กก.ไตรภาดี ฝั่งลูกจ้างชี้ พออยู่ได้ แม้ได้ตังค์เพิ่มน้อย วอน รบ.คุมราคาสินค้า แก้ของแพง

กรรมการไตรภาคี ฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้าง ให้ความเห็นปม ‘นายกฯ’ สั่งทบทวนการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2567 โดยต้องการตัวเลขที่ 400 บาท แย้งต้องการรักษาสภาพจ้างงาน แนะรัฐบาลแก้ของแพงดีกว่า

จากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอให้มีการทบทวนมติการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 2-16 บาท ที่คณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 ในรูปคณะกรรมการไตรภาคีประชุมร่วมกันและมีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าการปรับขึ้นเพียง 2 บาทต่อวันต่ำเกินไปนั้น

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายอรรถยุทธ ลียะวณิช คณะกรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง ระบุว่า ในเมื่อคณะกรรมการไตรภาคี ที่ประกอบไปด้วยฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ตกลงกันไปแล้วว่า ภาพรวมทั่วประเทศได้ขึ้นค่าจ้างอีก 2-16 บาท ทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ที่จะใช้ในปี 2567 จะอยู่ที่วันละ 330- 370 บาท แตกต่างกันเป็นรายพื้นที่เศรษฐกิจ โดยภาพรวมทั่วประเทศได้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 2.37% สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน 2566 อยู่ที่ 2.04%

ขณะที่ นายวีรสุข แก้วบุญปัน คณะกรรมการค่าจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ระบุว่า ค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ถึงแม้ลูกจ้างจะไม่พอใจ ต่อให้ได้ขึ้นไปถึงวันละ 400 บาท ก็ยังไม่พอกิน พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ที่ตกลงกันได้ในอัตรา 330-370 บาท เป็นจุดสมดุลเป็นค่าจ้างขั้นต่ำที่นายจ้างจ่ายไหว ไม่เดือดร้อนกับการประกอบกิจการ

Advertisement

นายวีรสุขกล่าวว่า ขณะที่อัตราใหม่ถึงจะได้ขึ้นน้อย แต่ลูกจ้างก็พออยู่ได้ จึงไม่ได้เรียกร้องค่าจ้างที่สูงเกินไป และประเด็นสำคัญคือเพื่อรักษาภาวะการจ้างงานให้คงอยู่ ให้แรงงานมีงานทำ มีรายได้ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด พร้อมเสนอให้ภาครัฐควบคุมราคาสินค้า แก้ปัญหาข้าวของแพง แก้ไขปัญหาปากท้องให้เป็นรูปธรรม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image