

เมนูข้อมูล | นายดาต้า
ประเทศในร่ม ‘บ้านใหญ่’
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศที่ผ่านมา ผลการปรากฏว่า ผู้สมัครจากกลุ่มที่เรียกว่า “บ้านใหญ่” ในความหมายว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวางในท้องถิ่น ชนะการเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่
“บ้านใหญ่” เกิดขึ้นด้วยวัฒนธรรม “ระบบอุปถัมภ์”
บีบีซีไทยเคยสัมภาษณ์ผู้เขียนหนังสือ “รัฐล้มเหลว” และ “รัฐกระดาษ” ชี้ให้เห็นว่าระบบอุปถัมภ์และคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาของประเทศไทย
“สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “การเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติ” พบว่า ร้อยละ 78.80 เห็นด้วยว่า “บ้านใหญ่” ยังมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในพื้นที่ เหตุผลสำคัญที่ทำให้บ้านใหญ่ยังมีอิทธิพล คือ การเข้าถึงประชาชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น งานบุญ งานศพ งานประเพณี ร้อยละ 45.13
เมื่อถามว่าหากกลุ่มการเมืองท้องถิ่นไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองระดับชาติจะมีผลต่อการบริหารและพัฒนาพื้นที่หรือไม่ ร้อยละ 37.50 ตอบว่า ส่งผลกระทบอยู่บ้าง แต่ยังพอบริหารจัดการภายในพื้นที่ได้
การที่ผู้สมัครจากกลุ่ม “บ้านใหญ่” ชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลอย่างสูงของวัฒนธรรมระบบอุปถัมภ์และการมีอยู่ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในระดับท้องถิ่น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศไทยในหลายมิติ
มิติการเมือง ประชาธิปไตยระดับท้องถิ่นที่อ่อนแอ การที่ “บ้านใหญ่” สามารถครองอำนาจได้ส่วนใหญ่ บ่งชี้ว่ากลไกการแข่งขันทางการเมืองในระดับท้องถิ่นยังไม่เสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง อิทธิพลของเครือข่ายอุปถัมภ์และฐานเสียงที่สั่งสมมา ทำให้ผู้สมัครที่มีความสามารถหรือนโยบายที่ดีอาจเสียเปรียบ
การผูกขาดอำนาจ “บ้านใหญ่” ที่ชนะการเลือกตั้งมักจะรักษาและขยายฐานอำนาจของตนเองต่อไป ทำให้เกิดการผูกขาดอำนาจในระดับท้องถิ่น ยากต่อการเข้ามาของผู้ท้าทายรายใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างแท้จริง
การเมืองระดับชาติที่ถูกครอบงำ ฐานอำนาจของ “บ้านใหญ่” ในระดับท้องถิ่นมักจะเชื่อมโยงกับนักการเมืองระดับชาติ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์และอิทธิพลซึ่งกันและกัน ส่งผลให้การเมืองระดับชาติถูกครอบงำโดยกลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้
การตรวจสอบและถ่วงดุลที่อ่อนแอ “บ้านใหญ่” ที่มีอิทธิพลมักจะสามารถควบคุมหรือแทรกแซงกลไกการตรวจสอบในระดับท้องถิ่นได้ ทำให้เกิดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบได้ง่าย
มิติเศรษฐกิจการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรม : “บ้านใหญ่” ที่มีอำนาจมักจะเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและธุรกิจในเครือข่ายของตนเองในการเข้าถึงทรัพยากรของท้องถิ่น โครงการพัฒนาต่างๆ หรือการอนุมัติ ต่างๆ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
การพัฒนาที่ไม่ตรงจุดการตัดสินใจในการพัฒนาท้องถิ่นอาจไม่ได้มาจากความต้องการที่แท้จริงของประชาชนส่วนใหญ่ แต่มาจากผลประโยชน์ของกลุ่ม “บ้านใหญ่” ทำให้การพัฒนาไม่ยั่งยืนและไม่ตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริง
การลงทุนที่ขาดความโปร่งใส : อิทธิพลของ “บ้านใหญ่” อาจนำไปสู่การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ทำให้เกิดการรั่วไหลของงบประมาณและโครงการที่ไม่ได้คุณภาพ
การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง : การเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่ม “บ้านใหญ่” อาจทำให้เกิดการกระจุกตัวของความมั่งคั่ง และประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียม
มิติสังคม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม : ระบบอุปถัมภ์ที่ “บ้านใหญ่” เป็นศูนย์กลาง ทำให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกและการเข้าถึงโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกันในสังคม ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายอาจเสียเปรียบในการได้รับการบริการ การช่วยเหลือ หรือโอกาสในการพัฒนาตนเอง
การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เสมอภาค อิทธิพลของ “บ้านใหญ่” อาจทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย ผู้ที่อยู่ในเครือข่ายอาจได้รับการละเว้นหรือได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากประชาชนทั่วไป
ความขัดแย้งในชุมชน การแข่งขันเพื่อแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ระหว่างกลุ่ม “บ้านใหญ่” ต่างๆ หรือระหว่าง “บ้านใหญ่” กับกลุ่มประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความแตกแยกในชุมชน
การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ไม่เต็มศักยภาพ การที่ทรัพยากรและการพัฒนาไม่ถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรม อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข และสวัสดิการสังคม
มิติการพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
อุปสรรคต่อการสร้างรัฐที่เข้มแข็ง อิทธิพลของ “บ้านใหญ่” และระบบอุปถัมภ์เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างรัฐที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน
การลดทอนความน่าเชื่อถือของระบบการเมือง : การที่ประชาชนเชื่อว่า “บ้านใหญ่” มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง ทำให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตยลดลง และอาจนำไปสู่ความไม่พอใจและความไม่ไว้วางใจในสถาบันทางการเมือง
การพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน การตัดสินใจเชิงนโยบายที่ไม่ได้มาจากผลประโยชน์ส่วนรวม หรือหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน จะส่งผลเสียต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว
การสูญเสียโอกาสในการพัฒนา ทรัพยากรและศักยภาพของประเทศอาจถูกใช้อย่างไม่เต็มที่ เนื่องจากการเอื้อประโยชน์และการทุจริตที่เกิดจากอิทธิพลของ “บ้านใหญ่”
จะทำอย่างไรกัน
การแก้ไขปัญหาอิทธิพลของ “บ้านใหญ่” และระบบอุปถัมภ์เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
การปฏิรูปกฎหมายและกลไกการเลือกตั้งท้องถิ่น
การสร้างความโปร่งใสในการหาเสียงและการใช้จ่าย กำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดและเปิดเผยเกี่ยวกับการบริจาคและการใช้จ่ายในการเลือกตั้ง
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระดับท้องถิ่น ให้ความเป็นอิสระและมีอำนาจในการตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างจริงจัง
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการเลือกตั้ง เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถร้องเรียนและตรวจสอบการเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันและกลไกการตรวจสอบ
การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความอิสระและเข้มแข็ง ลดการแทรกแซงจากส่วนกลางและกลุ่มอิทธิพลภายนอก
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานตรวจสอบในระดับท้องถิ่น ให้มีบุคลากร งบประมาณ และอำนาจในการตรวจสอบการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างจริงจัง
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการตรวจสอบ สนับสนุนบทบาทขององค์กรภาคประชาชนในการเฝ้าระวังและเปิดเผยการทุจริต
การส่งเสริมวัฒนธรรมทางการเมืองที่เน้นหลักธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบ
การให้การศึกษาและสร้างความตระหนักแก่ประชาชน ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง หลักการประชาธิปไตย และผลเสียของระบบอุปถัมภ์และคอร์รัปชั่น
การสนับสนุนสื่อมวลชนที่มีคุณภาพส่งเสริมบทบาทของสื่อในการตรวจสอบและนำเสนอข้อมูลอย่างรอบด้านและเป็นกลาง
การสร้างเครือข่ายประชาชนที่เข้มแข็ง สนับสนุนการรวมตัวของประชาชนเพื่อเรียกร้องความโปร่งใสและความรับผิดชอบจากผู้มีอำนาจ
การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม
การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างโอกาสที่เท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา การทำงาน และทรัพยากรต่างๆ เพื่อลดการพึ่งพาอิทธิพลของ “บ้านใหญ่”
การส่งเสริมการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจ : สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ
การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเสมอภาค
การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลหรือผู้ใดก็ตาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในหลักนิติธรรม
การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความต่อเนื่องในการดำเนินการ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการตรวจสอบและตัดสินใจทางการเมืองในระดับท้องถิ่น จะเป็นก้าวสำคัญในการลดอิทธิพลของ “บ้านใหญ่” และสร้างระบบการเมืองที่โปร่งใส เป็นธรรม และนำไปสู่การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

