อรอนงค์คาด ‘บิ๊กตู่อยู่ครบเทอม’ มองเผด็จการซูฮาร์โต ส่องไทย ‘อุ้มหาย-ใช้กฎหมายลิดรอนสิทธิ’ พอกัน
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.ดร.อรอนงค์ ทิพย์พิมล คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวชั่วคราวแก่นักกิจกรรมทางการเมืองทั้ง 11 คน ซึ่งถูกคุมขังโดยยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สิ้นสุด เมื่อ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยขณะยืน หยุด ขัง ผศ.ดร.อรอนงค์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงระบอบการเมืองของไทยในปัจจุบัน เทียบกับประเทศอินโดนีเซียว่า ความจริงไทยเป็นระบบที่คล้ายกับยุคของซูฮาร์โต ก่อนหน้าช่วงที่ซูฮาร์โตจะลงจากอำนาจก็ปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยมเผด็จการมานาน ใช้วิธีการคุกคามนักศึกษา ประชาชน คล้ายๆ กันกับไทย
ถ้าเช่นนั้น มองว่ารัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีโอกาสจะทำให้ไทยไปสู่จุดเดียวกับ อินโดนีเซียได้หรือไม่? ผศ.ดร.อรอนงค์ชี้ว่า มี “เงื่อนไข” หลายอย่างที่ค่อนข้างต่าง เนื่องจากอินโดนีเซีย ซูฮาร์โตเป็นเผด็จการด้วยตัวของเขาเอง
“เพราะว่าเขาสถาปนาอำนาจขึ้นมา และใช้เครื่องหมายเครื่องมือ ใช้กองทัพ และตัวเองก็เป็นทหารด้วย ใช้กฎหมายในการควบคุมประชาชนทางการเมือง แต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนตัวคิดว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่สูงสุด ไม่ได้เป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมากที่สุด เขาก็เป็นคล้ายๆ กับหมากตัวหนึ่ง แต่อาจจะมีความสำคัญมากหน่อย
“ถามว่าความเสียหายมันเท่ากันหรือไม่ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจจะวัดยาก เนื่องจากซูฮาร์โตอยู่ในอำนาจค่อนข้างนาน อยู่มา 30 กว่าปี แต่ถ้าเทียบกับภาวะวิกฤตที่คนไทยได้รับตอนนี้ ก็หนักเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะเทียบกันแบบไหน” ผศ.ดร.อรอนงค์กล่าว
สังเกตต่างประเทศ ย้อนเทียบประเทศตัวเอง ทำให้อาจารย์เห็นอะไรบ้างหรือไม่? ผศ.ดร.อรอนงค์กล่าวว่า บางทีเราก็เอามาใช้ คล้ายๆ กับว่า “ดูเป็นแง่คิด” แต่เนื่องจากสภาพ ทั้งทางวัฒนธรรม การเมือง สังคมที่ต่างกัน บางทีก็เอามาใช้ไม่ได้เป๊ะๆ แต่วิธีการที่รัฐบาลเผด็จการใช้ด้วยการทำกับประชาชน ก็จะคล้ายๆ กัน อย่างเช่น มีการออกกฎหมายลิดรอนสิทธิเสรีภาพคล้ายๆ กัน หรือการบังคับสูญหาย อุ้มหาย ลักพาตัว ยุคของซูฮาร์โตก็ใช้ แล้วเราก็เห็นปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่บ้านเราเหมือนกัน
“อีกอันหนึ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในบ้านเราคล้ายกับอินโดนีเซีย แต่ยังไม่เกิดคือการรวมพลังกันต่อสู้ของนักศึกษา ประชาชน ที่เขาสามารถรวมพลังกันได้มากกว่านี้
“อินโดนีเซียอาจจะมีมูฟเมนต์ที่คนต้องออกมา เพราะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักและคนกระทบเยอะมาก ของไทยตอนนี้จริงๆ วิกฤตก็หนัก แต่อาจจะมีอะไรที่ยังไม่สามารถทำให้คนมารวมตัวกันได้มากขนาดนั้น” ผศ.ดร.อรอนงค์ระบุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประจักษ์ ลั่น อย่าลืม! ไม่ได้เลือกผู้ว่าฯ 9 ปีเพราะใคร หวั่นคนไทย ‘ชาชิน’ ปมถูกลิดรอนสิทธิ
- 22 พ.ค. 8 ปี รัฐประหาร ‘พวงทอง’ ซัดทำบ้านเมืองล้าหลัง ทวงสิทธิเลือกผู้ว่า 77 จังหวัด
- คณาจารย์เดินเท้าจากมธ. ร่วม ‘ยืนหยุดขัง’ กลางสายฝน ขอทบทวนสิทธิประกัน 11 นักสู้
- ‘อนุสรณ์’ ห่วง ‘ตะวัน’ อดอาหารกว่า 1 เดือน เชื่อไต่สวน 26 พ.ค. สัญญาณดี
- ‘ยุกติ’ บอก ‘ตะวัน’ รักษาชีวิตไว้-ขอผู้มีอำนาจแก้ปัญหาระบบยุติธรรม ‘คืนสิทธิ’ ให้คนทุกกลุ่ม
มองการเมืองไทยจากจุดนี้ จะไปจบที่ตรงไหน? ผศ.ดร.อรอนงค์กล่าวว่า ค่อนข้างประเมินยาก แต่ส่วนตัวคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์น่าจะยังอยู่ได้ อาจจะ “อยู่จนครบเทอม” ไม่น่าจะมีอะไรที่พลิกมากกว่านั้น เพราะเขามีอำนาจหลายอย่างที่หนุนอยู่ข้างหลัง มีข้ออ้างแอบอิงสถาบัน และใช้กฎหมายในการควบคุม กล่าวคือองค์กรทั้งหลาย เครื่องไม้เครื่องมือของรัฐ อยู่ที่เขาหมด ทั้งตำรวจ ทหาร ระบบราชการ ตอนนี้สิ่งที่เราเรียกร้องคือ ขอให้ศาลทำหน้าที่แบบที่ควรจะทำ ทำตามกฎหมาย
“มันทั้งตลกทั้งเจ็บปวด ที่ว่าทำเราต้องมาเรียกร้องให้คุณทำสิ่งที่เป็นหน้าที่ที่ควรจะทำ” ผศ.ดร.อรอนงค์กล่าว
เมื่อถามว่า มีอะไรฝากถึง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ที่อดอาหารประท้วงสิทธิประกันตัวเป็นเวลา 1 เดือน หรือไม่? ผศ.ดร.อรอนงค์กล่าวว่า เห็นหลายคนขอให้ทานตะวันยกเลิกการอดอาหาร คิดว่าเขามีความคิดเป็นของตัวเอง ก็ห่วงเขา
“จริงๆ อยากให้คนที่มีอำนาจตระหนักว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั่น ‘ผิด’ และกลับมาทำสิ่งที่ถูก เราไม่ได้ร้องขอความเห็นใจ ความปรานีอะไร ขอแค่ให้ประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาทุกคดีอยู่แล้ว อยากให้กำลังใจเขา และอยากให้เขาออกมาเร็วๆ” ผศ.ดร.อรอนงค์กล่าวทิ้งท้าย
