อย.คุมเข้ม คุณภาพกัญชา สกัดรั่วไหล-ใช้ผิดวัตถุประสงค์

อย.คุมเข้ม คุณภาพกัญชา สกัดรั่วไหลใช้ผิดวัตถุประสงค์

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษได้ให้ความเห็นชอบในการอนุญาตการศึกษาวิจัยและการครอบครองกัญชาให้กับหลายหน่วยงาน เช่น มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยรังสิต องค์การเภสัชกรรม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ การอนุญาตการปลูกและการใช้ประโยชน์กัญชาต้องดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายปัจจุบัน

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า อย. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ และมีหน้าที่ในการกำกับดูแลการปลูก และการดำเนินการต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ให้รั่วไหลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ได้มีหน้าที่ในการดำเนินการผลิตใด ๆ กรณีผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนขออนุญาตปลูกได้ โดยดำเนินการภายใต้ความร่วมมือและกำกับดูแลของหน่วยงาน ของรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

“หากดำเนินการภายใต้ความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐด้วย ในการขออนุญาตปลูกไม่จำเป็นต้องทำโครงการศึกษาวิจัยก่อนแต่อย่างใด ตามแนวทางปฏิบัติด้านการจัดเตรียมสถานที่ปลูกที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษได้ให้ความเห็นชอบไว้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะการปลูกในโรงเรือนระบบปิดเท่านั้น สามารถปลูกได้ทั้งการปลูกแบบภายในตัวอาคาร ที่ควบคุมการปลูกด้วยระบบปิด และการปลูกแบบภายนอกตัวอาคาร ซึ่งสถานที่ปลูกเป็นแปลงปลูกกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม ในการปลูกจำเป็นต้องมีการควบคุมให้กัญชาที่ได้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย สามารถนำไปผลิตยาที่มีคุณภาพ มีความบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษ โลหะหนัก เชื้อรา หรือสารปนเปื้อนที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยากัญชาดังกล่าว ทั้งนี้ อย. ได้เผยแพร่แนวทางการพิจารณาอนุญาตและแนวทางการปฏิบัติสำหรับการจัดเตรียมสถานที่สำหรับผู้ขออนุญาตปลูกไว้แล้วทางเว็บไซต์ http://www.fda.moph.go.th/sites/Narcotics/SitePages/MARIJUANA62.aspx”นพ.ธเรศ กล่าว

Advertisement

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่เป็นข่าวว่ามีการอนุญาตองค์การเภสัชกรรมอย่างรวดเร็วนั้น ขอชี้แจงว่า องค์การเภสัชกรรมได้รับอนุญาตให้ทำการศึกษาวิจัยกัญชาตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ตั้งแต่ปี 2561 สำหรับการปลูก องค์การเภสัชกรรมได้เตรียมการที่จะขออนุญาตมาระยะหนึ่งแล้ว มีการจัดทำโรงเรือนในระบบปิด และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสถานที่ก่อนการยื่นคำขออนุญาต เมื่อ อย. ตรวจสอบคำขอสถานที่ และเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้ว จึงได้เสนอคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเพื่อพิจารณาตามลำดับ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ให้ความเห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรมปลูกภายใต้กฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ก่อนที่พระราชบัญญัติฉบับใหม่จะมีผลใช้บังคับ จึงไม่ใช่กรณีของการอนุญาตอย่างรวดเร็วแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image