bg-single

ประเทศในร่ม ‘บ้านใหญ่’

25.05.2025

เมนูข้อมูล | นายดาต้า

 

ประเทศในร่ม ‘บ้านใหญ่’

 

การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศที่ผ่านมา ผลการปรากฏว่า ผู้สมัครจากกลุ่มที่เรียกว่า “บ้านใหญ่” ในความหมายว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวางในท้องถิ่น ชนะการเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่

“บ้านใหญ่” เกิดขึ้นด้วยวัฒนธรรม “ระบบอุปถัมภ์”

บีบีซีไทยเคยสัมภาษณ์ผู้เขียนหนังสือ “รัฐล้มเหลว” และ “รัฐกระดาษ” ชี้ให้เห็นว่าระบบอุปถัมภ์และคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาของประเทศไทย

“สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “การเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติ” พบว่า ร้อยละ 78.80 เห็นด้วยว่า “บ้านใหญ่” ยังมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในพื้นที่ เหตุผลสำคัญที่ทำให้บ้านใหญ่ยังมีอิทธิพล คือ การเข้าถึงประชาชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น งานบุญ งานศพ งานประเพณี ร้อยละ 45.13

เมื่อถามว่าหากกลุ่มการเมืองท้องถิ่นไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองระดับชาติจะมีผลต่อการบริหารและพัฒนาพื้นที่หรือไม่ ร้อยละ 37.50 ตอบว่า ส่งผลกระทบอยู่บ้าง แต่ยังพอบริหารจัดการภายในพื้นที่ได้

 

การที่ผู้สมัครจากกลุ่ม “บ้านใหญ่” ชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลอย่างสูงของวัฒนธรรมระบบอุปถัมภ์และการมีอยู่ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในระดับท้องถิ่น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศไทยในหลายมิติ

มิติการเมือง ประชาธิปไตยระดับท้องถิ่นที่อ่อนแอ การที่ “บ้านใหญ่” สามารถครองอำนาจได้ส่วนใหญ่ บ่งชี้ว่ากลไกการแข่งขันทางการเมืองในระดับท้องถิ่นยังไม่เสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง อิทธิพลของเครือข่ายอุปถัมภ์และฐานเสียงที่สั่งสมมา ทำให้ผู้สมัครที่มีความสามารถหรือนโยบายที่ดีอาจเสียเปรียบ

การผูกขาดอำนาจ “บ้านใหญ่” ที่ชนะการเลือกตั้งมักจะรักษาและขยายฐานอำนาจของตนเองต่อไป ทำให้เกิดการผูกขาดอำนาจในระดับท้องถิ่น ยากต่อการเข้ามาของผู้ท้าทายรายใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างแท้จริง

การเมืองระดับชาติที่ถูกครอบงำ ฐานอำนาจของ “บ้านใหญ่” ในระดับท้องถิ่นมักจะเชื่อมโยงกับนักการเมืองระดับชาติ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์และอิทธิพลซึ่งกันและกัน ส่งผลให้การเมืองระดับชาติถูกครอบงำโดยกลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้

การตรวจสอบและถ่วงดุลที่อ่อนแอ “บ้านใหญ่” ที่มีอิทธิพลมักจะสามารถควบคุมหรือแทรกแซงกลไกการตรวจสอบในระดับท้องถิ่นได้ ทำให้เกิดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบได้ง่าย

 

มิติเศรษฐกิจการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรม : “บ้านใหญ่” ที่มีอำนาจมักจะเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและธุรกิจในเครือข่ายของตนเองในการเข้าถึงทรัพยากรของท้องถิ่น โครงการพัฒนาต่างๆ หรือการอนุมัติ ต่างๆ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ

การพัฒนาที่ไม่ตรงจุดการตัดสินใจในการพัฒนาท้องถิ่นอาจไม่ได้มาจากความต้องการที่แท้จริงของประชาชนส่วนใหญ่ แต่มาจากผลประโยชน์ของกลุ่ม “บ้านใหญ่” ทำให้การพัฒนาไม่ยั่งยืนและไม่ตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริง

การลงทุนที่ขาดความโปร่งใส : อิทธิพลของ “บ้านใหญ่” อาจนำไปสู่การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ทำให้เกิดการรั่วไหลของงบประมาณและโครงการที่ไม่ได้คุณภาพ

การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง : การเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่ม “บ้านใหญ่” อาจทำให้เกิดการกระจุกตัวของความมั่งคั่ง และประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียม

 

มิติสังคม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม : ระบบอุปถัมภ์ที่ “บ้านใหญ่” เป็นศูนย์กลาง ทำให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกและการเข้าถึงโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกันในสังคม ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายอาจเสียเปรียบในการได้รับการบริการ การช่วยเหลือ หรือโอกาสในการพัฒนาตนเอง

การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เสมอภาค อิทธิพลของ “บ้านใหญ่” อาจทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย ผู้ที่อยู่ในเครือข่ายอาจได้รับการละเว้นหรือได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากประชาชนทั่วไป

ความขัดแย้งในชุมชน การแข่งขันเพื่อแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ระหว่างกลุ่ม “บ้านใหญ่” ต่างๆ หรือระหว่าง “บ้านใหญ่” กับกลุ่มประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความแตกแยกในชุมชน

การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ไม่เต็มศักยภาพ การที่ทรัพยากรและการพัฒนาไม่ถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข และสวัสดิการสังคม

 

มิติการพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง

อุปสรรคต่อการสร้างรัฐที่เข้มแข็ง อิทธิพลของ “บ้านใหญ่” และระบบอุปถัมภ์เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างรัฐที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน

การลดทอนความน่าเชื่อถือของระบบการเมือง : การที่ประชาชนเชื่อว่า “บ้านใหญ่” มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง ทำให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตยลดลง และอาจนำไปสู่ความไม่พอใจและความไม่ไว้วางใจในสถาบันทางการเมือง

การพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน การตัดสินใจเชิงนโยบายที่ไม่ได้มาจากผลประโยชน์ส่วนรวม หรือหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน จะส่งผลเสียต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว

การสูญเสียโอกาสในการพัฒนา ทรัพยากรและศักยภาพของประเทศอาจถูกใช้อย่างไม่เต็มที่ เนื่องจากการเอื้อประโยชน์และการทุจริตที่เกิดจากอิทธิพลของ “บ้านใหญ่”

จะทำอย่างไรกัน

 

การแก้ไขปัญหาอิทธิพลของ “บ้านใหญ่” และระบบอุปถัมภ์เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

การปฏิรูปกฎหมายและกลไกการเลือกตั้งท้องถิ่น

การสร้างความโปร่งใสในการหาเสียงและการใช้จ่าย กำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดและเปิดเผยเกี่ยวกับการบริจาคและการใช้จ่ายในการเลือกตั้ง

การเสริมสร้างความเข้มแข็งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระดับท้องถิ่น ให้ความเป็นอิสระและมีอำนาจในการตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างจริงจัง

การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการเลือกตั้ง เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถร้องเรียนและตรวจสอบการเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันและกลไกการตรวจสอบ

การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความอิสระและเข้มแข็ง ลดการแทรกแซงจากส่วนกลางและกลุ่มอิทธิพลภายนอก

การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานตรวจสอบในระดับท้องถิ่น ให้มีบุคลากร งบประมาณ และอำนาจในการตรวจสอบการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างจริงจัง

การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการตรวจสอบ สนับสนุนบทบาทขององค์กรภาคประชาชนในการเฝ้าระวังและเปิดเผยการทุจริต

การส่งเสริมวัฒนธรรมทางการเมืองที่เน้นหลักธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบ

การให้การศึกษาและสร้างความตระหนักแก่ประชาชน ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง หลักการประชาธิปไตย และผลเสียของระบบอุปถัมภ์และคอร์รัปชั่น

การสนับสนุนสื่อมวลชนที่มีคุณภาพส่งเสริมบทบาทของสื่อในการตรวจสอบและนำเสนอข้อมูลอย่างรอบด้านและเป็นกลาง

การสร้างเครือข่ายประชาชนที่เข้มแข็ง สนับสนุนการรวมตัวของประชาชนเพื่อเรียกร้องความโปร่งใสและความรับผิดชอบจากผู้มีอำนาจ

การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม

การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างโอกาสที่เท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา การทำงาน และทรัพยากรต่างๆ เพื่อลดการพึ่งพาอิทธิพลของ “บ้านใหญ่”

การส่งเสริมการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจ : สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ

การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเสมอภาค

การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลหรือผู้ใดก็ตาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในหลักนิติธรรม

การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความต่อเนื่องในการดำเนินการ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการตรวจสอบและตัดสินใจทางการเมืองในระดับท้องถิ่น จะเป็นก้าวสำคัญในการลดอิทธิพลของ “บ้านใหญ่” และสร้างระบบการเมืองที่โปร่งใส เป็นธรรม และนำไปสู่การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง

 



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

‘สีกากอล์ฟ’ กับ ‘สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร’
แพทองธาร พร้อมผลักดันสื่อสารภาพลักษณ์พุทธศาสนาให้ทันสมัย เข้าใจง่าย เข้าถึงคนรุ่นใหม่
ลอย ชูโมเดล การพลิกฟื้นเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา ยุทธวิธีของ ปธน. Javier Milei ที่ไทยควรเรียนรู้
ICSI
ICSI คืออะไร สามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ไหม?
เจ้าอาวาสกับอำนาจเหนือพื้นที่วัด : โครงสร้างที่ต้องสังคายนาใหม่ (1)
วัคซีนเรืองแสงสุดโรแมนติก แพร่ผ่านการกุ๊กกิ๊กกันและกัน
การปกครองเปลี่ยน-แฟชั่นปรับ : แฟชั่นสมัยคณะราษฎร-สงคราม (13) เมื่อสำนักพระราชวังตักเตือน “เจ้าชาย-เจ้าหญิง” ให้แต่งกายตามรัฐนิยม
ดาวกับดวงวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568
พาณิชย์เดินหน้า…จัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ยกระดับมันสำปะหลังไทย ขยายตลาดส่งออก ดันเศรษฐกิจฐานรากเติบโต
“รองฯตี๋ ”สั่งสืบ 8 รวบแก็งแว้น ย่านตลาดบางปะกอก เหตุรวมตัวมั่วยา ส่งเสียงดังก่อความรำคาญ กำชับท้องที่กวดขัน คาดโทษหากเกียร์ว่าง
ปักธง เทียนวรรณ เปิดโฉม บุรุษรัตน์ สามัญชน จาก ‘ศรีบูรพา’
ปรีดี แปลก อดุล : คุณธรรมน้ำมิตร (74)