รัฐบาลอุ้มดีเซล 35 บาท อีก 4 เดือน ยอมสูญเงิน 4 หมื่นล้าน ททท.ลุยจัดโปรเที่ยวไทย

รัฐบาลอุ้มดีเซล 35 บาท อีก 4 เดือน ยอมสูญเงิน 4 หมื่นล้านบาท ททท.ลุยจัดโปรเที่ยวไทย แบงก์ชาติสำรองเงิน 2.5 หมื่นล้านรับตรุษจีน

เมื่อวันที่ 18 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์วันที่ 17 มกราคม ถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่ามีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 4 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม-20 พฤษภาคม ต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 20 มกราคมนี้ เพื่อช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ (ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร) และบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท หรือรวมแล้ว 4 หมื่นล้านบาท

นายสันติกล่าวว่า แม้จะมีการลดภาษีน้ำมันไปจำนวนมาก แต่สถานการณ์การคลังยังคงมีความแข็งแรง โดยในปีงบประมาณ 2566 จะมีรายได้จากกองทุนหมุนเวียน รายได้จะสัมปทานการประมูลคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ รายได้จากคลื่นความถี่โทรทัศน์ ขณะเดียวกันการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล 2 เดือนแรกของปีงบ 2566 เกินประมาณการตามเอกสารงบประมาณ กว่า 5.5 หมื่นล้านบาท

นายสันติกล่าวอีกว่า สำหรับรายได้ทั้งปีงบประมาณ 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านบาท เกินกว่าที่เอกสารประมาณการไว้ที่ 2.49 ล้านล้านบาท และยังมีเงินกู้ชดเชยการขากดุลงบประมาณอีก 6.95 แสนล้านบาท ส่วนเงินคงคลังทั้งปีงบ 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 7.1 แสนล้านบาท ดังนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องสถานะคลัง ยังคงมีความแข็งแรง เพราะยังสามารถจัดเก็บรายได้ได้ครอบคลุมส่วนที่ต้องใช้ไปกับมาตรการลดภาษีน้ำมัน และยังมีเงินสำรองสำหรับการใช้จ่ายของภาครัฐ ดังนั้น ไม่กระทบแน่นอน

ธปท.สำรองเงินตรุษจีน 2.5 หมื่นล้าน

นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรในระดับสูงกว่าปกติ ดังนั้น ธปท.ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ พิจารณาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน ภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มการชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ และประเมินว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. เพิ่มขึ้น รวมมูลค่าประมาณ 25,000 ล้านบาท ลดลงประมาณร้อยละ 7 จากปีก่อน

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 19-24 มกราคม ธนาคารพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมในการสำรองธนบัตรเพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า อาทิ ธนาคารกรุงไทย สำรองเงินสดจำนวน 30,443 ล้านบาท แยกเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 6,050 ล้านบาท และภูมิภาคจำนวน 24,393 ล้านบาท เป็นการสำรองสำหรับสาขา จำนวน 6,720 ล้านบาท และตู้เอทีเอ็ม (ATM) จำนวน 23,723 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เตรียมสำรองธนบัตร จำนวน 38,600 ล้านบาท ประกอบด้วย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 15,914 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 22,686 ล้านบาท แบ่งเป็นตู้เอทีเอ็ม 30,700 ล้านบาท และสาขา 7,900 ล้านบาท ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 766 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 11,108 เครื่อง

ททท.จัดแคมเปญบูมไทยเที่ยวไทย

น.ส.นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากสัญญาณบวกการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย คาดว่าในไตรมาส 1/2566 จะมีการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยภายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านคน-ครั้ง และตั้งเป้าหมายตลอดทั้งปี อยู่ที่ 250 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้เป็นสัดส่วน 35% ของรายได้รวมการท่องเที่ยวปีนี้ 2.38 ล้านล้านบาท ส่วนตลาดต่างประเทศ จะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 25 ล้านคน สร้างรายได้เป็นสัดส่วน 65% ของรายได้รวมปีนี้ อยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80% ของปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19

น.ส.ฐาปนีย์กล่าวว่า ตลาดไทยเที่ยวไทยถือเป็นกลไกหลักในการฟื้นคืนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ททท. จึงมีโครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน ภายใต้แนวคิด เที่ยวได้ทุกวันมหัศจรรย์ทั้งปี ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน เพื่อกระตุ้นตลาดในประเทศ โดยผนึกกำลังร่วมกับลาซาด้านำนวัตกรรมเข้ามาช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร สปา ได้นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว รวมถึงมีแคมเปญย่อยเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตลอดทั้งปี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในประเทศให้กลับคืนมาเร็วที่สุด ส่วนโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 คาดว่าจะนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ได้ภายในวันที่ 24 มกราคมนี้

น.ส.ฐาปนีย์กล่าวว่า ขณะนี้เห็นชาวจีนทยอยเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะปลายทางอย่างเชียงใหม่และภูเก็ต ซึ่งตอนนี้พบว่าสายการบินก็อยู่ระหว่างการทำการบินกลับคืนมาเพิ่มขึ้น อาทิ การเช่าเหมาลำจากเมืองเฉิงตู-หาดใหญ่ ก็พยายามจะดึงกลับเข้ามา ส่วนเมืองที่มีเข้ามาเที่ยวไทยแล้ว ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว จึงอยู่ระหว่างการฟื้นเที่ยวบินคืนมา

 

 

อ่านข่าวน่าสนใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image