคำตอบหลังการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำเอเปค ว่าจะไปต่อทางการเมืองกับพรรคไหน และไปต่อด้วยรูปแบบและวิธีการอย่างไร

เนื่องด้วยการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ หากไปต่อกับพรรค พปชร. หรือพรรค รทสช. ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่แกนนำของแต่ละพรรค ต่างรับรู้กัน โดยเฉพาะเงื่อนไข ที่ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้เพียงแค่ 2 ปี หากได้รับการโหวตเลือกหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้เริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้นับแต่วันที่ 6 เมษายน 2560

Advertisement

นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถเป็นนายกฯได้ถึงปี 2568 อยู่ในวาระไม่ครบ 4 ปี เป็นโจทย์ที่ทุกพรรคจะดึง พล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ต้องหา “คำตอบ” กันเอาเอง

แม้กระแสความนิยมต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์ ต่อความเหมาะสมของบุคคลที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นนายกฯ ตามผลการสำรวจของนิด้าโพล ทั้งพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และ กทม. จะมีคะแนนนิยมตามหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มาเป็นอันดับที่ 3 ด้วยเรตติ้ง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ มีเพียงคะแนนนิยมจากภาคใต้ ที่ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยเรตติ้ง 23.94%ด้วยเหตุผล มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง

แต่เมื่อมาดูที่นั่ง ส.ส.พื้นที่ภาคใต้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า กับที่นั่ง 58 เสียง ให้ทุกพรรคได้ชิงเก้าอี้ ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่ถึงครึ่งของที่นั่งในภาคอีสาน 132 เสียง ภาคกลาง 122 เสียง

Advertisement

ภาคเหนือ 39 เสียง ซึ่งทั้ง 3 ภาค พรรค พท. กับ พรรค ก.ก. มีคะแนนนิยมมาเป็นที่ 1 และ 2

หากคิดคำนวณ ส.ส.ของพรรคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปช่วงชิงในพื้นที่ทั้งสามภาคข้างต้น โอกาสความเป็นไปได้คงไม่พ้นคำว่า “เหนื่อย” และ “หนัก”

แต่การชิงชัยในการเลือกตั้ง นอกจากคะแนนนิยมทั้งตัวบุคคลและพรรค ยังไม่ปัจจัยอีกหลายอย่างในการชี้ขาดแพ้-ชนะ

ที่สำคัญโพลที่แม่นและตรงที่สุด คือ ผลการเลือกตั้ง จะเป็นตัวตัดสินว่า ใครจะได้นั่งนายกฯตัวจริง หรือนายกฯตามโพล

จตุรงค์ ปทุมานนท์

อ่านข่าวอื่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image