รู้ตัวดีว่าพ้นสมัยไปแล้ว โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

รัฐบุรุษของอังกฤษ เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิลล์ ถูกเรียกร้องจากมหาชนอังกฤษให้เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อ พ..2483 ในขณะที่มหาสงครามโลกครั้งที่สองได้เริ่มขึ้นแล้วเนื่องจากเชอร์ชิลล์เป็นนักการเมืองที่มีความเด็ดขาด หัวดื้อและเป็นผู้สวนกระแสสังคมและนโยบายของรัฐบาลอังกฤษในแง่ของการยอมผ่อนปรนต่อการรุกรานยุโรปของเยอรมนี โดยเชอร์ชิลล์เรียกร้องให้อังกฤษเตรียมพร้อมสะสมอาวุธเพื่อทำสงครามกับเยอรมนีซึ่งเชอร์ชิลล์เห็นว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงสงครามได้ ครั้นสงครามเกิดขึ้นจริงๆ เขาจึงได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างเป็นเอกฉันท์และด้วยความเด็ดขาดและหัวดื้อของเขา เขาก็สามารถนำอังกฤษไปสู่ชัยชนะได้

แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองใกล้จะสิ้นสุดลงและเป็นที่แน่นอนแล้วว่าอังกฤษต้องชนะแน่ มหาชนอังกฤษก็เลือกผู้นำในยามสันติภาพคนใหม่คือผู้นำพรรคแรงงาน เนื่องจากคนอังกฤษรู้จักเลือกผู้นำเพราะตระหนักดีว่าผู้นำที่ยอดเยี่ยมยามสงครามนั้นไม่ใช่ผู้นำที่เหมาะสมยามสันติภาพ

กรณีคล้ายๆ กันที่ฝรั่งเศสเมื่อมหาชนชาวฝรั่งเศสเรียกร้องให้ นายพลชาร์ล เดอ โกล วีรบุรุษในสงครามโลกครั้งที่สองเข้ามาบริหารประเทศ เพราะฝรั่งเศสใน พ..2501 กำลังปั่นป่วนจากการกบฏภายใน ต้องการผู้ที่เด็ดขาดและหัวดื้อในการปราบปรามบรรดานายทหารนอกแถวจำนวนมากที่พยายามล้มล้างรัฐบาลมาโดยตลอด ซึ่งเดอ โกลก็เข้ามาจัดการจนสงบเรียบร้อยพร้อมกับสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับฝรั่งเศสอย่างมากและเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสหภาพยุโรปในปัจจุบัน

แต่ด้วยความหัวดื้อไม่ค่อยยอมฟังเสียงใครเท่าใดนักและมักมีความเชื่อเหมือนบรรดาผู้นำทั้งหลายที่อยู่ในอำนาจนานๆ ที่มักเชื่อว่าหากขาดตนเองแล้วประเทศชาติจะไปไม่รอด เดอ โกลจึงชอบแก้รัฐธรรมนูญที่ตัวท่านเองให้ร่างขึ้นมาและทุกครั้งที่เสนอการแก้รัฐธรรมนูญ เดอ โกลก็จะขู่ว่าหากคนฝรั่งเศสปฏิเสธข้อเสนอของท่านแล้วท่านจะลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีทันที จนกระทั่งชาวฝรั่งเศสก็ปฏิเสธจริงๆ เหมือนกัน ซึ่งท่านก็เลยต้องลาออกจริงๆ ใน พ..2512

ครับ! ทั้งท่านเชอร์ชิลล์กับท่านเดอ โกลนั้นประชาชนอังกฤษและฝรั่งเศสได้บอกเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแจ่มชัดคือว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป บริบทเปลี่ยนไป ทั้งสองท่านไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำอีกต่อไปแล้ว

ADVERTISMENT

ทั้ง 2 กรณีใน 2 ประเทศนี้เป็นตัวอย่างของประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย การเปลี่ยนผ่านจึงเป็นไปด้วยความราบรื่นแต่ในกรณีที่บางประเทศในทวีปเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ที่มีการเข้าสู่อำนาจโดยใช้กำลังทหารเข้าทำการรัฐประหารยึดอำนาจและสถาปนาตัวนายทหารผู้บงการนั้นขึ้นเป็นประธานาธิบดี แต่ต่อมาประเทศเกาหลีใต้มีการเลือกตั้งทั่วไปแบบประชาธิปไตยก็มีการเอาคืนโดยทางฝ่ายตุลาการพิพากษาให้ประหารชีวิต และจำคุกตลอดจนยึดทรัพย์สินเป็นของทางการดังในกรณีของ

1.อดีตประธานาธิบดีชอน ดูฮวาน เป็นนายทหารระดับนายพล ทำรัฐประหารและสั่งการสังหารหมู่ที่นครกวางจู (สถานที่ที่ไผ่ ดาวดิน และทนายอานนท์ นำภา ได้รับรางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน) ครั้งแรกเขาได้รับโทษถึงประหารชีวิตจากศาลชั้นต้น แต่ในที่สุดศาลฎีกาลงโทษให้เขาถูกจำคุกตลอดชีวิต ต่อมาว่าที่ ประธานาธิบดีคิม แดจุง ที่เคยถูก ชอน ดูฮวาน ตัดสินประหารชีวิตมาก่อน ขอให้ ประธานาธิบดีคิม ยองซัมอภัยโทษปล่อยตัวให้ชอน ดูฮวานออกจากคุก แต่ยังคงโทษปรับจากทรัพย์สินที่โกงรัฐไป ทำให้ชอน ดูฮวานและครอบครัวยังต้องถูกตามค้นหาทรัพย์มาชดใช้ให้กับรัฐจนถึงสิ้นปี พ..2563 เป็นปีสุดท้าย

ชอน ดูฮวานเสียชีวิตลงเมื่อ พ..2564

2.อดีตประธานาธิบดีโน แทอู ผู้เป็นนักเรียนนายร้อยทหารบกรุ่นเดียวกับชอน ดูฮวานและสมรู้ร่วมคิดกับชอน ดูฮวานมาตลอด และเป็นผู้สืบต่ออำนาจโดยรับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากชอน ดูฮวาน เขาจึงถูกฟ้องร้องกล่าวโทษพร้อมกัน แต่โน แทอูถูกตัดสินจำคุก 22 ปี 6 เดือน ต่อมาก็ได้รับการอภัยโทษปล่อยตัวพร้อมกับชอน ดูฮวาน แต่ยังคงโทษปรับจากทรัพย์สินที่โกงรัฐไป ทำให้โน แทอูและครอบครัวยังต้องถูกตามค้นหาทรัพย์มาชดใช้ให้กับรัฐจนถึงสิ้นปี พ..2563 เป็นปีสุดท้าย

ครับ! พอได้ข่าวว่ามีการเคลื่อนไหวเพื่อเสนอประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีจากวุฒิสมาชิก 2 คน ผู้เขียนจึงเขียนบทความเรื่องรู้ตัวดีว่าพ้นสมัยนี้เป็นมิตรพลี  เผื่อใครจะตระหนักได้บ้าง

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

 

อ่านข่าวน่าสนใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image