แม่สุ ร่ำไห้ อายัดเพนกวินต่อ ‘ไมค์-บอย-ฟ้า’ พ้นเรือนจำ ลั่น เดินหน้าสู้ต่อ 3 ข้อเรียกร้องต้องได้

‘แม่สุ’ ร่ำไห้ อายัดเพนกวินต่อ – ‘ไมค์-บอย-ฟ้า’ พ้นเรือนจำ แฉราชทัณฑ์ ‘ผักชีโรยหน้า’ ลั่น เดินหน้าสู้ดุเดือด ‘3 ข้อ’ ต้องได้

เมื่อวันที่ 15 กันยายน สืบเนื่องศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ประกันตัว 1.นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า ราษฎรมูเตลู 2.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำราษฎ 3.นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย 4.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง และ 5.นายณัฐชนน ไพโรจน์ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยตีราคาประกัน 100,000 บาท และให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ต่อมากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เรียกระดมพลรอรับเพื่อน เวลา 13.00 น. ที่หน้าเรือนจำธัญบุรี เพื่อจับตากระบวนการของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากได้รับรายงานว่าจะมีการอายัดตัวนายพริษฐ์ นายภาณุพงศ์ และนายธัชพงศ์ ต่อนั้น

เวลาประมาณ 16.35 น. ที่หน้าเรือนจำธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภาณุพงศ์ นายธัชพงศ์ และนายพรหมศร ได้รับการประกันตัว โดยเมื่อพ้นรั้วเรือนจำธัญบุรี ประชาชนต่างส่งเสียงเฮ และปรบมือต้อนรับด้วยความตื่นเต้น ด้านนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน หลั่งน้ำตา หลังทราบข่าวว่า นายพริษฐ์ไม่ได้ออกมาจากเรือนจำ โดยมีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และประชาชนกล่าวให้กำลังใจพร้อมสวมกอด

นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ ระยอง กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนรวมสู้กันมา และขอบคุณศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขอบคุณราษฎร ขอบคุณเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกคนที่ไม่เคยทิ้งเรา ตนได้สื่อสารออกมาภายนอกแล้วว่า ตนจะไม่ร้องขอความยุติธรรม กับคนที่ไม่ยุติธรรมกับเรา สิ่งที่ทำได้คือ “รอ” ว่าจะเอาอย่างไรกับเราต่อ

Advertisement

“การสูญเสียอิสรภาพ หรือถูกกักขังของพวกเรา ถือเป็นภารกิจของการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ฉะนั้นแล้ว นับต่อจากนี้ไป ขอให้เป็นเวลาของการเปลี่ยนแปลงจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน มวลชนทุกคนที่ต่อสู้ร่วมกัน ไม่ว่าจากที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมจะยังสู้ต่อไป

การถูกพันธนาการด้วย EM ไม่สามารถทำอะไรพวกเราทั้ง 3 คนได้ หลายครั้งที่เราให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เราจะไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์โดยเด็ดขาด ไม่ว่าเราจะเจออะไรก็ตาม อยู่ในเรือนจำเราเจออะไรมากมาย อยู่ข้างนอกสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี แต่เข้าไปในเรือนจำติดโควิดทั้งหมดทันที

ฝากไปถึงรัฐมนตรี ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ว่าเรือนจำสามารถจัดการเรื่องปัญหาโควิดได้ อันที่จริงแล้วไม่สามารถจัดการได้เลย ยังเละเทะ การที่พนักงานสอบสวนคลอง 5 ไปให้เหตุผลกับศาลว่า การต่อสู้เราจะทำให้ติดเชื้อไวรัส ต้องบอกไว้ก่อนว่า การต่อสู้ของเราไม่เคยทำให้ติดเชื้อเหมือนกับเข้าไปในเรือนจำ” นายภาณุพงศ์กล่าว

Advertisement

ระหว่างนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีรถกระบะจะขับออกจากเรือนจำ ประชาชนจึงกล่าวว่า รอก่อนได้หรือไม่ อยู่ตั้งนานไม่ออก มาออกตอนนี้ ก่อนหลบทางให้รถขับออกไป

นายภาณุพงศ์กล่าวต่อว่า ยังยืนยันว่าจะร่วมต่อสู้กับพี่น้องประชาชนทุกท่าน ยังยืนหยัดใน 3 ข้อเรียกร้องของเราเหมือนเดิม ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังด้านอยู่ เราก็จะยังหน้าด้านไล่ ไม่มีคำว่าท้อหรือถอย หากวันนี้ยังได้กำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนอยู่ ฝากขอบคุณจากใจ ไม่มีอะไรทดแทนได้นอกจากการต่อสู้ที่จะเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม

ด้าน นายธัชพงศ์ หรือบอย กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เราตลอดระยะเวลาที่อยู่ในห้องขัง สิ่งที่เป็นกำลังใจกับเรามากที่สุดคือได้รู้ว่าพี่น้องที่อยู่ข้างนอก ‘ยังคงเคลื่อนไหวอยู่’ มันคือลมหายใจของพวกเราที่อยู่ข้างใน ทำให้พวกเรามีความหวัง แม้อยู่ข้างในก็พร้อมที่จะสู้ รู้ว่าข้างนอกก็มีการสูญเสีย จากนี้ไปเราจะสู้ด้วยกัน เรายืนยันจุดยืนของเรา 3 ข้อ ประยุทธ์ต้องออกไป, ร่างธรรมนูญใหม่ และปฏิรูปสถาบันฯ ให้ได้ ไม่มีนาทีไหนแล้วที่เราจะรวมพลังกันได้มากเท่านี้

“เราทราบดีว่าพี่น้องที่อยู่ข้างนอกถูกตำรวจขับรถกระบะชน และใช้ความรุนแรง จากนี้เป็นต้นไป ถ้าตำรวจยังทำแบบนี้อยู่ ต้องไม่ทำให้ตำรวจคนไหนใส่เครื่องแบบเดินบนท้องถนนได้อีกต่อไป ที่พวกเราถูกจับครั้งนี้ นี่คือการกลั่นแกล้งและความไม่เป็นธรรม และตำรวจก็เป็นหนึ่งในนั้น จากนี้ไปตำรวจที่ใช้ความรุนแรง ต้องตระหนักให้ดีว่าจะถูกประชาชนจับจ้องและลงโทษคุณเช่นกัน

สิ่งสำคัญตอนที่เราถูกจับอยู่ ตอนที่โควิดลงปอด ผมอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่ง รพ.ราชทัณฑ์ ทำผักชีโรยหน้าตอนที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไปเยี่ยมผมกับเพนกวิน การที่ขึ้นไปนอนบนเตียงผู้ป่วยได้ นั่นหมายความว่าเราสองคนใกล้จะตายแล้ว ท่านรู้หรือไม่ มีผู้ป่วยอีกหลาย 100 คน ที่ต้องนอนกองกันอยู่ในห้องเดียวกันเกือบ 50 กว่าชีวิตที่เป็นโควิด นั่นคือโรงพยาบาลสนาม เขาเอาเราไปนอนกองกัน ปิดไม่ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้าไปตรวจสอบโรงพยาบาลสนาม กรรมการสิทธิเข้าไป ก็พูดอีกอย่างว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ดูแลเป็นอย่างดี สิ่งที่แย่ที่สุด การที่ถูกย้ายมาเรียนจำธัญบุรี กรมราชทัณฑ์ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปลากตัวเพนกวินจากเตียงผู้ป่วย” นายธัชพงศ์กล่าว

โดยประชาชนส่งเสียงโห่

นายธัชพงศ์กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ไม่พอ ผู้คุมได้พูดคำหยาบคายและใช้กริยาท่าทีประทุษร้ายเรา 2 คน ที่น่าอับอายคือการแถลงของราชทัณฑ์ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อจากนี้เราจะกดดันไปที่กรมราชทัณฑ์ ให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ รพ.ราชทัณฑ์ ในกรณีใช้ความรุนแรงกับเราทั้งหมดในเรือนจำ

“อีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ออก ยังอยู่ในเรือนจำธัญบุรีคือ เพนกวิน ขอเสียงปรบมือให้กำลังใจ เพนกวินจะถูกย้ายไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีอานนท์ นำภา ไผ่ ดาวดิน และเพนกวิน เราจะไม่ปล่อยให้เพื่อนเราอยู่เรือนจำ ข้างนอกเราต้องสู้ให้ถึงที่สุด ต่อไปนี้ไม่มีการประนีประนอมยอมความ อีกคนคือ ณัฐชนน ไพโรจน์ แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ อยู่ที่เรือนจำชั่วคราวรังสิต วันนี้ก็จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน

ขอบคุณทุกคนที่ต่อสู้ เรารับทราบ และกราบขอบคุณทุกการเคลื่อนไหว” นายธัชพงศ์กล่าว

ด้าน นายพรหมศร หรือฟ้า กล่าวว่า ดิฉันได้รับข่าวความไม่ยุติธรรม คือ “อาทิตย์” ทีมทะลุฟ้า ไม่ได้รับการประกันตัว ตลอดเวลาที่ติดคุกในเรือนจำครั้งนี้ ทำให้การใส่กำไล EM จนกลายเป็นเพื่อนสนิท แต่ไม่อาจลดทอนความเป็นนักสู้ลงแม้แต่นิด

“ชาติเท่ากับประชาชน นับจากนี้ประชาชนจะทวงสถาบันชาติให้กลับมาเป็นของประชาชน นับจากนี้ ข้อเรียกร้องของเราทั้ง 3 ข้อ จะเข้มข้น ดุเดือดยิ่งขึ้น ตอนแรกเป็นการตั้งไฟ ต่อมาเคี่ยวกะทิ ตอนนี้เตรียมใส่เครื่อง ตักแกงใส่ขึ้นจานแล้ว

การประนีประนอมใดๆ กับประยุทธ์และองคาพยพ เป็นเรื่องต้องทำลาย” นายพรหมศรกล่าว

จากนั้น อ่านข้อความ ของนายพริษฐ์ที่ฝากออกมาว่า ใจความตอนหนึ่งว่า

เผด็จศึก เบ็ดเสร็จด้วย     มวลชน นำนา
การใหญ่อาศัยคน           กว่าล้าน
ส่งสามัคคีผจญ              ทรราช
พินาศ แต่ต่อต้าน           ต่อด้วย แรงเรา

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายภาณุพงศ์ นายธัชพงศ์ และนายพรหมศร กอดคอ ร่วมร้องเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนี้ทั้ง 3 ราย จะต้องกักตัวภายหลังหายจากโรคโควิด-19 อีก 14 วัน ก่อนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image