‘ศรีไพร’ โอด รบ. ‘ยิ่งชีพ’ เข้าใจทะลุแก๊ซ ซัดวงการ ตร.-ฝาก ส.ส. ‘ชีวิตทางการเมือง’ ขึ้นอยู่กับพรุ่งนี้

วันที่ 3 กันยายน 2564 - 17:35 น.

เมื่อวันที่ 3 กันยายน สืบเนื่อง แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มทะลุฟ้า ประกาศนัดหมายชุมนุมใหญ่ ยืนยันดันเพดาน “ราษฎรไม่ไว้วางใจมึง” ที่แยกราชประสงค์ เวลา 16.00 น. คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร วันสุดท้าย นั้น

เวลา 15.45 น. ที่แยกราชประสงค์ มีการกั้นแผงเหล็กปิดกั้นการจราจรเพื่อใช้พื้นที่ ถ.ราชดำริ เป็นจุดชุมนุม
กลถ่มทะลุฟ้า เริ่มนำผืนผ้ามากางที่พื้น สำหรับให้ผู้ชุมนุมเขียนรัฐธรรมนูญที่ต้องการ ด้าน นายโชคดี ร่มพฤกษ์ ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บรรเลงดนตรี ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงาน การชุมนุมวันนี้ จะมีการแจกหนังสือปกสีน้ำเงิน ที่บันทึกคำปราศรัยของ นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษชน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (ม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์) จำนวน 1,112 เล่ม อีกด้วย

เวลา 16.09 น. “ไฟซ้อน” พิธีกรจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขึ้นกล่าวเปิดเวที

จากนั้น เวลา 16.13 น. นางศรีไพร นนทรีย์ ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง กล่าวปราศรัยเป็นคนแรก ถึงการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล ภายใต้สถานการณ์โควิด ความว่า พี่น้องแรงงานต้องเจอปัญหามากมาย หลายคนตกงานเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจขาลง ชีวิตคนงานเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย นอกจากตกงานแล้ว ยังเสี่ยงความตาย เพราะรัฐบาลไม่ได้เหลียวแลแต่อยางใด

“คนงานหลายคนติดโควิด แต่เข้าไม่ถึงการรักษา นี่คือชะตากรรมที่คนงานอย่างเราเผชิญ ลูกจ้างต้องฝ่าฟันเอง คนงานมากมาย นอนตายคาบ้าน และข้างถนน นี่คือการบริหารงานภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา วัคซีนที่หลายคนถามหา ก็ไม่ได้

ประเทศที่พัฒนาแล้ว ลูกจ้างไม่ต้องรับภาระตรงนี้เลย แต่ประเทศไทย เงินไม่พอจ่าย นโยบายรัฐบาลยังแก้ไขอะไรไม่ได้ นโยบายที่หาเสียงก็ไม่นำมาปฏิบัติ จนจะสิ้นสุดวาระแล้ว รัฐบาลนี้จึงไม่ใช่ดีแต่พูด แต่โกหก หลอกลวง

คนงานติดโควิด ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อไหร่จะได้วัคซีนดีๆ เราจะได้เหมือนประเทศอาเซียนที่เขาได้รับกัน บุคคลเหล่านี้กินภาษีประชาชน แต่ไม่ซื่อสัตย์กับประชาชน” นายศรีไพร กล่าว

ก่อนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกไป

จากนั้น เวลา 16.28 น. นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งถึง การชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ซ ที่แยกดินแดงว่า เป็นเพราะระบบในรัฐสภาล้มเหลว จึงไม่แปลกที่เยาวชนกลุ่มหนึ่งจะคิดค้นวิธีการใหม่ๆ พี่น้องที่สู้ที่ดินแดง ไม่ได้อยากทำร้ายตำรวจ ไม่ได้อยากเผารถ แต่เบื้องหลังการแสดงออกทั้งหมดคือ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพวกพ้องออกจากอำนาจ ไม่เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ลองลาออกดู รับรองดินแดงสงบ

“พวกเขายังมีความฝัน ที่จะอยู่ในประเทศที่มีรัฐสวัสดิการเท่าเทียม ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นความฝันแบบเดียวกับพวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้ แม้จะเลือกวิธีการที่ต่างกัน แต่บนเส้นทางที่มีเป้าหมายอันเดียวกัน ‘เราคือเพื่อนกันทุกคน’ เราอาจจะอยากบอกพี่น้องที่แยกดินแดงว่า ตอนที่ท่านถูกยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา ร่างกายท่านเจ็บ เราไม่ได้เจ็บร่วมกับท่าน แต่ขอให้ทราบว่า ทุกครั้งที่เราเห็นความรุนแรงจากตำรวจ ข้างในใจเราก็เจ็บเหมือนกัน ทุกความไม่เป็นธรรมเกิดเพื่อนกับเรา 1 คน นั่นคือความไม่เป็นธรรมสำหรับเราทุกคน เราจึงเรียกร้อง ร่วมกัน ให้วงการตำรวจรับผิดชอบ

เรียกร้องให้ตำรวจหาทางอยู่ร่วมกับประชาชนให้ได้ รัฐบาลประยุทธ์บอกจะปฏิรูปตำรวจ ผ่านมา 4 ปี ยังไม่ปฏิรูป ทุกวันนี้ไล่จับ ไล่ยิงประชาชาชน ซ้อมผู้ต้องหาจนถึงแก่ความตาย ที่บอกจะปฏิรูป แค่อยากสืบทอดอำนาจ นี่คือผลงานของประยุทธ์ ถ้าให้อยู่ในอำนาจต่อไป องค์กรตำรวจก็จะเป็นแบบนี้ต่อไป
พอมีเรื่องเดือดร้อนจริงๆ ขึ้นมา ก็ไม่มีใครไว้ใจตำรวจอีกแล้ว” นายยิ่งชีพกล่าว และว่า

ตำรวจ หลังไมค์ท่านบอกว่า ไม่อยากทำ เบื่อแล้วรัฐบาลประยุทธ์ แต่ตราบใดที่ท่านยังทำตามคำสั่งของเขา ก็ขอให้ตำรวจทุกท่านที่ได้ยินเสียงนี้ ลุกขึ้นมาแล้วยืนยันว่า สถาบันตำรวจจะดีกว่านี้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกไปเท่านั้น

ก่อนกล่าวถึง ส.ส.ที่ไม่เข้าประชุม เห็นได้เมื่อกล้องในสภาฉายภาพกว้าง

“แสดงว่าการลงมติแต่ละครั้ง ไม่ได้เกิดจากการรับฟังการประชุม แต่กลายเป็นขึ้นอยู่กับอย่างอื่น ไปตกลงอะไร นั่งคุยที่ไหน ซึ่งพรุ่งนี้เราจะได้รู้ ว่าสุดท้ายแล้ว แต่ละคนจะโหวตอะไร แต่ขอให้ ส.ส. จำเอาไว้ ประชาชนไม่ได้โง่ และชีวิตทางการเมืองของทุกท่าน ก็ขึ้นอยู่ว่า พรุ่งนี้จะโหวตอะไร” นายยิงชีพกล่าว ก่อนทิ้งท้ายว่า

วันนี้ต้องไล่ประยุทธ์ วันหน้ายืนยันแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อไปถึงประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง