bg-single

คุยกับทูต | แดนนี แอนนัน เดนมาร์กกับเศรษฐกิจ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (1)

15.06.2025

ชนัดดา ชินะโยธิน | Chanadda Jinayodhin

การสนทนาวันนี้เริ่มต้นด้วยเคล็ดลับของการมีรอยยิ้มที่สดใสอยู่เสมอ

“สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรมและอีกส่วนหนึ่งมาจากลักษณะนิสัยของชาวเดนมาร์ก โดยเดนมาร์กได้รับการยกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกบ่อยครั้งตามเกณฑ์ของสหประชาชาติ ความสุขนั้นเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เช่น การเดินเล่นในป่าหรือขี่จักรยานไปทำงาน ชีวิตครอบครัว อัตราการว่างงานต่ำ การปกครองที่ดี การศึกษาฟรี (ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัย) และการดูแลสุขภาพฟรี เหล่านี้ ล้วนมีส่วนสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขโดยรวมของชาวเดนมาร์ก”

นายแดนนี แอนนัน (H.E. Mr. Danny Annan) เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ตอบคำถามแรกเกี่ยวกับการมีรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเครื่องมือการสื่อสารที่เป็นภาษาทางกายง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ทรงพลัง และมีอิทธิพลยิ่งกว่าการสื่อสารรูปแบบไหนๆ โดยสามารถส่งผ่านความรู้สึก ความเชื่อมโยง และความเป็นมิตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด

เป็นความสุขในสไตล์ ฮุกกะ (Hygge) ปรัชญาการใช้ชีวิตของคนเดนมาร์ก ศิลปะในการสร้างความใกล้ชิดผูกพัน ความรู้สึกผ่อนคลายในจิตวิญญาณ การหาความสุขจากสิ่งรอบตัวในปัจจุบัน

นายแดนนี แอนนัน (H.E. Mr. Danny Annan) เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย

เส้นทางสู่การเป็นนักการทูต

“ผมสนใจในกิจการต่างประเทศมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศ การแก้ไขความแตกต่าง และการทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก เป็นความอยากรู้อยากเห็นเพื่อมองให้ไกลได้เข้าใจโลกอย่างลึกซึ้ง เป็นความหลงใหลทางการทูต และความปรารถนาที่จะสร้างสะพานเชื่อมระหว่างวัฒนธรรมต่างๆ

ระหว่างเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ผมออกเดินทางท่องเที่ยวเกือบ 2 ปี การทูตได้มาอยู่ในวิถีชีวิตของผมก่อนที่จะจบการศึกษา ซึ่งเป็นบทบาทของการเจรจา ความเคารพซึ่งกันและกัน และเป้าหมายร่วมกัน จึงจะสามารถสร้างโลกที่ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง

มีประสบการณ์เดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 1991 ต่อด้วยมาเลเซียและอินโดนีเซียในทริปเดียวกัน อีกสี่ปีต่อมาจึงเดินทางไปลาตินอเมริกา จีน และแอฟริกาใต้ และเดินทางกลับมาเยือนประเทศไทยอีกถึงสามครั้ง เมื่อสำเร็จการศึกษาในปี 1996 จึงเริ่มทำงานที่กระทรวงต่างประเทศทันที

ประสบการณ์ในการได้เห็นโลกนั้นมีค่าอย่างยิ่ง การสัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันนับเป็นคุณค่าของการเดินทาง และไทยคือประเทศที่ 7 ที่ได้มาประจำทำงาน”

เลโก้ เรือขนส่งสินค้า เมอส์ก (Maersk ) บริษัทเดินเรือยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์ก

ความสัมพันธ์ระหว่างเดนมาร์กและไทยและชาวเดนมาร์กที่พักอยู่ในประเทศไทย

“เดนมาร์กและไทยมีความเป็นเพื่อนกันมากว่า 400 ปี เริ่มจากเรือสินค้าของเดนมาร์กมาถึงสยามในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ปัจจุบัน ความร่วมมือของเราครอบคลุมถึงการค้า วัฒนธรรม ความยั่งยืน และสัมพันธภาพระหว่างประชาชน

สำหรับชาวเดนมาร์ก ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่พิเศษมาก จากมรดกไทยอันล้ำค่า น้ำใจไมตรีในการต้อนรับอบอุ่นในทุกความหมาย และความเปิดกว้างของคนไทยทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษ

ความผูกพันพิเศษนี้สะท้อนให้เห็นได้จากตัวเลข

เมื่อปีที่แล้ว ชาวเดนมาร์ก 140,000 คนมาเยือนประเทศไทย และปัจจุบันมีชาวเดนมาร์กราว 4,000 ถึง 6,000 คนอาศัยอยู่ในประเทศไทย

ในขณะเดียวกัน เดนมาร์กก็ภูมิใจที่ได้ต้อนรับชุมชนชาวไทยที่มีชีวิตชีวาซึ่งมีประชากรราว 14,000 คน

ในระดับส่วนตัว ผมรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งกับความรักที่ชาวเดนมาร์กจำนวนมากมีต่อประเทศไทย และเช่นเดียวกันกับความรักของชาวไทยที่มีต่อเดนมาร์ก”

การค้าและการลงทุนถือเป็นรากฐานที่สำคัญของความสัมพันธ์ไทย-เดนมาร์ก โดยเริ่มมีการติดต่อระหว่างกันครั้งแรกในสมัยอยุธยาเมื่อปี 1621 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และสมเด็จพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 แห่งเดนมาร์กและนอร์เวย์ (His Majesty King Christian IV of Denmark and Norway) ในสมัยที่ราชอาณาจักรเดนมาร์กและราชอาณาจักรนอร์เวย์ยังรวมเป็นราชอาณาจักรเดียวกัน

ต่อมาทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 8 แห่งเดนมาร์ก (His Majesty King Frederick VIII of Denmark) โดยการลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรี การค้า และการเดินเรือ 1858 (Treaty of Friendship, Commerce, and Navigation 1858) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 1858

เดนมาร์กได้จัดตั้งสถานกงสุลที่กรุงเทพฯ ปี 1860 ในขณะที่ฝ่ายไทยได้เปิดสถานอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อปี 1954 จวบจนกระทั่งปี 1958 ไทยจึงได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเดนมาร์กขึ้นเป็นระดับเอกอัครราชทูต

หลังจากการลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว การค้าระหว่างสองราชอาณาจักรได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วตามเส้นทางเดินเรือ โดยเฉพาะการก่อตั้งบริษัท Andersen & Co. ในประเทศไทยเมื่อปี 1884 และบริษัทอีสต์เอเชียติก เมื่อปี 1897 ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขยายการค้าระหว่างสองประเทศและเพิ่มการส่งออกของไทยในภูมิภาคอื่น

นอกจากนี้ บริษัทด้านวิศวกรรมเดนมาร์กที่ได้เคยมีบทบาทในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยในอดีตทั้งระบบรถไฟไปจนถึงไฟฟ้า ก็มีส่วนสำคัญในการวางรากฐานการลงทุนของเดนมาร์กในประเทศไทยในยุคปัจจุบันด้วย

Christiansborg Palace คือ อีกหนึ่งอาคารสถาปัตยกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโคเปนเฮเกนที่ปัจจุบันนั้นเป็นทั้งอาคารรัฐสภาและสถานพำนักของนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศเดนมาร์ก

ความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและเดนมาร์ก

“ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของเราในปัจจุบันกำลังเฟื่องฟู บริษัทเดนมาร์กมากกว่า 100 บริษัท มาดำเนินกิจการในประเทศไทย โดยมีพนักงานประมาณ 50,000 คน และกำลังพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

ในปี 2023 การส่งออกของเดนมาร์กมายังประเทศไทยเติบโตขึ้น 8.5% และการส่งออกของไทยไปยังเดนมาร์กมีมูลค่ารวมกว่า 31,400 ล้านบาท

ภาคส่วนต่างๆ เช่น พลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อาหาร เกษตรกรรม การเดินเรือ เช่น บริษัทเมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์ก และการดูแลสุขภาพ เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

บริษัทเครื่องประดับอัญมณี อย่าง Pandora ต้นกำเนิดเดนมาร์ก ช่างไทยผลิต สร้างด้วยแนวคิดโรงงานสีเขียวตามมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy & Environmental Design) ในจังหวัดลำพูน เป็นตัวอย่างของค่านิยมร่วมกันของเราในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน”

ทุกวันนี้ Pandora มีโรงงานขนาดใหญ่หลายแห่งในประเทศไทย รวมถึงโรงงานที่ลำพูน ซึ่งได้รับมาตรฐาน LEED Gold สะท้อนแนวคิดด้านความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีทีมช่างฝีมือชาวไทยกว่า 12,000 คน ที่ผลิตเครื่องประดับได้มากกว่า 200 ล้านชิ้นต่อปี กลายเป็นหนึ่งในโรงงานจิวเวลรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หอศิลป์แห่งชาติเดนมาร์ก (Statens Museum for Kunst) กรุงโคเปนเฮเกน

ความสำเร็จและเป้าหมายของเดนมาร์ก

เกี่ยวกับกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว

“เราเป็นผู้นำระดับโลกในด้านพลังงานสีเขียว เรามุ่งมั่นที่จะเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายในปี 2050 และปลอดเชื้อเพลิงฟอสซิลภายในปี 2030 ในด้านการผลิตไฟฟ้า

การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเดนมาร์กเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลกด้วย

เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันเทคโนโลยีของเดนมาร์กในด้านพลังงานลมนอกชายฝั่ง ไฮโดรเจนสีเขียว และประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้กับพันธมิตรอย่างประเทศไทย นอกจากนี้ เดนมาร์กยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 0.1% ของการปล่อยทั่วโลก

ดังนั้น หากเราต้องการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง เราจำเป็นต้องเสริมความพยายามระดับนานาชาติที่มุ่งหวังที่จะทำให้โลกของเราพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลน้อยลง”

ศูนย์สถาปัตยกรรมเดนมาร์กและ BLOX เป็นส่วนหนึ่งของเขตวัฒนธรรมใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน © Rasmus Hjortshøj

เดนมาร์ก ประเทศแห่งไลฟ์สไตล์ ยั่งยืน และเมืองสร้างสรรค์

“แน่นอน โคเปนเฮเกนเป็นศูนย์กลางของการออกแบบเมืองที่สร้างสรรค์และการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน

ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ BLOX ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นำสถาปัตยกรรม การออกแบบ และนวัตกรรมเข้ามารวมกัน เป็นที่ตั้งของศูนย์สถาปัตยกรรมเดนมาร์ก (DAC) สำหรับการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม อาคาร และการพัฒนาเมืองรวมทั้งบริษัทสตาร์ตอัพสร้างสรรค์ที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ ความยั่งยืน และการใช้ชีวิตในเมือง

BLOX สะท้อนแนวทางของเราที่มีต่อเมือง ไม่ใช่แค่ในฐานะสถานที่อยู่อาศัยเท่านั้น

แต่ยังเป็นระบบนิเวศที่มีชีวิตที่รองรับนวัตกรรมและความเป็นอยู่ที่ดีอีกด้วย”

สวนสนุกทิโวลี การ์เดนส์ (Tivoli Gardens) ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน

บทบาทของเดนมาร์กในสหภาพยุโรป

“เดนมาร์กเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปที่กระตือรือร้นและสร้างสรรค์ เราสนับสนุนค่านิยมร่วมกันของสหภาพยุโรป ตั้งแต่ประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม ไปจนถึงความเป็นผู้นำด้านสภาพอากาศและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ

ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 เดนมาร์กจะดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีสหภาพยุโรป และเราเห็นว่านี่เป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจสีเขียว ดิจิทัลไลเซชั่น (Digitalization) และความปลอดภัย

นอกจากนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีความคืบหน้าที่สำคัญในการสรุปข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปและประเทศไทยในช่วงที่เดนมาร์กดำรงตำแหน่งประธานสหภาพยุโรป การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการค้าทวิภาคีของเราอย่างมาก

และนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่จับต้องได้ทั้งต่อสหภาพยุโรปและประเทศไทย”



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

นกแร้งเหนือเมฆ
ปลาหมอคางดำในเขตอภัยทาน | เรื่องสั้น : วัชรินทร์ จันทร์ชนะ
สิ้น | กวีกระวาด : โชคชัย บัณฑิต’
ศักดินา พิษ “สีกากอล์ฟ” เขย่า วงการผ้าเหลือง ยกเลิกสถาปนาสมณศักดิ์ แก้ กม.คุม “สงฆ์-ผลประโยชน์”
แม้ว ‘สทร.’-ถูกตามบี้ ‘ทุกเรื่อง’ เจอร้อง ‘ครอบงำ’ ซ้ำสอง พา ‘เพื่อไทย-6 พรรค’ ร่วมระทึก
จาก ‘กันตรึม’ สู่ ‘GUN ตรึม’
ดาวกับดวง โดย พิมพ์พรร วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2568
‘สีกากอล์ฟ’ กับ ‘สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร’
แพทองธาร พร้อมผลักดันสื่อสารภาพลักษณ์พุทธศาสนาให้ทันสมัย เข้าใจง่าย เข้าถึงคนรุ่นใหม่
ลอย ชูโมเดล การพลิกฟื้นเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา ยุทธวิธีของ ปธน. Javier Milei ที่ไทยควรเรียนรู้
ICSI
ICSI คืออะไร สามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ไหม?
วัคซีนเรืองแสงสุดโรแมนติก แพร่ผ่านการกุ๊กกิ๊กกันและกัน