bg-single

ปัญหา ‘ไทย-กัมพูชา’ ในสายตา ‘พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์’ เป็น ‘เพื่อน’ กัน ดีกว่า ‘รบ’ กัน

09.06.2025

เปลี่ยนผ่าน | ทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี

ปัญหา ‘ไทย-กัมพูชา’

ในสายตา ‘พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์’

เป็น ‘เพื่อน’ กัน ดีกว่า ‘รบ’ กัน

หมายเหตุ “ผศ.ดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์” คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกหัวข้อ “เมืองชายแดน” ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในรายการ The Politics ทางช่องยูทูบมติชนทีวี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568

ปัญหาชาตินิยมมันแก้กันมาไม่จบอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติสำหรับสองประเทศนี้ เพราะมันไม่มีความรู้สึกบางอย่าง ซึ่งมันควรจะมี เป็น “ชาตินิยมที่ตลก” คือคนเราดูถูกจิกกัดกันเป็นเรื่องปกติ แต่ (ระหว่างไทยกับกัมพูชา) เซนส์บางอย่างมันไม่มี เซนส์ของความเป็นคนร่วมวัฒนธรรมไม่มี

ผมยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปสอนหนังสือที่ต่างประเทศ มีคำถามของเด็กที่ถามขึ้นมาจากอิตาลี ผมไปสอนที่มหาวิทยาลัยเวนิส เขาก็ถามคำถามหนึ่ง ซึ่งตอบยาก ถามว่าคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รู้สึกว่าตัวเองเป็น “คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” แค่ไหน? เป็นคำถามที่ดีมาก

คือในบริบทของคนอิตาลี ที่มีความเป็นอิตาลี แล้วในอิตาลีเองมันก็มีเหนือ-ใต้ ตรงนู้นตรงนี้ แล้วมันก็มีความเป็นยุโรปด้วย เพราะมันใช้ระบบอียู (สหภาพยุโรป) มันมีระดับชั้นของความขัดแย้ง

ถ้าคุณไปเจอคนอิตาลี เรื่องกินนี่อย่าไปยุ่งกับเขา สำหรับเขา อาหารเขาดีที่สุดในโลก เขาก็ดูถูกวัฒนธรรมอเมริกัน ที่เป็นแบบอิตาลีไม่แท้ กินอะไรไม่รู้

ผมก็บอกเขา แถวนี้ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) มันก็มีปัญหาตรงที่ว่า บางเรื่องมันก็ชาตินิยม แต่มันก็มีกลไกอย่างอาเซียน อาเซียนก็ทำงานบางอย่าง เช่น ทำให้เรามีเศรษฐกิจเชื่อมกันได้ ทำให้เราค้าขายกันได้ ทำให้เราเดินเที่ยวกันได้

แต่ในบางเรื่องมันไม่ได้แก้ อย่างเรื่อง (ความขัดแย้งในประเด็นเส้นเขตแดน) แบบนี้ ผมไม่เชื่อว่าอิตาลีกับฝรั่งเศสจะรบกัน ไม่มีหรอก จะไปรบกันยังไง อิตาลี-เยอรมนี คงไม่รบกัน แต่ถามว่ามีโจ๊กตลกด่ากันไหม มันก็มีกันทุกวัน มารบกันทำไม มันไม่รบกันแล้ว มันเลิกกันแล้ว

ของเรามันแยกอดีตกับปัจจุบันไม่ออก คือการดูถูกกัน การจิกกัดกัน มันเป็นเรื่องห้ามไม่ได้ แต่คำถามคือพ้นจากเรื่องนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันยากไง

ถามว่าจะรบกันเรื่องอะไร? (ล้ำเขตแดน-ผู้ดำเนินรายการ) ถ้าพูดอย่างนี้มันน่ากลัว เพราะมันเป็นความขัดแย้งกันบนความสัมพันธ์ของรัฐ ไม่ใช่ขัดแย้งทางวัฒนธรรมประเภทแย่งน้ำกันใช้ หรือดูถูกเชื้อชาติระหว่างกัน แล้วสองเผ่าตีกัน ถ้าแบบนี้แสดงว่ารัฐอยู่เบื้องหลัง ประเด็นผมอยู่ตรงนี้

ถ้าตราบใดที่รบกันด้วยดินแดน มันเป็นปัญหาที่ตัวรัฐ เป็นปัญหาที่รัฐสองรัฐซึ่งอยู่ติดกัน ยังสร้างวิธีคิดเรื่อง “ชายแดนแบบใหม่” ไม่ได้ ผมไม่ได้บอกว่าประเทศนี้ไม่ควรมีชายแดน “รั้ว” มันทำให้เกิดเพื่อนบ้านที่ดี แต่รั้วแบบไหนที่ทำให้เกิดเพื่อนบ้านที่ดี?

หรือความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านที่มีรั้ว ผมอยู่ทาวน์เฮาส์กับข้างบ้าน ผมยอมรับว่าถ้าผมไม่มีรั้ว ผมอาจจะทะเลาะกับเพื่อนบ้าน แต่การมีรั้วไม่ได้แปลว่าผมไม่ส่งของข้ามกัน ไม่ได้แปลว่าตอนเช้าผมไม่คุยกัน ไม่ได้แปลว่าลูกบ้านเขามาวิ่งเล่นหน้าบ้านผมไม่ได้ ผมจอดรถแล้วบางวันมันล้ำออกไปหรือน้ำรั่วเข้าบ้านเขา ผมขอโทษแล้วแก้ปัญหากันได้

วิธีคิดเรื่องชายแดนเรามีปัญหา ไม่ใช่ว่าโลกนี้ไม่ควรมีชายแดน คุณมีบ้านคุณอยากมีรั้ว แต่ไม่จำเป็นต้องมีรั้วแบบสูงสิบเมตร คุณอาจไม่ต้องมีอะไรมากมายก็ได้ และการข้ามไปข้ามมามันเป็นเรื่องปกติ อันนี้แปลว่าเจ้าของบ้านเขาเคลียร์กันได้

ประเด็นของผมอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ว่าผมเป็นพวกเพ้อฝันมากๆ ปัญหาคือมันเป็นปัญหาของใคร? เป็นปัญหาของทหารไม่ใช่เหรอ?

วิธีคิดในการสร้างชาติของทหาร คุณก็ยังกลับไปที่เรื่องความยิ่งใหญ่ในอดีต ทุกคนก็รักความยิ่งใหญ่ของเชื้อชาติตัวเองทั้งนั้น ไม่แปลกหรอก คนเขาทะเลาะกันมาก่อน เขาก็โตมาด้วยกันได้ ไม่อย่างนั้น เยอรมนีคงไม่ต้องอยู่กับใครในโลกแล้ว ญี่ปุ่นคงไม่ต้องอยู่กับใครแล้ว

คือเราไม่ได้พูดแบบโลกสวย แต่เรารู้สึกว่าอะไรที่ผ่านไปแล้ว มันผ่านไปแล้ว แต่ว่าไอ้สิ่งที่มันอยู่ (ในปัจจุบัน) การบริหารจัดการชายแดนมันต้องใช้อะไร? เงื่อนไขอยู่ที่ไหน?

แล้วตรงนั้นยิ่งน่าตกใจ เพราะมันไม่ใช่การบริหารชายแดนด้วยเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ เช่น แรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามา มันเป็นเรื่องทหารยุกันไม่ใช่เหรอ? พูดตรงๆ ถามว่ารัฐบาลคุมทหารได้หรือเปล่า?

ผมไม่ได้อยู่กับยุค “โอเวอร์รีแอ๊ก” หรือ “ไม่ได้โอเวอร์รีแอ๊ก” อะไรนะ แล้วคุณดูทัศนะของคุณทักษิณ (ชินวัตร) “ผมรู้จักกับผู้นำอีกฝ่ายหนึ่ง” จริงๆ มันต้องคุยกันว่า ประชาชนไม่ได้มีอะไรกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่เคลียร์ตรงนี้

ประโยคที่เราใช้กันตั้งแต่ยุคชาติชาย (ชุณหะวัณ) “เปลี่ยนสนามรบ เป็นสนามการค้า” ทำไมไม่ขยายตรงนี้ให้กลายเป็นว่า “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า เปลี่ยนสนามการค้าให้เป็นสนามแห่งมิตรภาพ” มันก็ไปได้ ที่ทุกคนจะมีรั้วแบบเก็บกินได้ รั้วที่แบ่งปันกันได้

คือมีรั้วเพื่อเหตุผลในเชิงเอกลักษณ์ ประเทศในยุโรปก็มีรั้ว คนเขาก็ขับรถมาเติมน้ำมันอีกฝั่งหนึ่งได้ ประเทศไทยก็ท่องเที่ยวได้

บางทีเราต้องไปถามคำถามที่ตรงข้ามกับคำถามที่ส่งออกมาจากหน่วยความมั่นคง คือ โอเค ดินแดนถูกล้ำ คำถามคือถูกล้ำตรงนี้มันมีนัยยะสำคัญอะไร? ถึงมีปัญหาตรงนี้หนักหนา บางเรื่องถ้าไปถึงศาลโลก ในเรื่องที่แบบตกลงมัน (มีปัญหา) อะไรกันแน่ พอ (คดี) จบแล้ว ทุกคนก็ชีวิตเหมือนเดิม

ผมไม่ได้บอกว่าใครผิด แต่ผมรู้สึกว่ามันมีโอกาสที่เราจะทำอย่างอื่น แต่ผมก็ไม่ได้ (เสนอ) แบบเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไม่ใช่ มันมีประวัติศาสตร์ แต่ถ้าเราเชื่อว่าเรามีอำนาจ เราก็ต้องปรับอันนี้ให้มันดีขึ้น ทุกคนต้องมีมิตรภาพต่อกัน

ผมเคยถามผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นทหารว่า ถ้าเรารบกับประเทศ… เราจะชนะไหม? เขาถามว่า “ไปรบทำไม? เป็นเพื่อนกันไม่ดีกว่าเหรอ?” ทหารนะ ทหารระดับสูง โคตรโชคดี ถ้าคุณมีทหารที่คิดแบบนี้ แต่ถามว่ามีอำนาจหรือเปล่า? ผมไม่รู้ เขาเกษียณแล้ว

แต่วิธีคิดของเขา เราถามเขาว่าถ้ารบกันแล้วใครชนะ คนที่เขามีหน้าที่รบเขาบอกจะรบกันไปทำไม ถ้าเราเป็นเพื่อนกัน เราไม่ต้องรบกัน แต่ไอ้เราเนี่ยไม่ได้เป็นคนรบ ลุ้นฉิบหายเลยว่า เฮ้ย! รบกันใครจะชนะวะ? เรานึกว่าทุกอย่างเป็นเกม แม่งมีคนตายนะเว้ย!

ผมไม่อยากพูดในนามของสันติภาพอะไรที่มันยากเย็น ผมรู้สึกว่ามันเป็นสามัญสำนึกอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ คุณไม่อยากฆ่ากันทุกวัน แต่ความขัดแย้งมันต้องมี มันถึงต้องมีกลไกในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง แล้วเราก็ต้องคิดก่อนว่ามนุษย์ไม่ได้อยากจะครอบครองทุกอย่าง

เราก็คงไม่อยากไปยึดพนมเปญ ถามว่าเขาอยากมาเอาอีสานกลับไปไหมล่ะ? แค่นั้นเขาก็ดูแลยากแล้ว ฉะนั้น ทะเลาะกันตรงนี้ทำไม? ประชาชนต้องไปถามทหารว่าพี่ไปทะเลาะอะไรกันตรงนี้ขนาดนั้น? ทำไมพี่ทะเลาะกันหนักขนาดนี้ทั้งสองฝ่าย? ถ้าเราไม่ถามตรงนี้ ตรงที่ทะเลาะกันมันก็จะพาพวกเราไปทะเลาะด้วย เพื่อมันจะได้มีเหตุผลในการทะเลาะกัน

ไอ้ที่เหลือมันเป็นผลจากเรื่องเหล่านี้ ผมไม่ได้บอกให้ยกดินแดนให้ใคร ผมถามว่าทำไมไม่ใช้ร่วมกัน? แบ่งกันใช้ ให้มันมีประโยชน์หน่อย ของคุณคุณก็รัก ของผมผมก็รัก แต่มะม่วงคุณหล่นบ้านผม ผมก็เก็บ มะม่วงผมหล่นบ้านคุณ คุณก็เก็บไปใช้บ้าง

มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ประเภทแย่งน้ำกันเหมือนในพุทธกาล ใจเย็นๆ



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

‘สีกากอล์ฟ’ กับ ‘สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร’
แพทองธาร พร้อมผลักดันสื่อสารภาพลักษณ์พุทธศาสนาให้ทันสมัย เข้าใจง่าย เข้าถึงคนรุ่นใหม่
ลอย ชูโมเดล การพลิกฟื้นเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา ยุทธวิธีของ ปธน. Javier Milei ที่ไทยควรเรียนรู้
ICSI
ICSI คืออะไร สามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ไหม?
เจ้าอาวาสกับอำนาจเหนือพื้นที่วัด : โครงสร้างที่ต้องสังคายนาใหม่ (1)
วัคซีนเรืองแสงสุดโรแมนติก แพร่ผ่านการกุ๊กกิ๊กกันและกัน
การปกครองเปลี่ยน-แฟชั่นปรับ : แฟชั่นสมัยคณะราษฎร-สงคราม (13) เมื่อสำนักพระราชวังตักเตือน “เจ้าชาย-เจ้าหญิง” ให้แต่งกายตามรัฐนิยม
ดาวกับดวงวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568
พาณิชย์เดินหน้า…จัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ยกระดับมันสำปะหลังไทย ขยายตลาดส่งออก ดันเศรษฐกิจฐานรากเติบโต
“รองฯตี๋ ”สั่งสืบ 8 รวบแก็งแว้น ย่านตลาดบางปะกอก เหตุรวมตัวมั่วยา ส่งเสียงดังก่อความรำคาญ กำชับท้องที่กวดขัน คาดโทษหากเกียร์ว่าง
ปักธง เทียนวรรณ เปิดโฉม บุรุษรัตน์ สามัญชน จาก ‘ศรีบูรพา’
ปรีดี แปลก อดุล : คุณธรรมน้ำมิตร (74)