

ที่ผ่านๆ มาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กล่าวถึงกัน มักจะมีความหมายครอบคลุมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยโครงการบ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียม เสียเป็นส่วนใหญ่
ความจริงดูรายชื่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็จะพบว่า กว่า 90% เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่ทำโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม
30 กว่าปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เติบโตกลายเป็นเซ็กเตอร์เศรษฐกิจที่สำคัญประเภทหนึ่งในระบบเศรษฐกิจและรายได้ใน GDP
บริษัทอสังหาฯ ที่เติบโตขยายตัวขึ้นเป็นบริษัทที่มียอดขายต่อปีหมื่นล้านบาทถึงหลายหมื่นล้านบาท เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีขนาดมาร์เก็ตแค็ปหลายหมื่นล้านบาทจนเกือบแสนล้านบาท ก็ล้วนเป็นบริษัทอสังหาฯ ที่โตจากการทำโครงการที่อยู่อาศัยเป็นหลัก
หลายปีที่ผ่านมาสังคมไทยได้ก้าวสู่ยุคสังคมสูงวัย แต่ละปีประชาชนที่มีอายุครบ 20 ปีมีสัดส่วนน้อยกว่าประชาชนที่มีอายุเข้าสู่ 60 ปี ประชากรเกิดใหม่น้อยลง พูดง่ายๆ ประเทศไทยมีแนวโน้มประชากรลดลงเหมือนกับหลายประเทศในโลกนี้
จึงเริ่มมีการตั้งคำถามว่า ตลาดที่อยู่อาศัยบ้าน คอนโดฯ จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร จะลดลงตามแนวโน้มประชากรหรือไม่
เมื่อผนวกเข้ากับวัฏจักรเศรษฐกิจและะธุรกิจอส้งหาริมทรัพย์ไทยอยู่ในภาวะขาลงติดต่อกันมาแล้ว 3-4 ปี อัตราการปฏิเสธให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยสูงขึ้นต่อเนื่อง ยอดขายบ้าน คอนโดฯ ชะลอตัวลงตลอด
ธุรกิจการพัฒนาอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโดฯ จึงอยู่ในภาวะและแนวโน้มที่ไม่สดใส
ขณะเดียวกัน สงครามการค้า การกีดกันการตั้งกำแพงภาษีระหว่างประเทศ กดดันให้อุตสาหกรรมต่างๆ ระหว่างประเทศเกิดการปรับเปลี่ยนย้ายฐานการผลิตเพื่อรับมือกับผลกระทบจากสงครามการค้า การทรานสฟอร์มเมชั่นอุตสาหกรรมใหม่เข้ามาแทนที่อุตสาหกรรมดั้งเดิม
การจับจ่ายออนไลน์ที่โตต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้เกิดความต้องการขนส่งและคลังสินค้าจำนวนมหาศาล
รวมแล้วทำให้เกิดความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าจำนวนมาก ทำให้ที่ดินที่พัฒนามีสาธารณูปโภคพร้อมในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกของไทย ไม่เพียงพอกับความต้องการ ราคาขยับขึ้น 2-3 เท่าตัวในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา
สภาพการณ์ดังกล่าวมา ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนแกนธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ หรือโมเดล
การสร้างรายได้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่แถลงออกมาในช่วงสัปดาห์กลางเดือนพฤษภาคม 2568 เวลาใกล้เคียงกันโดยมิได้นัดหมาย
รายแรก บมจ.มั่นคงเคหะการ ผู้บริหารแถลงข่าวเปลี่ยนโมเดลธุรกิจครั้งสำคัญสร้าง New S-curve โดยจะดันการพัฒนาที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมที่มี พรอสเพค ดีเวลลอปเม้นท์เป็นหัวหอกขึ้นเป็นแกนนำในการสร้างรายได้ของกลุ่ม โดยจะขึ้นโครงการใหม่ “นิคมอุตสาหกรรมบางปะกง” 1,000 ไร่ พร้อมกับยุติบทบาทกลุ่มพัฒนาที่ดินอยู่อาศัยที่เป็นแกนหลักดั้งเดิม โดยการขายที่ดินที่คงค้างและขายที่อยู่อาศัยในสต๊อกให้หมดภายใน 3 ปี
กลุ่มเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ แถลงกลยุทธ์ที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำในอสังหาฯ เพื่อโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า ในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยเชื่อว่าผลกระทบสงครามภาษีการค้า จะส่งผลให้อาเซียนที่มีความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์, มีแรงงานการผลิต และมีประชากรจำนวนมาก ดึงดูดการลงทุนเข้ามาในภูมิภาค
บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด ซึ่งเดิมเป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ ชื่อ “เฟรเกรนท์ กรุ๊ป” ประสบการณ์กว่า 20 ปี หลายปีหลังได้ศึกษาทดลองระดับห้องปฏิบัติการ ร่วมศึกษาวิจัยกับองค์กร สถาบันชั้นนำในต่างประเทศ จนได้รับ PHI Certification อาคารประหยัดพลังงานมาตรฐานระดับโลก เป็นที่แรกและที่เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ได้เปลี่ยนโมเดลธุรกิจมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการเชิง Sustainability และให้บริการ Energy Service Company ในรูปแบบ Coral Total Solution สร้างอาคารประหยัดพลังงานที่สามารถลดค่าไฟมากกว่า 70% รองรับความต้องการตลาดภูมิภาคเอเชียที่มีประชากรกว่า 4,000 ล้านคน
นอกจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ปีก่อนหน้านี้มีกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ รายใหญ่หลายรายได้ไปลงทุนหรือร่วมลงทุนธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์ และบางกลุ่มได้ไปขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยว
ความเปลี่ยนแปลงหมุนวนกันไปเป็นวัฏจักร •
ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

