เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

ความจอมปลอม ที่เกินจะซ่อนเร้น | คำ ผกา

18.02.2025

คำ ผกา

 

ความจอมปลอม

ที่เกินจะซ่อนเร้น

 

พรรคประชาชนฉลองความสำเร็จเก้าอี้นายก อบจ.ลำพูน (หนึ่งเดียวที่ได้มา)

ยังไม่ทันครบสัปดาห์ก็เจอวิบากกรรมข่าวหมายจับคดีข่มขืนของ ปูอัด ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.เขตจอมทอง กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ก่อนหน้าที่อยู่พรรคก้าวไกล

ทำไมจึงเป็นวิบากกรรมของพรรคประชาชน เพราะใครๆ ก็รู้ว่า ปูอัดเจอเรื่องร้องเรียนในประเด็นล่วงละเมิดทางเพศทีมงาน และการล่วงละเมิดนั้นเกิดขึ้นในขณะที่ทีมงานคนนั้นอายุเพียง 18 ปี (อ่านรายละเอียดได้ที่ https://thestandard.co/key-messages-chaiyamparwaan-ex-asst/) ณ วันนั้น ปูอัดอยู่พรรคก้าวไกล และเรื่องอื้อฉาวทางเพศว่ารุนแรงแล้ว แต่ก็ยังไม่เท่ากระบวนการสอบวินัยในพรรคที่นำมาสู่การเปิดเผยข้อเท็จจริงว่ามี ส.ส.ในพรรคก้าวไกลโหวตปกป้องปูอัดถึงยี่สิบกว่าคน และชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้นสั่งไม่ให้เปิดเผยรายชื่อ ส.ส.ที่ยกมือปกป้องปูอัด

“ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ขอให้ทุกคนไม่เอารายชื่อว่าใครโหวตอะไร มากล่าวหาโจมตีกัน ดังนั้น ผมเองก็เปิดเผยไม่ได้ ก็เป็นคนบอกให้ ส.ส.ไม่ให้ออกมาเปิดเผยเอง เหตุผลก็มีแค่นั้น เราไม่ได้ปกปิดว่าใครมีความเห็นว่าอย่างไร แต่เป็นเรื่องกระบวนการภายในของพรรค และผมยืนยันว่า การที่มีความเห็น การโหวตแตกต่างกันนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่มีความชัดเจนไม่เท่ากันของทั้ง 2 กรณี” นายชัยธวัชกล่าว

https://www.thaipost.net/hi-light/480101/

แต่ท้ายที่สุด พรรคก้าวไกลก็ทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว พรรคมีมติขับปูอัดออกจากพรรค

 

การขับออกจากพรรคก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการ “ลงโทษ” จริงหรือไม่ เพราะใครๆ ก็รู้ว่า พรรคไทยก้าวหน้านั้นเป็นพรรคแต่เพียงในนาม ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ทำงานการเมืองจริงๆ หัวหน้าพรรค เลขาฯ พรรค กรรมการบริหารพรรคไม่ได้มีบทบาทในการทำงานเยี่ยงพรรคการเมืองเลย

การขับปูอัดออกจากพรรค จึงเป็นการ “ขับเชิงสัญลักษณ์” เอาชื่อปูอัดไปแปะไว้ที่พรรคไทยก้าวหน้า

แต่จริงๆ แล้วบทบาทของปูอัดที่เราเห็นก็ยังเป็นบทบาทภายใต้พรรคก้าวไกลที่ตอนนี้ชื่อพรรคประชาชน

และเราแทบไม่เห็นปูอัดใส่เสื้อพรรคไทยก้าวหน้า เวลาดูโซเชียลมีเดียของเขาก็เห็นเคลื่อนไหว ทำงานอยู่กับกลุ่มของไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ และยังทำคอนเทนต์การเมืองประหนึ่งเป็น ส.ส.ของพรรคประชาชน

สิ่งที่ออกจะเหนือความคาดหมายคือ หลังจากข่าวอื้อฉาวเรื่องการล่ววงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นสองเคสพร้อมกัน เคสของ ส.ส.ปราจีนบุรี วุฒิพงศ์ ทองเหลา หลังจากถูกขับออกจากพรรค ส.ส.คนนี้ทำตัวเงียบๆ โลว์โปรไฟล์ไปเลย และไม่ออกมาเคลื่อนไหวอะไรให้เป็นประเด็นในสื่อ เดาว่าต้องการอยู่รับเงินเดือน ส.ส.ไปเรื่อยๆ จนครบ 4 ปีให้คนลืมๆ ไป ส่วนจะทำการเมืองต่อหรือไม่ ก็ค่อยดูกระแส หรือดูว่ามีพรรคไหนจะให้การสนับสนุนบ้าง

ตรงกันข้าม ไชยามพวาน ทำตัวเงียบๆ ไปไม่กี่เดือน เขาเริ่มเคลื่อนไหว แสดงบทบาท แสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

และดูเหมือนไชยามพวานจะทำสำเร็จ ผู้สนับสนุนพรรคส้มทั้งหลายก็ทำเป็นลืมๆ

 

เรื่องอื้อฉาวและคดีล่วงละเมิดทางเพศที่ไชยามพวานไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยนอกจากความพยายามจะทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นการ “สมยอม” ไม่ใช่การ “ขืนใจ” จนกระทั่งเคสล่าสุดที่มีการออกหมายจับ กรณีข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน

ตามเนื้อข่าวบอกว่า ไชยามพวานไปดื่มที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ย่านถนนมูลเมือง (เหตุเกิดในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ไชยามพวานไปกับทีมหาเสียงของพรรคประชาชนที่ลำพูนหรือไม่?)

ในร้านนั้นเองไชยามพวานพบกับนักท่องเที่ยวไต้หวันสองคนและดื่มด้วยกันจนมึนเมา หลังจากนั้น ไชยามพวานพานักเที่ยวทั้งสองไปส่งที่โรงแรม เหตุการณ์หลังจากนั้นจากปากของเจ้าทุกข์คือ ไชยามพวานข่มขืนเขา มีหลักฐานเป็นสารคัดหลั่ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานทั้งหมดยื่นต่อศาลจนทำให้มีการออกหมายจับตามที่เป็นข่าว

ไชยามพวานออกมาตอบโต้ว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง ทำไมไม่ออกหมายเรียกก่อน

ทางตำรวจบอกว่าได้มีการติดต่อไชยามพวานแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ

และโทษของคดีข่มขืนนั้นสามารถออกเป็นหมายจับได้

 

หลังจากมีข่าวนี้ออกมาฉันคาดหวังว่า

จะได้เห็นแถลงการณ์แสดงจุดยืนของพรรคประชาชนโดยหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือโฆษกพรรคว่า

หนึ่ง สถานะและความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาชนกับไชยามพวานมีความสัมพันธ์กันแบบไหน

สอง พรรคประชาชนมีจุดยืนเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เกี่ยวพันกับความสัมพันธ์เชิงอำนาจ เพราะชัดเจนว่า เคสที่เกิดกับน้องฝึกงาน/ทีมงาน เกี่ยวพันกับความศรัทธา ความเชื่อใจ (พี่เขามีอุดมการณ์ พี่เขามีความตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้น พี่เขาจึงเป็นคนดี น่าเชื่อถือ) หรือเคสนักท่องเที่ยวไต้หวัน ที่อาจมองว่าไชยามพวานเป็นถึง ส.ส. จึงไว้ใจให้ไปส่งที่โรงแรม และถูกไชยามพวานข่มขืน หรือฉวยโอกาสล่วงละเมิดทางเพศ

สาม พรรคประชาชนในฐานะที่จุดขายของพรรคคือความหัวก้าวหน้าและความยุติธรรม มีจุดยืนในเรื่องนี้อย่างไร และจะให้ความเป็นธรรมกับผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาอย่างไร

 

แต่น่าผิดหวังมากที่เหตุการณ์ผ่านมาหลายวัน เราไม่ได้ยินแถลงการณ์ใดๆ จากพรรคประชาชนเลย นอกจาก ส.ส.หญิงสองสามคนที่ออกมาประณาม และการออกมาประณามนั้นก็ไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากพรรค เหมือนออกมาประณามในนามส่วนตัวมากกว่าในนามของพรรค

หนักหนาสาหัสกว่านั้น อินฟลูฯ ตัวพ่อตัวแม่ของพรรค อย่าง เจี๊ยบ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กับ อธึกกิต แสวงสุข ออกมาแก้ต่างว่า ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่าผิด ถ้าให้เขาลาออกจาก ส.ส. แล้วปรากฏว่าเขาไม่ผิด ใครจะรับผิดชอบการสูญเสียสถานะ ส.ส.ของเขา?

และที่เข้ารกเข้าพงที่สุดคือ อมรัตน์ที่บอกว่า one night stand เป็นเรื่องธรรมดา รสนิยมทางเพศ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ราวกับจะบอกว่า นักท่องเที่ยวไต้หวันเต็มใจไปกับไชยามพวาน แล้วมาแบล๊กเมล์

ถามว่า อมรัตน์มีสิทธิ์จะสงสัย แต่เมื่อไม่มีใครรู้ความจริง การออกมาพูดเช่นนี้ก็เท่ากับอมรัตน์ก็ไปด่วนพิพากษาเช่นกันว่า ผู้หญิงเต็มใจ แล้วถามกลับว่า หากมันไม่ใช่ความเต็มใจ เป็นการข่มขืนจริงๆ อมรัตน์จะรับผิดชอบการกล่าวหานี้อย่างไร?

ฉันไม่อาจรู้รายละเอียดมากกว่าที่เป็นข่าว แต่ในแง่ของคดีเท่าที่มีหลักฐานคือ สารคัดหลั่งของไชยามพวาน ซึ่งนักเขียนซีไรต์ วีรพร นิติประภา ตั้งข้อสังเกตว่า “ข่มขืนทั้งทีไม่ใส่ถุงยาง กระจอกจริงๆ”

อ่านแล้วเหมือนจะแปลว่า ถ้าตั้งใจข่มขืนทำไมไม่ใส่ถุงยาง จะได้ไม่มีหลักฐาน?? หรือเปล่า?

แต่ก็ช่างเป็นการตั้งข้อสังเกตที่น่าอดสูที่สุดหากมองว่านี่คือข้อสังเกตจากปัญญาชน นักเขียน ที่มักอ้างว่าสนับสนุนสิทธิเสรีภาพของผู้หญิง

สิ่งเดียวที่ฉันจะพูดได้ก็คือ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงในสภาพเมามาย เป็นเรื่องที่ผู้ชายทุกคนควรจะหลีกเลี่ยง เพราะนั่นแปลว่าผู้หญิงที่เมา ไม่ได้อยู่ในสภาวะที่จะบอกว่าเขาเต็มใจมีเซ็กซ์กับคุณหรือไม่

ถ้าตื่นเช้าขึ้นมาผู้หญิงสร่างเมาแล้วพบว่ามีร่องรอยของการร่วมเพศที่เขาไม่ตั้งใจจะให้มันเกิดขึ้น เขาสามารถไปแจ้งความจับคุณข้อหาข่มขืนได้

เข้าใจว่าในทางกฎหมาย ผู้ชายไม่สามารถอ้างได้ว่าผู้หญิงไม่ได้ขัดขืน เพราะที่เขาไม่ขัดขืน เพราะอยู่ในสภาพที่สติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วน

 

นักการเมืองที่มีสติ มีวุฒิภาวะ นักการเมืองที่ไม่เอาความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวของตนเองเป็นที่ตั้ง ย่อมระมัดระวังที่จะไม่พาตัวเองไปในจุดที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดเรื่องราวแบบนั้น

สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องศีลธรรม หรือการเป็นคนดี หรือคนไม่ดี หากฉันเป็นประชาชน หากเจอนักการเมืองที่ไปกินเหล้า เห็นผู้หญิงเมาๆ แล้วฉวยโอกาสมีเพศสัมพันธ์กับเขาโดยย่ามใจ พฤติกรรมแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องเพศด้วยตัวของมันเอง แต่สะท้อนทัศนคติ วิธีคิด วิธีการทำงาน

ที่สำคัญมันสะท้อนให้เห็นว่า นักการเมืองคนนี้ดูถูกประชาชนที่โหวตเลือกตัวเองมาทำงาน ไม่ให้เกียรติประชาชน มองว่า ตำแหน่ง ส.ส. ต้องเอาไป “กร่าง” ให้คุ้ม แทนที่จะมองว่า เป็น ส.ส.แล้วชีวิตจะยากขึ้น ต้องระวังตัวมากขึ้น ไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจอีกต่อไปแล้ว เพราะได้แบกเอาคนสองหมื่นสามหมื่นคนที่โหวตให้ตัวเองได้เป็น ส.ส. ไว้บนบ่าบนไหล่ด้วยเสมอ

ภาพของพรรคส้มที่เป็นพรรคประชาธิปไตย พรรคแห่งความทันสมัย ก้าวหน้า พูดเรื่องสิทธิสตรี แรงงาน แอลจีบีทีคิวพลัส

กลายเป็นภาพปกที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

 

ยิ่งนานวันเรายิ่งเห็นว่าพรรคการเมืองนี้เป็นพรรคที่ขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่

คำว่าชายเป็นใหญ่ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าเขากีดกันไม่ให้ผู้หญิงมีบทบาท แต่พวกเขามีวัฒนธรรมที่เชื่อว่า “ด้วยความเป็นชายที่ฉันครอบครองอยู่นี้คือสิ่งที่ผู้หญิงทั้งโลกปรารถนาอยากเป็นเจ้าของ” เมื่อพวกเขาไปกิน ไปดื่ม กับน้องๆ ผู้หญิง กับเพื่อนร่วมงานผู้หญิง หรือบังเอิญเจอสาวๆ แปลกหน้าตามร้านอาหาร พวกเขาคิดว่า ผู้หญิงเหล่านั้นล้วนอยากได้ฉัน เป็นภาวะชายเป็นใหญ่ที่คิดว่า “ฉันหอมมากใครๆ ก็แย่งกัน” ดังนั้น การที่ฉันอุตส่าห์ไปมีเซ็กซ์กับเธอ เธอควรมาขอบคุณฉัน ไม่ใช่มาแจ้งความฉัน!!!!

และนี่คือสิ่งที่อธิบายว่าเพราะเหตุใดไชยามพวานจึงไม่เคยคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด กรณีล่วงละเมิดน้องฝึกงานตั้งอยู่บนคำอธิบายว่า เป็นเพราะผู้หญิงมาหลงรัก เมื่อฝ่ายชายไม่สานต่อจึงโกรธ และพาลหาเรื่องให้เสื่อมเสีย

กรณีของนักท่องเที่ยวไต้หวัน ไชยามพวานอธิบายตนเองถูกแบล๊กเมล์ กลั่นแกล้ง จึงพยายามปล่อยคลิปในร้านอาหาร ให้เห็นว่าผู้หญิงเมา และนัวเนียกับไชยามพวานอยู่แล้ว

ดังนั้น นี่ไม่ใช่การข่มขืน แต่เพราะผู้หญิง “ให้ท่า” เชิญชวนตั้งแต่แรก ไม่เพียงเท่านั้น ยังให้ “คนใกล้ชิด” ที่ไม่รู้ว่าคือใคร ออกมาบอกนักข่าวว่า ตำรวจเชียงใหม่เรียกเงินสี่แสนบาทเพื่อปิดคดี

ซึ่งน่าสนใจว่าไชยามพวานมีหลักฐานเรื่องการเรียกรับเงินหรือไม่?

และลองถามตนเองว่าหากเราเป็น ส.ส. ไม่ใช่ชาวบ้าน อี่แก้วอี่คำ เราต้องถามตัวเองกลับว่าทำไมตำรวจกล้าเรียกรับเงินเรา?

ตำรวจไม่กลัวเราถ่ายคลิปเอาไปอภิปรายในสภาหรือ?

หรือหากเราเป็น ส.ส. หากเราถูกตำรวจเรียกรับเงิน สิ่งที่เราน่าจะทำคือ ล่อซื้อเสียเลย แกล้งนัดรับถุงเงิน แล้วแอบถ่ายคลิป สิ่งนี้เอาไปแฉในสภา ถล่มรัฐบาลได้สวยๆ

คำถามคือ แล้วทำไมไชยามพวานที่โดยปกติเป็นสายปะทะ ทำไมจึงปล่อยให้เรื่องเรียกรับเงินของตำรวจเงียบจนกระทั่งมีหมายจับ?

ไชยามพวานจะถูกสภาโหวตให้ต้องลาออกจาก ส.ส. หรือไม่?

ไชยามพวานจะผิดตามหมายจับข้อหาข่มขืนหรือไม่?

เป็นกระบวนการของสภาและเป็นกระบวนการพิสูจน์ความบริสุทธ์ของผู้ถูกกล่าวหา

และเราจะไม่ด่วนพิพากษาเขาก่อนศาล

 

แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ พรรคอนาคตใหม่/ก้าวไกล/ประชาชน จะถูกจดจำในฐานะพรรคการเมืองที่ “ดีแต่พูด” และ “เก่งแต่ภาพ” ทันสมัย เป็นคนรุ่นใหม่แต่เพียงภาพลักษณ์ กรณี ส.ส.ผู้หญิงที่เจอเรื่องเมาแล้วขับรถ ถูกกดดันให้ลาออกทันที หรือกรณีล่วงละเมิดทางเพศของ ส.ส.ผู้ชายสองคน กลับได้รับปกป้อง อุ้มชู หรือท้ายที่สุด พรรคส้มนี้ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่หรอก ก็แค่ห่วงสองเสียงที่จะหายไป (เพราะไม่ใช่ปาร์ตี้ลิสต์ที่จะเลื่อนลำดับถัดมาขึ้นแทน)

ถามว่า แล้วพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่มีใครมีมลทินเลย? มีแต่คนดีๆ อย่างนั้นหรือ?

คำตอบคือ พรรคการเมืองอื่นๆ เขาไม่ได้มีจุดขายเป็นคนดีเหมือนพรรคส้ม พรรคการเมืองอื่นๆ เขาขายนโยบาย และเขาก็มีนักการเมืองหลายแบบหลากบุคลิกในพรรคของเขา

เช่น ในพรรคเพื่อไทยมีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เกย์ กะเทย มีคนรุ่นใหม่ มีคนรุ่นเก่า มีคนหน้าใหม่ที่แจ้งเกิดเพราะความสามารถ พร้อมๆ กับมีนักเลงบ้านใหญ่ มีนักเคลื่อนไหวทางการเมือง มีอดีต นปช. มีข้าราชการเกษียณ มี ส.ส.อายุแปดสิบ แล้วก็มี ส.ส.อายุ 28 มีนักการเมืองเพราะพ่อแม่เป็นนักการเมือง มีดารา มีนักร้อง

แล้วเขาก็ไม่ได้ปิดบังว่า เออ…พรรคเพื่อไทยมันไม่ได้มีแต่นักอุดมคติ มันคือส่วนผสมที่หลากหลาย และส่วนผสมเหล่านั้นก็มีฟังก์ชั่นแบบของมัน

บางคนโดดเด่นเป็นดาวสภา บางคนเก่งเรื่องงบประมาณ บางคนเชี่ยวชาญเรื่องต่างประเทศ บางคนเป็นสายเนิร์ด พูดไม่เก่ง แต่เก่งข้อมูล บางกลุ่มเป็นสายลูกทุ่งจ๋าๆ บูมเมอร์

วันดีคืนดีมีคนในพรรคเจอคดี นู่นนี่นั่น ก็ไม่มีใครออกมาบอกว่า ไม่จริง พรรคเรามีแต่คนดี ก็ก้มหน้ารับความจริงกันไป หากต้องติดคุกก็ไปติดคุก เดี๋ยวหาคนใหม่มาแทน

ทุกพรรคการเมืองเขาก็อยู่กับความจริงแบบนี้ ด้วยการบอกว่า เราอยากทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน แต่ไม่เคยบอกว่า ในพรรคเราล้วนคัดกรองเอาแต่คนดีๆ มาทำงาน

ก็มีพรรคส้มนี่แหละ การเมืองใหม่ การเมืองสีขาว การเมืองที่มีเจ้านายคือประชาชน การเมืองที่บ้านใหญ่ไม่ใช่นามสกุล แต่คือพฤติกรรม แล้ววันแรกที่ตั้งพรรคก็เที่ยวไปประกาศว่าเราเป็นพรรคแห่งความหวัง พรรคที่คนรุ่นใหม่มารวมตัวกันเพราะสุดทนอีพรรคการเมืองเก่าๆ แก่ๆ นักเลง นายทุน

ผ่านไปแค่ไม่กี่ปี ก็เห็นแล้วว่า สุดท้ายก็ค่อยเปิดเปลือยตัวเองออกมาว่าเป็นพรรคปากว่าตาขยิบ ไม่ได้สร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองขึ้นมาได้จริงๆ

เก่งเรื่องเดียวคือการทำสื่อโฆษณาให้ดูเหมือนจะเป็นพรรค “ปัญญาชน”

สุดท้ายแค่เคสไชยามพวานเคสเดียว ยังไม่มีใครในพรรคกล้าออกมาสบตาประชาชนแม้แต่คนเดียว

หัวหน้าพรรค – เงียบ

เลขาฯ พรรค – เงียบ

คนที่ปกติปากกล้าตาขวางใส่คนอื่นเก่งๆ อย่าง พรรณิการ์ – เงียบ

ศิริกัญญา – เงียบ

อมรัตน์ยังมีความกล้าหาญที่จะพูดในสิ่งที่ตนเองเชื่ออกมาดังๆ

เคสไชยามพวาน คนที่พังไม่ใช่ไชยามพวาน แต่คือพรรคส้มนี่แหละ

เพราะมันพิสูจน์ความจอมปลอมของทั้งพรรค



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

พล.ท.ภราดร ชี้ครบ93ปีประชาธิปไตยไทย เดินสายพูดคุยปชช. พบสาเหตุที่ ปชต.อ่อนแอ
อดีต รมว.คลังชี้ช่วงนี้​ จะให้ศก.​เติบโต​สูงขึ้น ต้องปรับค่าเงินบาทลดลง​ ให้แข่งขันได้​ อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางนโยบายของรัฐบาล​ ไม่ควรปล่อยให้ขึ้นๆลงๆ​ ตามนักเก็งกำไร
รสนา ชี้กัมพูชาอ้างชุมนุม1.5 แสนคน เป็นแค่ราคาคุย ความจริงแค่หมื่นกว่าคนเท่านั้น
‘ลิณธิภรณ์’ จวก ‘ศุภชัย’ ร้อนรนเป็นฝ่ายค้าน ลืมอดีต เพื่อไทย เคยเสนอนำกัญชากลับบัญชียาเสพติด ย้ำรัฐบาล ‘แพทองธาร’ เร่งรื้อมรดก ‘ภูมิใจไทย‘ ทิ้งกัญชาเสรีทำลายสังคมไทย
มงคล ทศไกร ร่วมเปิดฟุตบอลคลินิก ให้เยาวชนคลองเตยและชุมชนเชื้อเพลิง โครงการ “BROS.CORE 2025 : เปิดเทอมเติมฝัน ปีที่ 2”
‘ใหม่-เต๋อ’ หมั้นแล้ว เปย์หนักแหวนเพชร 15 กะรัต ‘7 ปีกลัวที่สุด จับแต่งเลย จะได้ไม่ต้องเลิก’
ประเทศดี ที่มี ‘คนทุจริต’ กับ ‘อยุติธรรม’ อยู่อาศัย
93 ปี 24 มิถุนายน 2475 อาจต้องรอเกิน 100 ปี …จึงจะมีประชาธิปไตย
‘เครียด-จุดเดือดต่ำ-ซึมเศร้า’ บช.น.จัดคอร์สธรรมะขัดเกลาใจ สู้ความกดดันชีวิตอย่างมีสติ
จากการไล่ล่าผู้อพยพของ I.C.E. ในแอลเอ สู่การประท้วงใหญ่ ‘No Kings’ ทรัมป์ ทั่วอเมริกา
ขยายผลขบวนการค้า ‘ยาเสียสาว’ สวมชื่อ 370 คนตาย-สั่งซื้อ อย.แจ้งจับเพิ่ม 6 แพทย์ ร่วมทีม ‘หมอแอร์’ ใช้แฟลต ตร.ซุก 1.7 แสนเม็ด
ศึกอิหร่าน-อิสราเอล เมื่อ ‘คาเมนี’ ถูกต้อนเข้ามุม