We Watch ค้านระเบียบกกต. ‘เลือก ส.ว.’ แบบปิด หู ตา ปาก? คาใจ ให้แนะนำตัวแบบใด

We Watch ชวนค้านระเบียบกกต. ‘เลือก ส.ว.’ แบบปิด หู ตา ปาก? คาใจ ให้แนะนำตัวแบบใด

สืบเนื่องกระแสจับตาการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดย ส.ว.ทั้ง 250 คน ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามบทเฉพาะกาล จะหมดวาระลงในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 ซึ่ง ส.ว.ชุดใหม่นี้ จะมีจำนวนลดลงเหลือ 200 คน อย่างไรก็ดี เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งจากภาคประชาสังคม ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่คัดค้านระเบียบดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพและการรับรู้ของประชาชนทั่วไป เนื่องจากไม่สามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์ รวมถึงหาเสียงได้ (อ่านข่าว : กกต.ออกกฎเหล็กชิงส.ว. ห้าม ‘จ้อสื่อ-แจกใบปลิว’ ชวนลงสมัครไม่ได้ผิดกม. ‘ก้าวหน้า’ลั่นเดินหน้าต่อ)

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch) เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่อง คัดค้านระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567

สืบเนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ซึ่งวางกรอบที่เข้มงวดจนสร้างบรรยากาศของความกังวลและความหวาดกลัวให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็นวุฒิสมาชิก (ส.ว.) เพราะหากไม่ปฏิบัติตามอาจมีบทลงโทษทางอาญาให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งอีก 5 ปี ระเบียบของ กกต. ผู้ร่วมลงชื่อท้ายจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้จึงมีความเห็นว่าระเบียบนี้เป็นการปิดปากผู้สมัคร ปิดปากสื่อมวลชน และปิดหูปิดตาประชาชน มีความจำเป็นต้องคัดค้านและเรียกร้องให้มีการแก้ไข โดยมีรายละเอียดดังนี้

Advertisement

1.ปิดปากผู้สมัคร

ระเบียบดังกล่าวกำหนดให้ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวได้เพียงการทำเป็นเอกสาร A4 ไม่เกิน 2 หน้า โดยมีข้อความเพียงข้อมูลส่วนตัว รูปถ่ายของผู้สมัคร ประวัติการศึกษา และประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในกลุ่มที่สมัครเท่านั้น แม้จะให้มีการแนะนำตัวทางออนไลน์ได้ แต่ห้ามเปิดเผยให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้สมัครรับทราบ ด้วยแนวทางนี้ ในทางปฏิบัติผู้สมัครแทบจะไม่สามารถใช้โซเชียลมีเดียได้ ข้อบังคับเช่นนี้ตัดการรับรู้ และการมีส่วนร่วมของประชาชนออกจากการเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการทางการเมือง โดยการออกระเบียบไม่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวหรือประกาศตัวต่อสาธารณะ แต่ให้คุยกันเองในวงเล็กๆ ด้วยข้อมูลที่จำกัดเท่านั้น

2.ปิดปากสื่อมวลชน

Advertisement

นอกจากห้ามผู้สมัคร ระเบียบ กกต.ฉบับนี้กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนและผู้เอาใจใส่สังเกตการณ์ในหลายประการ ทั้งการห้ามผู้สมัครแนะนำตัวทางวิทยุ โทรทัศน์ รวมถึงห้ามให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน นักข่าว หรือสื่อออนไลน์ ประกอบกับระเบียบยังนิยามคำว่า “แนะนำตัว” ไว้อย่างกว้างขวาง คือ “การบอก ชี้แจง หรือแจกเอกสาร เพื่อให้ผู้สมัครอื่นรู้จัก” ขอบเขตที่กว้างและไม่ชัดเจนนี้ ทำให้ไม่อาจทราบว่าการกระทำถึงขนาดไหนจะถือว่าเป็นหรือไม่เป็นการแนะนำตัวของผู้สมัคร ก่อให้เกิดสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนอาจเกิดเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนเลือกจะเซ็นเซอร์ตัวเองเพื่อความปลอดภัย เพราะแม้จะไม่ใช่ผู้สมัคร แต่หากการรายงานข่าวนั้นถูกตีความว่าเป็นผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร อาจถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบและมีโทษเช่นเดียวกันกับผู้สมัคร

3.ปิดหูปิดตาประชาชน

ขอบเขตกฎหมายที่กว้าง ไม่ชัดเจน และโทษทางอาญาที่สูง ประกอบกับการที่ กกต.เองออกมาสื่อสารกับสาธารณะโดยตลอดว่าห้ามมีการหาเสียง แนะนำตัว ประกาศตัว หรือกระทำการที่เข้าข่ายจะมีบทลงโทษ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการบังคับทางอ้อมให้ประชาชนและผู้สมัครจำเป็นต้องจำกัดบทบาทของตนต่อกระบวนการเลือก ส.ว. ส่งผลต่อบรรยากาศการเลือก ส.ว.ที่กำลังจะเกิดขึ้นขาดการมีส่วนร่วมและโปร่งใสเพียงพอ จนสวนทางกับกระแสสังคมที่กำลังเรียนรู้และสนใจกระบวนการเลือก ส.ว.

ดังที่เราได้เห็นผู้ประสงค์จะลงสมัครคัดเลือกต่างทยอยประกาศตัวให้สาธารณะและให้ผู้สมัครคนอื่นได้รู้จัก ระเบียบ กกต.ฉบับนี้มีผลทำให้เกิดบรรยากาศที่ผู้ประสงค์จะสมัคร ส.ว.ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแนะนำตัว เพราะไม่แน่ใจขอบเขตของการแนะนำตัว จนที่สุดทำให้บรรยากาศการมีส่วนร่วมของประชาชนลดลง ทั้งยังขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 หมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ มาตรา 78 ที่กำหนดให้รัฐพึงส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมตลอดทั้งการตัดสินใจทางการเมือง

หากปล่อยไว้เช่นนี้ย่อมเป็นที่น่ากังวลว่าความน่าเชื่อถือของ ส.ว.ชุดใหม่ย่อมสั่นคลอนและไร้ซึ่งการยอมรับของประชาชน และที่เลวร้ายกว่านั้นหากปล่อยให้มีระเบียบที่ตัดการมีส่วนร่วมของประชาชนเช่นนี้ ยิ่งจะลดทอนความศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

เพื่อแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

1.ระงับการบังคับใช้ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแก้ไขเพื่อรองรับหลักการของการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน

2.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรกำหนดมาตรการและแผนงานในการส่งเสริมการรับรู้ การมีส่วนร่วม และการตรวจสอบการทุจริตโดยประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ผ่านการเปิดกว้างเพื่อรับฟังเสียงประชาชนและสื่อมวลชนที่จะได้รับผลกระทบให้มากยิ่งขึ้น

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567
We Watch

นอกจากนี้ We Watch ยังเชิญชวนประชาชนที่คิดเห็นตรงกัน ร่วมลงชื่อท้ายแถลงการณ์ ในช่องทางแสดงความเห็น หรือส่งข้อความโดยตรงมายังเพจ We Watch หรือร่วมลงชื่อจดหมายเปิดผนึกถึง กกต. เรื่องคัดค้านระเบียบฯ แนะนำตัว ส.ว.ได้ ที่นี่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image