

บทความพิเศษ | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด
Sisu, Moomin, เซาน่า
และการศึกษาที่ฟินแลนด์
โดดเลย ไม่ต้องคิดเยอะ
แล้วผมก็กระโดดลงไปในทะเลบอลติก หน้าห้องเซาน่าริมทะเลที่ชื่อ L?yly
น้ำเย็นบาดเข้าไปถึงกระดูก ทุกกล้ามเนื้อในร่างกายเหมือนถูกหยุดเวลา กล้ามเนื้อโดนบีบจนชา แต่สมองกลับโล่ง
เป็น 20 วินาทีที่ไม่มีเสียง ไม่มีความคิด ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีเพียงแค่ “ตอนนี้” ที่บริสุทธิ์ที่สุด
นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
Sisu
: ความเข้มแข็งเงียบที่ฝังอยู่ในดินแดนหิมะ
ในประเทศที่ฤดูหนาวยาวนานกว่าครึ่งปี และพระอาทิตย์หายไปเกือบครึ่งวัน คนฟินแลนด์ไม่ได้พูดว่า “เข้มแข็งไว้นะ” แต่พูดว่า “Sisu” – มันคือคำที่ไม่มีในภาษาอื่น
แต่ Sisu ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
มันเป็นผลลัพธ์ของภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และการดิ้นรนที่ต่อเนื่องของผู้คนบนแผ่นดินแถบขั้วโลกเหนือ
ภูมิประเทศของฟินแลนด์ คือป่า หนองน้ำ และทะเลสาบนับหมื่นแห่ง ฤดูหนาวปกคลุมแผ่นดินด้วยหิมะเป็นเวลาหลายเดือน อุณหภูมิลดลงต่ำกว่าศูนย์หลายสิบองศา แสงแดดบางวันมีเพียงไม่กี่ชั่วโมง และในฤดูร้อนก็มี “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” – แสงที่ไม่หลับใหล
การดำรงชีวิตในพื้นที่แบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องโรแมนติก มันคือการอยู่รอด
ต้องเตรียมฟืนไว้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง
ต้องออกล่าก่อนน้ำแข็งจะปิดทะเล
ต้องเรียนรู้ที่จะเงียบ ฟังธรรมชาติ
และยอมรับว่าชีวิตไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด
ฟินแลนด์ไม่เคยได้เอกราชง่ายๆ
ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสวีเดน ก่อนไปอยู่ภายใต้รัสเซียเกือบศตวรรษ พวกเขาได้เอกราชในปี 1917 ท่ามกลางการปฏิวัติรัสเซีย แต่ยังไม่ทันไรก็ถูกลากเข้าสงครามโลกครั้งที่สอง และต้องเผชิญหน้ากับโซเวียตใน “สงครามฤดูหนาว” (Winter War)
ฟินแลนด์ในตอนนั้นมีประชากรน้อย อาวุธน้อย อุณหภูมิ -40 องศาเซลเซียส แต่พวกเขากลับยืนหยัด ไม่ใช่เพราะเข็มขัดยุทธวิธี ไม่ใช่เพราะการปลุกใจในสนามรบ แต่เพราะ “Sisu”
คือการกัดฟันสู้ แม้รู้ว่าจะเสียเปรียบ
คือการถอยอย่างมีศักดิ์ศรี และรุกเมื่อถึงเวลา
คือความกล้าเงียบๆ ที่ไม่ต้องการแสง
Moomin
: จินตนาการที่แสดงความเรียบง่าย ลึกซึ้ง
และอิสระแบบฟินแลนด์
มูมินเป็นตัวละครที่ทูเว ยานซอน สร้างขึ้น พวกเขาอยู่ในหุบเขาที่สงบสุข ใช้ชีวิตกลมกลืนกับธรรมชาติ เผชิญกับความไม่แน่นอนด้วยความนุ่มนวลและอยู่นิ่งได้แม้ในความเหงา
โลกของมูมินสะท้อนค่านิยมของฟินแลนด์อย่างลึกซึ้ง – ทั้งความเคารพในธรรมชาติ ความจริงใจในอารมณ์ ความรักในอิสรภาพ และการยอมรับในความเศร้าหมองที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ในหุบเขามูมิน ทุกตัวละครมีเอกลักษณ์ของตัวเอง และไม่มีใครถูกตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นสนัฟกิน ผู้รักอิสระและไม่ยึดติดกับสิ่งของ หรือมูมินมาม่า ที่ให้ความอบอุ่นและเข้าใจโดยไม่ตัดสินใคร
เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้สอนให้แค่มีความสุข แต่สอนให้อยู่กับความรู้สึกทุกแบบ – ทั้งสุข เหงา กลัว และคิดถึง
ธรรมชาติไม่ใช่แค่ฉากหลังในเรื่อง แต่คือสิ่งที่กำหนดจังหวะชีวิตของพวกเขา – เหมือนกับที่มันกำหนดชีวิตของคนฟินแลนด์จริงๆ
มูมินไม่ได้แสดงถึงฟินแลนด์ด้วยคำพูดใหญ่โตหรือภาพลักษณ์โอ่อ่า แต่เขาแสดงให้เห็นว่า “การเป็นฟินแลนด์” คือความเรียบง่ายที่มีความหมาย
คือความแข็งแกร่งที่เงียบงัน
คืออิสรภาพที่ไม่เบียดเบียนใคร
และคือการอยู่กับธรรมชาติและตัวเองอย่างแท้จริง
ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงดัง มูมิน – เหมือนกับฟินแลนด์ – พูดเบาๆ แต่ทิ้งเสียงนั้นไว้ในใจเราได้นานแสนนาน
Sauna
: ความเงียบ ความร้อน และความเท่าเทียม
อีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนความเป็นฟินแลนด์ได้ชัดเจนไม่แพ้มูมิน ก็คือ เซาน่า
สำหรับคนฟินแลนด์ เซาน่าไม่ใช่แค่ห้องอบไอน้ำ – แต่มันคือพิธีกรรมประจำชาติ
สถานที่ที่ทุกอย่างกลับไปสู่ความเรียบง่ายที่สุด
ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีมือถือ ไม่มีคำพูดที่เกินจำเป็น
แค่ความร้อน ไอน้ำ และความเงียบ ที่พาให้เรากลับมาอยู่กับตัวเอง
วัฒนธรรมซาวน่าฝังรากลึกในดีเอ็นเอของฟินแลนด์ – ประเทศที่มีประชากร 5.5 ล้านคน แต่มีเซาน่ามากถึงกว่า 3.3 ล้านห้อง
เซาน่าอยู่ทุกที่จริงๆ : บ้าน ออฟฟิศ โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ไปจนถึงรัฐสภา หรือแม้แต่แมคโดนัลด์สาขาหนึ่งในเฮลซิงกิ
ในอดีต บางคนถึงกับคลอดลูกในเซาน่า เพราะถือเป็นที่ที่อบอุ่น สะอาด และสงบที่สุดในบ้าน
และในโลกธุรกิจของฟินแลนด์ การเจรจาที่จริงใจที่สุด อาจเกิดขึ้นได้ในห้องเซาน่า – เพราะที่นั่น ทุกคนเท่ากัน
หลังจากอบร้อน หลายคนจะกระโดดลงน้ำเย็นจัด ไม่ใช่แค่เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียน
แต่มันคือการเผชิญหน้ากับความไม่สบายอย่างมีสติ – การฝึก sisu ที่จับต้องได้
และทุกปีในเดือนมิถุนายน ประเทศนี้ยังมี วันแห่งเซาน่าแห่งชาติ ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าถึงเซาน่าสาธารณะทั่วประเทศ
เซาน่าจึงไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพหรือผ่อนคลาย
แต่มันคือพื้นที่ของการ คืนตัวตน – การนิ่งอยู่กับตัวเอง ทบทวน หายใจ และกลับมาใหม่ เหมือนกับฟินแลนด์ทั้งประเทศ ที่เข้มแข็งเงียบๆ และเยียวยาผ่านความเงียบอย่างงดงาม
การศึกษาของฟินแลนด์
การศึกษาที่มาจากความเป็นมืออาชีพ
ความเชื่อใจ มากกว่าการควบคุม
นอกจากความเงียบ ความหนาว และความเรียบง่ายที่ลึกซึ้ง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฟินแลนด์เป็นประเทศที่โลกจับตามอง คือระบบการศึกษาที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยแรงกดดันหรือการจัดอันดับ แต่ขับเคลื่อนด้วย “ความเชื่อใจ”
เราได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน Vallila School และพูดคุยกับทีมงานจาก HEI (Helsinki International School) สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือบรรยากาศในห้องเรียนที่คึกคัก เต็มไปด้วยการมีส่วนร่วมของนักเรียน เด็กๆ ไม่กลัวที่จะยกมือ ไม่กลัวที่จะคิดต่าง และสามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วตั้งแต่ชั้นประถม โรงเรียนเรียนเพียง 21-27 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ช่วงบ่ายเปิดให้เด็กเลือกกิจกรรมหรือเรียนรู้ตามความสนใจ
ส่วนครูมีภาระสอนเพียง 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ที่เหลือคือเวลาที่ระบบให้ไว้เพื่อศึกษาค้นคว้าและเตรียมการสอนด้วยตัวเอง – โดยไม่มีใครมาควบคุม เพราะกระทรวงไม่ควบคุมโรงเรียน โรงเรียนไม่ควบคุมครู และครูเองก็เชื่อใจในศักยภาพของนักเรียน ความเป็นอิสระในระบบนี้จึงเต็มไปด้วยความรับผิดชอบและศักดิ์ศรีของวิชาชีพ
ครูในฟินแลนด์ต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น รับเพียง 5-10% แรกของผู้สมัคร เรียนต่อเนื่องถึงระดับปริญญาโทนาน 6 ปี จึงจะได้เป็นครู ซึ่งสะท้อนว่าความไว้วางใจในระบบนี้ ไม่ได้มาเพราะหวังดีเฉยๆ แต่เพราะมีการเตรียมความพร้อมอย่างแท้จริง
เรายังได้เยี่ยมชม “Oodi” ห้องสมุดกลางแห่งเฮลซิงกิ ที่รัฐบาลใช้งบประมาณกว่า 98 ล้านยูโร สร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่ประชาชนในวาระครบรอบ 100 ปีแห่งการประกาศเอกราช ความพิเศษของที่นี่ไม่ได้มีแค่ความสวยงามและอบอุ่น
แต่ยังเป็นพื้นที่เรียนรู้สาธารณะที่ครบวงจรที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นห้องซ้อมดนตรี ห้องพิมพ์สามมิติ ห้องอัดเสียง ห้องเกม ห้องครัว และระเบียงพลเมืองที่หันหน้าเข้าสู่รัฐสภาในระดับเดียวกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ “ความเท่าเทียมระหว่างรัฐกับประชาชน”
ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ ผมมีโอกาสได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับอดีตนายกรัฐมนตรีของฟินแลนด์ ซานนา มาริน – ผู้นำหญิงรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เรามีบทสนทนาที่หลากหลายและลึกซึ้ง ทั้งเรื่องภาวะผู้นำในโลกยุคเปลี่ยนผ่าน ประชาธิปไตยในวันที่ต้องยืดหยุ่นเพื่อความมั่นคง ภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงบทบาทของครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องลูกสาวของเราแต่ละคน ซึ่งต่างเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการทำงานของเราในวันนี้
ผมหวังว่าจะมีโอกาสต้อนรับคุณซานนา มาริน ในประเทศไทยในเร็วๆ นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำบทเรียนจากฟินแลนด์มาสู่บริบทของไทย และเดินหน้าร่วมกันในการสร้างโลกที่เท่าเทียม เข้มแข็ง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ด้วยหัวใจแบบ sisu
หมายเหตุ : ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด เป็นผู้อำนวยการ Think Forward Center
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต



