พระสังฆราช ประทานดอกไม้จันทน์ ฌาปนกิจ ‘ฐากูร’ อดีตรองปธ.มติชน หลากวงการอาลัยแน่น

พระสังฆราช ประทานดอกไม้จันทน์ ฌาปนกิจ ‘ฐากูร’ อดีตรองปธ.มติชน หลากวงการอาลัยแน่นวัด

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานฌาปนกิจ นายฐากูร บุนปาน อดีตรองประธานคณะกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีการประชุมเพลิงในเวลา 14.30 น. ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19

โดยมีบุคคลในแวดวงต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าร่วมพิธีอย่างต่อเนื่องโดยจนเต็มพื้นที่ มีนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), นางสาวปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ, นายปราบต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย, นายวรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการ นสพ.มติชน, นายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด, นายพัฒนพันธุ์ วงษ์พันธุ์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ และคณะผู้บริหารในเครือมติชน, นางวิสาตรี บุนปาน ภริยานายฐากูร และนายบุญรักษา บุนปาน บุตรชาย ให้การต้อนรับผู้ร่วมพิธี

เมื่อเวลา 14.30 น. เริ่มพิธิฌาปนกิจ โดยผศ.ดร.ณัฐพัชร สายเสนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เป็นศาสนพิธีกร พร้อมด้วยนายเอกภัทร์ เชิดธรรมธร พิธีกรมติชนทีวีอ่านประวัตินายฐากูร

จากนั้น ผู้ร่วมพิธียืนไว้อาลัยแด่นายฐากูร

Advertisement

(ชมคลิป)

Advertisement

เวลา 14. 40 น. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีสงฆ์ ขึ้นทอดผ้าไตรและวางดอกไม้จันทน์ประทาน จากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

จากนั้น สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พร้อมพระเถรานุเถระ ได้แก่ พระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี , พระสิรินันทมุนี เจ้าอาวาสวัดนางนอง, เจ้าคุณพระมงคลธรรมภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี ขึ้นพิจารณาผ้าบังสุกุล

พระเทพปฏิภาณวาที วัดสุทัศนเทพวราราม เจ้าคณะเขตดุสิต ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ พร้อมด้วยภิกษุสามเณรวัดเสมียนนารี

ต่อมา เมื่อเวลา 14.45 น. ผู้ร่วมพิธีขึ้นวางดอกไม้จันทน์ กระทั่งเวลา 15.18 น. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ขึ้นจุดไฟประชุมเพลิง นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นวางดอกไม้จันทน์

จากนั้น นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยครอบครัวบุนปานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ประชุมเพลิง

สำหรับ ผู้เข้าร่วมพิธีจากหลากหลายวงการ ได้แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตรมว.คมนาคม ซึ่งเดินทางมาถึงตั้งแต่เวลา 12.35 น., นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี , นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน , นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน, นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายสุจิตต์ วงษ์เทศ ผู้ก่อตั้งนิตยสารศิลปวัฒนธรรม, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชาการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี , นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย, นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผอ.พรรคเพื่อไทย, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ, นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายสุวัฒน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายก และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา, นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

ดร.เจต ประภามนตรีพงศ์ ประธานกรรมการบริหารโรงเรียนในเครือประภามนตรี, นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคและส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย , พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิของสถาบันพระปกเกล้า และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม, นายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรี เทศบาลนครราชสีมา, นายประมุข บรรเจิดสกุล ปวช.ลิขิตการสร้าง, นายเกษมศักดิ์ วงศ์รัฐปัญญา หรือ สนานจิตต์ บางสพาน นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดัง, นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด,

นายภูมิธรรม เวชยชัย คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.), นายธนาพล อิ๋วสกุล บก.สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน, นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง แกนนำกลุ่ม CARE, น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 โฆษกพรรคพลังประชารัฐ, นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส, นายอธึกกิต แสวงสุข หรือใบตองแห้ง คอลัมนิสต์ชื่อดังและพิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว เจ้าของคอลัมน์ “ใบตองแห้ง” หนังสือพิมพ์ข่าวสด, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทย (พท.) , นายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ เลขาฯศาลอุทธรณ์, สราวุธ เบญจกุล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานศาลยุติธรรม ประธานบอร์ดการท่า ฯ ,

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.), พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน อดีต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.คมสัน สุขมาก ผู้บังคับการกองคดีปกครองและคดีแพ่ง สำนักงานกฎหมายและคดี รัฐศาสตร์จุฬาฯ รุ่น 37, พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 , นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธากูร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) , นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ เป็นนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย , นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, นายสมชัย ส่งวัฒนา ผู้ก่อตั้งแบรนด์ FLYNOW และเจ้าของ ‘ช่างชุ่ย’ , นางนวลพรรณ ล่ำซำ ซีอีโอ เมืองไทยประกันภัย และผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ,

นางประไพ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จากัด (GHM), นายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ เจ้าของสำนักพิมพ์ต้นฉบับ, นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน), นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล , นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน, นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ , นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อดีตประธานคณะผู้บริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด ผู้ก่อตั้งสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส,

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายสุภชัย วีระภุชงค์ รองกก.ผจก. บริษัทไทยนครพัฒนา เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 , นายสงวน คุ้มรุ่งโรจน์ สื่อมวลชนอาวุโส , รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นางศราพัส บำรุงพงศ์-ปทุมรส บุตรสาวของนายศักดิชัย บำรุงพงศ์ นักเขียนชื่อดังเจ้าของนามปากกา เสนีย์ เสาวพงศ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ งานฌาปนกิจ มีการมอบของที่ระลึก ได้แก่ หนังสือประวัติชีวิตของนายฐากูร จำนวน 4 เล่ม ได้แก่ เล่มที่ 1 ‘โต้ง’ ฐากูร บุนปาน 2504-2564 เนื้อหาเกี่ยวกับประวัติชีวิต คำไว้อาลัยจากบุคคลต่างๆ และบทกวีจากนายขรรค์ชัย บุนปาน

ความว่า

ฐา-นะโดดเด่นด้วย ฐานันดร
กูร-คุรุผู้ให้พร แจ่มแจ้ง
บุน บันทึกอักษร สวยสะอาด
ปาน ประหนึ่งผ่านแล้ง จบแล้วจากลา

เล่มที่ 2 ‘ฐากูร บุนปาน’ ของดีมีอยู่ รวมบทความจากคอลัมน์ ของดีมีอยู่ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ซึ่งเขียนโดยนายฐากูร ระหว่างปี 2556-พฤศจิกายน 2563

เล่มที่ 3 ‘เขียง มะขาม’ สวรรค์ในครัว รวมข้อเขียนของนายฐากูร ในนามปากกาเขียงมะขาม นสพ.ข่าวสด

เล่มที่ 4 ‘เขบ็ดหัวโต’ ย่ำไปในดงเพลง รวมบทความเกี่ยวกับดนตรี ภายใต้นามปากกา เขบ็ดหัวโต ในนสพ.มติชนรายวัน คอลัมน์ ย่ำไปในดงเพลง

นอกจากนี้ ยังมีหน้ากากอนามัยจากแบรนด์ FLYNOW ด้วย

หนังสือประวัติชีวิตของนายฐากูร ที่ระลึกงานฌาปนกิจ

ชีวประวัติของนายฐากูร

ด้ายรัก ฐากูร บุนปาน
18 ธันวาคม 2564

ฐากูร บุนปาน เป็นบุตรชายคนโตของ น.ท.สุขุม บุนปาน และนางสุทิน บุนปาน เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2504 มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 2 คน ได้แก่ นายสรพันธ์ บุนปาน ปัจจุบันเป็นที่ปรึกมา บริษัท งานดี จำกัด ในเครือมติชน และนายสุลักษณ์ บุนปาน ปัจจุบันเป็น บรรณาธิการนิตยสารศิลปวัฒนธรรม

ผู้ตั้งชื่อ “ฐากูร” ให้ คือ เสวกเอก พระยาบำรุงราชบริพาร หรือ เสมียน สุนทรเวช บิดาของอดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช มีความหมายว่า คนที่ควรแก่การเคารพอย่างยิ่ง เหมือนชื่อของปราชญ์ใหญ่แห่งชมพูทวีป อาทิ โควินท ฐากูร และ รพินทรนารถ ฐากูร และก็ได้เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนที่ได้รู้จักและใกล้ชิดว่า ตลอดชีวิตของคุณฐากูร ท่านเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การเคารพอย่างยิ่ง ทั้งจากผลงาน ความคิด และการกระทำ

คุณฐากูร จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนประถมสาธิตประสานมิตร ระดับมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และระดับอุดมศึกษา จบปริญญาตรี รัฐศาสตร์บันฑิต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาสัย และหลังจากจบการศึกษา ปี 2527 ฐากูรได้เข้าทำงานในเครือมติชน ที่ทำงานแห่งแรกและที่แห่งเดียวของคุณฐากูร

ฐากูร เริ่มงานเป็นผู้สื่อข่าวที่โต๊ะต่างประเทศ หนังสือพิมพ์มติชน จากนั้นย้ายไปทำข่าวการเงินที่หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ และขยับเป็นหัวหน้าข่าว กองบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจในเวลาต่อมา

ในปี 2533 ฐากูรได้ร่วมบุกเบิก “หนังสือพิมพ์ข่าวสด” ที่ขรรค์ชัย บุนปาน รับมาดำเนินการในเครือมติชน โดยรับหนำที่หัวหน้าโต๊ะข่าวภูมิภาค ก่อนที่ต่อมาจะไปรับหน้าที่บรรณาธิการบริหาร และ
บรรณาธิการข่าวสด ซึ่งขณะนั้น “หนังสือพิมพ์ข่าวสด” เติบโตอย่างก้าวกระโดด กลายเป็น 1 ใน 3 หนังสือพิมพ์รายวันที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ฐากูรมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารและพัฒนาข่าวสด ให้ปรับตัวอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน ด้วยการนำข่าวสดเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ข่าวสดออนไลน์ กลายเป็นสื่อออนไลน์ที่มีผู้ติดตามสูงสุดของประเทศ

จากนั้น ฐากูร ได้มารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปเครือมติชน และขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการเครือมติชนในปี 2557 คุณฐากูรถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกและพัฒนาเครือมติชน ทั้งมติชน ข่าวสด และ
ประชาชาติธุรกิจ จนเป็นสื่อและกิจการสื่อที่สังคมให้ความเชื่อมั่น เชื่อถือ ทั้งยุคสิ่งพิมพ์ กระทั่งก้าวสู่ยุคออนไลน์ และให้ความสำคัญกับการมุ่งทิศทางออนไลน์ของสื่อในเครืออย่างมาก

โดยให้คำแนะนำและติดตามผลการพัฒนาของสื่อในเครืออย่างเกาะติดและเอาใจใส่ และเห็นว่าสิ่งสำคัญในวิชาชีพคือจุดยืน และความรู้จริง รู้ลึกในด้านต่างๆ ให้มากและกว้างขวาง เพื่อประโยชน์ในการทำหน้าที่สื่อ นำพาข้อมูลข่าวสารและข้อคิดเห็นไปสู่ประชาชน และเพื่อบริหารงานสื่อได้ถูกทิศทาง คุณฐากูรเองจึงศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา ทั้งจากการอ่าน ค้นคว้า แลกเปลี่ยน รับคำชี้แนะ ความรู้จากผู้รู้โดยออกพบปะสนทนากับผู้รู้ แหล่งข่าวในวงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ฐากูร สมรสกับ วิสาตรี สุวรรณทัต มีบุตรชาย 1 คน คือ นายบุญรักษา บุนปาน ฐากูรเป็นคนรักครอบครัวและมีเพื่อนฝูงแวดวงต่างๆ มากมาย แม้ภาระทางการงานจะหนัก หากยังได้จัดสรรเวลาเพื่อดูแลบุตร ภรรยา และครอบครัว ตลอดจนญาติพี่น้อง และรักษาความสัมพันธ์กับมิตรสหายเป็นอย่างดี

ความชอบและชีวิตส่วนตัวของฐากูร มักแยกไม่ออกจากการงาน หลายเรื่องที่ฐากูรชื่นชอบ ก็นำมาผนวกรวมเข้ากับการงานจนได้ อย่างเรื่องที่คุณฐากูรชอบทำอาหาร เป็นเซฟหลักของครอบครัวและมิตรสหาย จากกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ รวมถึงการไปชิมอาหารร้านอร่อย ทำให้คุณฐากูรเขียนคอลัมน์ “สวรรค์ในครัว” ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด ใช้นามปากกา “เขียงมะขาม” มีข้อเขียนอย่างสม่ำเสมอจนสามารถรวมเล่มได้ หรือความชื่นชอบดนตรี ชอบเล่นกีต้าร์และร้องเพลง ก็ได้ตามอ่านและเก็บเกี่ยวข้อมูลเกี่ยวกับเพลง นำมาเขียนคอลัมน์ดนตรีในมติชนรายวัน ด้วยนามปากกา “เขบ็ดหัวโต”

นอกจากนี้ ฐากูรยังมีงานเขียนอีกหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น บทนำ วิเคราะห์การเมือง เศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ คอลัมน์หน้า 4 คอลัมน์เบ็ดเตล็ด และเขียนบทกวีสะท้อนการเมืองในมติชนรายวัน นามปากกา “สิงโตสะออน”

กลางปี 2562 แพทย์ตรวจพบว่า ฐากูรเป็นมะเร็งในขั้นร้ายแรง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอาการใดบ่งบอก ฐากูรรับรู้อาการป่วยอย่างสงบนิ่งและมีสติ ก่อนจะบอกกล่าวกับครอบครัวญาติพี่น้อง คนใกล้ชิด และเพื่อนร่วมงาน จากนั้นจึงได้เข้าสู่กระบวนการรักษาทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ด้วยวิธีการคีโมและผ่าตัด

ปลายปี 2562 ฐากูร ออกจากตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการเครือมติชน ให้ปานบัว บุนปาน เข้ารับตำแหน่งแทน เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อเนื่องอย่างเต็มที่

กระทั่งปลายปี 2563 อาการป่วยได้ทรุดลง ในเดือนพฤศจิกายน ฐากูรได้เข้าพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ท่ามกลางความห่วงใยของทุกคนที่ติดตามถามข่าวคราวอย่างต่อเนื่อง ฐากูรยังคงมีสติและความคิดที่แจ่มใสชัดเจนตลอดเวลา ยังสามารถพูดคุยวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องราวต่างๆ ได้ ความจำแม่นยำ มีอารมณ์ขัน และตัดสินใจด้วยตัวเองร่วมกับครอบครัวในเรื่องของการรักษาอาการป่วย

วันที่ 9 มกราคม 2564 วันเกิดสู่ปีที่ 44 มติชน ขรรค์ชัย บุนปาน และปานบัว บุนปาน ไปเยี่ยมฐากูรที่บ้าน และเล่าถึงบรรยากาศงานวันเกิดของมติชน ที่มีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความยินดีมากมายเช่นเคย ฐากูรมีอาการอิดโรย หากก็ยังคงทักทายด้วยสติแจ่มใส ยิ้มแย้มพูดคุยโต้ตอบได้

วันที่ 11 มกราคม 2564 หลังอาหารเช้า ฐากูรให้ช่วยพยุงตัวเพื่อลุกขึ้นนั่ง และให้พาไปนั่งที่เก้าอี้ตัวโปรด ก่อนพูดว่า เดี๋ยวจะไม่ได้นั่งอีก และสุดท้าย ในวันที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 13.50 น. ฐากูรก็ได้จากไปอย่างสงบ ที่บ้านย่านประชาชื่น ท่ามกลางครอบครัว ญาติๆ ภรรยา และบุตรชาย สิริอายุ 59 ปี

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image