bg-single

ในเกมอันยาวนานของประชาธิปไตย เรากะพริบตาไม่ได้

21.05.2025

บทความพิเศษ | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

 

ในเกมอันยาวนานของประชาธิปไตย

เรากะพริบตาไม่ได้

 

ไม่กี่วันก่อน ผมมีโอกาสเดินทางไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อเข้าร่วมวงสนทนาสาธารณะที่จัดขึ้นโดย Foreign Policy Community of Indonesia (FPCI) องค์กรที่ก่อตั้งโดย ดร.ดิโน ปัตตี จาลาล อดีตเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำสหรัฐ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ

ดร.ดิโนเชื่อว่าการต่างประเทศของภูมิภาคนี้ควรตั้งอยู่บนฐานของคุณค่า ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า

และในขณะเดียวกัน เขาก็สร้างเวทีให้คนรุ่นใหม่ในอาเซียนมีที่ยืน มีที่คิด และมีที่เปล่งเสียง

ในกรุงจาการ์ตา ผมได้พูดคุยกับคนไทยจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน นักการเงิน ผู้เชี่ยวชาญ และนักศึกษา จากบริษัทอย่าง บ้านปู ที่ดำเนินธุรกิจพลังงานในอินโดนีเซียมานานหลายทศวรรษ, SCG ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทไทยที่ลงทุนระยะยาวและให้ความสำคัญกับการพัฒนาท้องถิ่น, รวมถึง Permata Bank ซึ่งปัจจุบันเป็นธนาคารอินโดนีเซียที่ควบรวมกับธนาคารกรุงเทพ กลายเป็นสะพานทางการเงินระหว่างสองประเทศที่แข็งแรงในเชิงโครงสร้าง

ผมยังได้แลกเปลี่ยนกับนักศึกษาไทยที่เรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของอินโดนีเซีย เช่น Universitas Indonesia, Gadjah Mada และ Binus International หลายคนกำลังศึกษาในสาขาที่เชื่อมโยงกับอนาคตของภูมิภาค ทั้งด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจดิจิทัล และการเงินอิสลาม

พวกเขาไม่ใช่แค่ “เยาวชน” แต่คือผู้สร้างสะพานเชื่อมอนาคตไทย-อินโดนีเซียอย่างเงียบๆ และมั่นคง

สิ่งแรกที่ผมได้เรียนรู้จากบทสนทนานั้น คือการเมืองที่ดีไม่ควรบีบให้เราเลือกระหว่างอุดมการณ์กับความเป็นจริง อุดมการณ์ที่ไม่มีการลงมือทำคือฝันกลางวัน แต่การเมืองที่ไร้หลักการก็เป็นเพียงการจัดการอำนาจให้หมุนเวียนอยู่ในมือคนเดิม เราไม่ได้ต้องการคนที่ชนะเกมเก่าเก่ง แต่ต้องการคนที่กล้าตั้งกติกาใหม่

คำว่า “เผด็จการ” ในยุคนี้อาจไม่ปรากฏพร้อมรถถังหรือคำสั่งพิเศษ แต่มาเงียบๆ ผ่านคำตัดสินของศาล ร่างกฎหมาย การควบคุมสื่อ และความรู้สึกหมดหวังที่ซึมลึกจนคนเลิกเชื่อว่าการเมืองเปลี่ยนอะไรได้ ประชาธิปไตยไม่ได้ล้มในวันเดียว แต่มักจะผุพังไปเรื่อยๆ อย่างที่ไม่มีใครทันสังเกต

และเมื่อระบบสั่นคลอน ความไว้วางใจคือสิ่งแรกที่เราต้องสร้างขึ้นใหม่ แต่ในยุคของความระแวง ความเชื่อใจไม่สามารถซื้อได้ด้วยวาทกรรมหรือชื่อเสียง มันต้องมาจากการแสดงออกในวันที่ไม่มีใครจับตา จากความคงเส้นคงวาในวันที่เจอแรงต้าน

อินโดนีเซียสอนเราว่า การเปลี่ยนผ่านที่แท้จริงไม่อาจฝากไว้ที่นักการเมืองเพียงอย่างเดียว หลังปี 1998 มันคือภาคประชาชน-นักศึกษา นักข่าว ผู้นำชุมชน-ที่ถือธงนำ พลังนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือรากของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

และในไทยเอง เมื่อกลไกทางการเมืองไม่ตอบสนอง มันก็คือภาคประชาชนที่ยืนอยู่แถวหน้าเสมอ

ผู้นำที่แท้ในยุคนี้ไม่ใช่คนที่ยืนเด่นอยู่กลางเวที แต่คือคนที่เชื่อมโยงผู้คนให้มองไปทางเดียวกัน คนที่กล้ายืนอยู่กับความจริง แม้จะถูกดึงให้โอนอ่อนทุกวัน เราไม่ต้องการผู้นำที่เอาแต่ตัดสิน แต่ต้องการคนที่ฟัง และฟังอย่างแท้จริง

ความท้าทายอีกด้านคือการสื่อสารการเมืองที่ถูกลดทอนให้เหลือเพียงแค่การขายภาพลักษณ์ในโซเชียลมีเดีย เราเริ่มเห็นการเมืองที่ตื้นแต่เรียบ การนำเสนอที่สวยแต่ไม่มีเนื้อ

ความชัดเจนไม่ควรถูกตีความว่าเป็นการ “ลดระดับ” เพราะประชาชนไม่ได้โง่ พวกเขาแค่เบื่อกับการพูดจาอ้อมค้อมของนักการเมือง

แล้วคนรุ่นใหม่ล่ะ?

หลายคนสิ้นศรัทธาไปแล้ว และไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะระบบจำนวนมากในภูมิภาคนี้ไม่ได้ให้ที่ยืนกับพวกเขาตั้งแต่ต้น

แต่ประวัติศาสตร์ของอาเซียนเองก็สอนเราว่า การเปลี่ยนแปลงแท้จริงมักเริ่มจากคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะที่กวางจูในเกาหลีใต้ รีฟอร์มาซีในอินโดนีเซีย หรือพฤษภาทมิฬในไทย

การลุกขึ้นของคนรุ่นใหม่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ แต่มันคือวัฏจักรของเสรีภาพ

และในวันนี้ พลังนั้นก็ยังคงชัดเจน ปี 2025 นี้ อินโดนีเซียเพิ่งผ่านเหตุการณ์เคลื่อนไหวของเยาวชน 2 ครั้งใหญ่ที่น่าสนใจ :

1. การชุมนุมต่อต้านการลดอายุผู้สมัครประธานาธิบดี

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เยาวชนหลายพันคนรวมตัวกันทั่วมหาวิทยาลัยในกรุงจาการ์ตาและเมืองใหญ่ เพื่อคัดค้านคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้บุตรชายของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ทั้งที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ตามกฎหมายเดิม

เยาวชนเหล่านี้มองว่านี่คือการ “บิดกฎ” เพื่อสืบทอดอำนาจ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการบ่อนเซาะความยุติธรรมทางการเมือง

2. ขบวนการ “Dark Indonesia”

เป็นกระแสออนไลน์ที่จุดติดอย่างรวดเร็วในช่วงกลางปี หลังเกิดกรณีการปิดกั้นข้อมูลจากรัฐบาลและการใช้กฎหมายไซเบอร์กดดันนักกิจกรรม เยาวชนหลายแสนคนเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในโซเชียลมีเดียเป็นสีดำ พร้อมเขียนแฮชแท็ก #DarkIndonesia เพื่อต่อต้าน “ความมืด” ที่กำลังกัดกร่อนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

การเคลื่อนไหวเหล่านี้เตือนเราว่า คนรุ่นใหม่ไม่ได้ต้องการแค่สิทธิเลือกตั้ง แต่ต้องการอนาคตที่มีความหมาย มีพื้นที่ปลอดภัยทางความคิด และมีโอกาสร่วมกำหนดประเทศในฐานะเจ้าของ ไม่ใช่เพียงผู้รับนโยบาย

และนั่นคือเหตุผลที่เราต้องพูดถึง “การเป็นตัวแทน” ของเยาวชนในทางการเมืองอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่จัดเวทีให้พวกเขาพูด แต่ต้องรับฟังและให้พวกเขามีที่ยืนในการออกแบบกติกาใหม่ของประเทศ

ผมยังเชื่อว่า ประชาธิปไตยต้องปลูกฝังเองจากภายใน ไม่อาจนำเข้าหรือฝังไว้จากข้างนอกได้ ระบอบที่ยั่งยืนต้องสะท้อนวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความเจ็บปวดของแต่ละประเทศ อาเซียนควรเป็นมากกว่าเวทีเศรษฐกิจ ต้องเป็นพื้นที่ที่เราปกป้องกันและกันในนามของหลักการร่วม

และสุดท้าย เมื่อการเมืองกลายเป็นสนามของบุคลิกภาพ เราต้องไม่ยอมให้เนื้อหากลายเป็นของแถม ประชาชนมีสิทธิตั้งคำถาม และนักการเมืองมีหน้าที่ตอบด้วยสาระ ไม่ใช่แค่ท่าที

วงสนทนาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนทางความคิด แต่มันเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนปัญหาที่เราแชร์กันทั้งภูมิภาค ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ จาการ์ตา หรือมะนิลา ความกดดันคล้ายกัน การต่อสู้ก็คล้ายกัน

แต่ในท่ามกลางความคล้ายกันนั้น ผมเห็นความหวัง

ไม่ใช่เพราะระบบมันดีแล้ว แต่เพราะยังมีคนมากมายที่พร้อมจะทำให้มันดีขึ้น-ในแบบเงียบๆ แบบเหนียวแน่น และแบบไม่ถอยง่ายๆ

หวังจากการเคลื่อนไหวของเยาวชน

หวังจากบทเรียนของประเทศเพื่อนบ้าน

และหวังจาก “คนไทยไกลบ้าน” ที่ผมได้มีโอกาสพบระหว่างการเดินทางครั้งนี้



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

พาณิชย์เดินหน้า…จัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ยกระดับมันสำปะหลังไทย ขยายตลาดส่งออก ดันเศรษฐกิจฐานรากเติบโต
“รองฯตี๋ ”สั่งสืบ 8 รวบแก็งแว้น ย่านตลาดบางปะกอก เหตุรวมตัวมั่วยา ส่งเสียงดังก่อความรำคาญ กำชับท้องที่กวดขัน คาดโทษหากเกียร์ว่าง
ปักธง เทียนวรรณ เปิดโฉม บุรุษรัตน์ สามัญชน จาก ‘ศรีบูรพา’
ปรีดี แปลก อดุล : คุณธรรมน้ำมิตร (74)
‘โฉมหน้าของศักดินาภิวัตน์ในปัจจุบัน’ (2)
เดินหน้าสู่ปีที่ 4 (21) ความตายจากฟากฟ้า
เมษา พฤษภา 2553 ประสาน 2 การเคลื่อนไหวใหญ่ ระหว่าง รัฐบาล กับ คนเสื้อแดง
มนุษย์เป็นเพียงผลลัพธ์ของเหตุบังเอิญ
ปฏิบัติการเหมันต์ทมิฬ (2) (Operation Dark Winter)
การเล่นกอล์ฟช่วยให้มีอายุยืน จริงหรือไม่?
33 ปี ชีวิตสีกากี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ (132)
ตามไปดูการใช้ AI ในโรงเรียน ‘ญี่ปุ่น’