ลุ้นวงเงินคนละครึ่งเฟส 6 เอกชนแนะรัฐควรช่วยกลุ่มโดนน้ำท่วมก่อน

วันที่ 19 ตุลาคม 2565 - 14:38 น.

จับตาวงเงินคนละครึ่งเฟส 6 ของขวัญปีใหม่คนไทย เอกชนแนะควรช่วยกลุ่มโดนน้ำท่วมก่อน

จากกรณี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี หลายโครงการ อาทิ ช้อปช่วยชาติ คนละครึ่งเฟส 6 กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาอยู่ในลิสต์แล้วทั้งหมด

พร้อมระบุว่า แหล่งเงินจะมาจากงบประมาณที่มาจากงบกลางส่วนหนึ่งและเงินกู้ที่ยังเหลืออยู่

โดยโครงการเหล่านี้มีหลักการ คือ กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี แม้ดัชนีทางเศรษฐกิจไปด้วยตัวเอง อยู่ในทิศทางที่ดี แต่ไม่ประมาท โดยช่วงสิ้นปีสัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธ.ป.ท.) ต่างมั่นใจว่าจีดีพีปีนี้จะมากกว่า 3% ดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้

“จะนำแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเข้า ครม.เห็นชอบให้เร็วที่สุด คาดว่ากลางเดือนพฤศจิกายนพร้อมกับของขวัญปีใหม่ปลายปี เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย เพราะการอุปโภคบริโภคเป็นปัจจัยสำคัญในเวลานี้” นายสุพัฒนพงษ์เน้นย้ำ

อ่าน

รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้สร้างความแปลกใจ แต่ถือว่ามีดีกว่าไม่ดีมาตรการใดๆ ออกมาเลย แม้จะเป็นมาตรการต่อเนื่อง ทั้งนี้ ต้องจับตาว่ารัฐบาลจะให้วงเงินต่อคนเท่าไหร่ จากที่ผ่านมาให้เพียง 800 บาทต่อคน จากโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ที่ 1 กันยายน ถึง 31 ตุลาคมนี้ ทั้งนี้ จากเงื่อนเวลาของคนละครึ่งเฟส 5 คาดว่าเฟส 6 จะเริ่มใช้ช่วงเดือนธันวาคม 2565 ถึง มกราคม 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนจากรัฐบาล

ด้านตัวแทนภาคเอกชนอย่าง นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ดีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่อยากเสนอคือ อยากให้รัฐบาลพิจารณาโครงการคนละครึ่งควรเป็นโครงการเพื่อช่วยลดค่าครองชีพกลุ่มผู้รายได้ปานกลางถึงน้อย แต่ที่ผ่านมาผู้ที่เข้ามาใช้สิทธิคนละครึ่งหลายคนเป็นคนที่มีฐานะรายได้สูง เลยทำให้ผลที่เกิดจากโครงการไม่ได้ช่วยผู้ที่เดือนร้อนจริง

นายแสงชัยระบุด้วยว่า อยากให้โครงการคนละครึ่งรอบใหม่ มีการระบุเพดานของรายได้ผู้มาใช้สิทธิ โดยรัฐบาลควรเลือกให้ผู้มีรายได้น้อยก่อน อาทิ ลูกจ้างรายวัน แรงงานรับจ้างทั้งในและนอกภาคการเกษตร ให้ครอบคลุมทั้งหมดนี้ ส่วนคนมีรายได้สูง อาทิ ผู้มีเงินเดือน 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ควรได้รับสิทธิทีหลัง เพราะถือว่าน่าจะเดือนร้อนน้อยกว่า

“ควรให้สิทธิคนละครึ่งกับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมอัตโนมัติ เพราะเป็นกลุ่มที่เดือนร้อนมากที่สุดจากน้ำท่วม เงินเยียวยาอาจจะช่วยได้แค่เรื่องซ่อมแซมบ้าน ดังนั้นควรให้คนละครึ่งเสริมเข้าไปด้วย รวมทั้งร้านค้า ตลาด ธุรกิจ วิสาหกิจชุมชน ที่ถูกน้ำท่วมผลกระทบหนักเช่นกัน รัฐบาลควรจะช่วยด้วยการดึงเข้ามาเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้คนกลุ่มนี้ด้วย” นายแสงชัยระบุ

อ่าน