‘อ.เจษฎ์’ ไปให้สุด ปลุกยกเลิก ปชต. ยุติมรดกคณะราษฎร ‘บก.ลายจุด’ ซัดเผด็จการชั่วร้ายยิ่งกว่า วีรบุรุษรถถังไม่ตอบโจทย์การเมืองไทย
บทความในประเทศ
‘อ.เจษฎ์’ ไปให้สุด
ปลุกยกเลิก ปชต. ยุติมรดกคณะราษฎร
‘บก.ลายจุด’ ซัดเผด็จการชั่วร้ายยิ่งกว่า
วีรบุรุษรถถังไม่ตอบโจทย์การเมืองไทย
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสนั่นอีกครั้ง และหลายคนตั้งคำถามถึงความเหมาะสม หลังจาก รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ขึ้นพูดในงานวันเกิดครบ 60 ปีของทนายนกเขา นิติธร ล้ำเหลือ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568
ประโยคที่พูด เรียกได้ว่าทัวร์ลงไปตามระเบียบ เพราะชูแนวคิดสุดโต่ง ผิดวิสัยนักวิชาการด้านกฎหมายระดับครูบาอาจารย์ ปลุกกระแสยกเลิกระบอบประชาธิปไตย
โดยอ้างว่า เหตุวันนี้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบคณาธิปไตย ต้องยุติมรดกคณะราษฎร และนำประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับบ้านเมืองเราเข้ามาแทน
“ผมเป็นคนพูดว่าถ้าประชาธิปไตยมันชั่ว ก็เลิกประชาธิปไตยมันเถอะ ตอนนี้ผมก็พูดเหมือนเดิมว่า ถ้าประชาธิปไตยมันชั่ว ก็เลิกประชาธิปไตยมันเถอะ”
“คนมาถามผมว่าวันนั้นทำไมไม่อธิบาย ผมก็บอกไปว่าทำไมผมต้องอธิบาย ในเมื่อผมพูดชัดเจนอยู่แล้ว ก็ผมบอกว่า ถ้าประชาธิปไตยมันชั่วก็เลิกมันไป ระบบอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามันชั่ว ก็ต้องเลิกมันไป”
“แต่ไม่ได้แปลว่าบ้านนี้เมืองนี้ เลิกประชาธิปไตยไปแล้วประชาชนจะไม่ได้เป็นผู้บริหารราชการแผ่นดิน ไม่ได้แปลว่าประชาชนจะไม่ได้ร่วมการปกครอง ไม่ได้แปลว่าประชาชนจะต้องทิ้งสิทธิและเสรีภาพ”
“แต่ก่อนแต่ไร คณะราษฎรเป็นใคร อยู่ดีๆ คณะราษฎรก็ร่วมกันก่อการ แล้วก็เอาสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยมาให้บ้านเมืองเรา แล้วเราก็ต้องฟังและทำตามจนถึงทุกวันนี้”
“ผมไม่ได้เรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร และไม่เคยเห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ถ้ามีการตีกัน เอาไม่อยู่จริง ก็จำเป็นต้องรักษาความสงบเรียบร้อย”
“หากจะต้องมีประกาศกฎอัยการศึกทั้งประเทศ เพื่อที่จะควบคุมสถานการณ์ ก็ต้องทำ แต่ไม่ได้แปลว่าทหารจะมาบริหารราชการแผ่นดิน ทำยังไงก็ได้ เพื่อให้ระบบมันเดินหน้าให้ได้” รศ.ดร.เจษฎ์กล่าว
นอกจากนี้ นักวิชาการด้านกฎหมาย ลูกครึ่งไทย-เอลซัลวาดอร์ ยังสะท้อนตรรกะที่ผิดเพี้ยนและเป็นอันตรายต่อระบอบการปกครองไทย
โดยระบุว่า เราจะอยู่กับประชาธิปไตยแบบทุกวันนี้เหรอ มันมีโอกาสดีที่เราจะได้เริ่มใหม่ ถ้าเราไม่ตั้งคำถามกับประชาธิปไตยวันนี้ มันก็จะกลับสู่วงจรเดิม ที่ว่าแดงไป น้ำเงินไป ทหารไป ก็จะเหลือแต่พรรคส้ม
“ตอนนี้บ้านเมืองนี้มันไม่มีประชาธิปไตย วันนี้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบคณาธิปไตย ถ้าประชาธิปไตยมันชั่วก็เลิกมันไปครับ แล้วนำสิ่งที่ใช่มาสู่ประเทศไทยกันเสียที”
“สำหรับผม สิ่งที่คณะราษฎรนำมาให้กับเรามันควรจะยุติลง เพราะมันคือคณาธิปไตยแรกเริ่ม วันนี้เราต้องนำประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับบ้านเมืองเราอย่างแท้จริงเข้ามา เราถึงจะมีประเทศไทยที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง” รศ.ดร.เจษฎ์เผย
คําพูดของ รศ.ดร.เจษฎ์ ถูกวิจารณ์ว่า สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่เป็นปรปักษ์กับระบอบการปกครองของไทย เหตุผลแท้จริงที่อยากยกเลิกประชาธิปไตย เพราะตนและพวกพ้องสูญเสียผลประโยชน์จากระบอบนี้หรือไม่อย่างไร
แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าไม่ได้เรียกร้องรถถัง แต่ความคิดความอ่าน ดูสวนทางกับคำพูด ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นครูบาอาจารย์ พร่ำสอนวิชากฎหมาย กลับไม่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยเสียเอง
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม รศ.ดร.เจษฎ์เคยถูกคนไปร้องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เหตุพูดในที่สาธารณะ ด้วยถ้อยคำยุยง ปลุกปั่น ปลุกระดมให้ประชาชนยกเลิกการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มุ่งเน้นให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
สร้างความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
แต่คล้อยหลังได้เพียง 4 เดือน รศ.ดร.เจษฎ์กลับมีแนวคิดซ้ำรอยเดิม ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับกฎหมายบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย
ด้าน บก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ นักกิจกรรมทางการเมือง ซัดแรงถึง รศ.ดร.เจษฎ์ ยืนยันทุกระบอบมีจุดอ่อน และย้ำว่าเผด็จการมันชั่วยิ่งกว่า แต่ที่คุณไม่ได้ยินหรือไม่เห็นความชั่วนั้น เพราะปิดตาปิดหูตัวเอง
“ระบอบประชาธิปไตยมันไม่ชั่วหรอก ทุกระบอบมีจุดอ่อน ระบอบประชาธิปไตยมันถูกพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากคุณไม่เอาระบอบนี้ก็รบกวนช่วยบอกคนอื่นหน่อยว่าคุณจะเอาระบอบอะไร”
“แล้วรู้ได้อย่างไรว่ามันจะดีกว่าจริงๆ ตอนที่คุณอยู่ในยุคทหารปกครองเมือง คุณอาจไม่ค่อยได้ยินเรื่องชั่วร้าย นั่นไม่ใช่เพราะระบอบมันดี แต่เพราะระบอบมันไม่อนุญาตให้มีการตรวจสอบได้เต็มประสิทธิภาพ”
“แล้วมันทำให้คุณเข้าใจผิดว่าระบอบนั้นมันดี จริงๆ แล้วมันชั่วยิ่งกว่า แต่คุณไม่ได้ยิน และที่คุณไม่ได้ยินหรือเห็นความชั่วนั้น เพราะคุณปิดตาปิดหู พอใจคุณปิด ก็เลยไม่รับรู้”
“หรืออย่างเลวร้ายที่สุด ความชั่วของระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมันอาจไม่ใช่ความชั่วในนิยามของบางคนก็เป็นได้ คือถ้าเราชั่วแล้วระบอบมันชั่ว มันลงตัวไง ชั่วเหมือนกัน ระบอบชั่วคนชั่วว่ามันดี จบนะ” บก.ลายจุดระบุ
สอดคล้องกับมุมมองของ ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics ข่าวบ้าน การเมือง โดยชี้ให้เห็นว่าการลากรถถังออกมา ไม่ได้ตอบโจทย์อะไร และการที่ รศ.ดร.เจษฎ์ออกมาเชียร์ระบอบอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะฝ่ายที่ตนชื่นชอบไม่เคยชนะเลือกตั้งสักที
“ผมมองว่าประชาธิปไตยที่เหมาะสมคือประชาธิปไตยที่ไม่มีรัฐพันลึก ไม่มีผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง ที่เรามองไม่เห็น ดังนั้น ประชาธิปไตยที่คณะราษฎรวางรากฐานไว้ มันเป็นอย่างที่เขาวางรากฐานไว้หรือเปล่า มันเป็นอย่างที่คณะราษฎรมีเจตนารมณ์ หรือมีเจตจำนงที่จะให้มันเกิดขึ้นหรือเปล่า”
“ประชาธิปไตยแบบที่คณะราษฎรมีเจตจำนงที่จะให้มันเกิดขึ้น มันเคยเกิดขึ้นแล้วหรือยังในประเทศนี้ ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว มันไม่เวิร์ก ยกเลิกเลยครับ ถ้าทำยังไม่ถึงตรงนั้นอย่าเพิ่งบอกว่ามันไม่ดี”
“ผมก็ยังมองไม่เห็นว่าจะมีระบอบไหนที่เหมาะสมกับประเทศไทย เท่ากับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แบบที่มันควรจะเป็น ไม่ใช่เป็นแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะมันยังไม่ได้ทำงานเลย แต่เข้าสู่ทฤษฎีสมคบคิดกันไปแล้ว สร้างอุปาทานหมู่ว่าไม่ดี”
“ซึ่งมันมีคนที่เชื่ออยู่อย่างนั้นจริงๆ แล้วถ้าระบอบนี้มันไม่ดีจริง อาจารย์เจษฎ์ก็คงไม่มีโอกาสที่จะได้มาพูดเล่นอย่างนี้หรอก”
“ถ้ารัฐธรรมนูญมันไม่ได้เขียนไว้ว่าประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย คุณไม่มีสิทธิ์ได้พูดแบบนี้ คุณจะไม่มีสิทธิ์ได้แสดงความคิดเห็นต่อผู้นำประเทศว่าห่วยแตก” ครูใหญ่ อรรถพล กล่าว
ขณะเดียวกัน อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ตั้งข้อสงสัยถึงอาจารย์เจษฎ์ว่าอยากได้ระบอบประชาธิปไตยแบบประธานาธิบดีมากกว่าประชาธิปไตยแบบมีกษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่อย่างไร
“เราจะยกเลิกระบอบประชาธิปไตย อาจารย์เจษฎ์จะชวนไปสู่ระบอบไหนล่ะ กลับไปสู่ระบอบเก่าไหม ถ้ากลับไปสู่ระบอบเก่า อาจารย์เจษฎ์จะวิจารณ์ หรือไล่รัฐบาลไหม”
“ในโลกนี้มันก็มีระบอบประชาธิปไตยแบบมีกษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับระบอบประชาธิปไตยแบบประธานาธิบดี”
“ถ้าอาจารย์เจษฎ์บอกว่าจะเอาประชาธิปไตยเหมือนเดิม แต่ไม่เอาแบบที่คณะราษฎรวางเอาไว้ อาจารย์เจษฎ์จะเอาแบบอเมริกาหรือเปล่า อันนี้เรื่องใหญ่เลยนะ”
“คนที่อยากลากรถถัง ผมคิดว่ามันเป็นอารยธรรมแบบที่ไม่พอใจอะไรกันก็ทุบหัว แล้วก็เปลี่ยนเลย มันคืออารยธรรมแบบใช้กำลัง เรามีรัฐประหารกันกี่ครั้งแล้ว ลากรถถังออกมากี่ครั้งแล้ว”
“ไม่ต้องย้อนไปมาก เอาแค่ปี 2549 กับปี 2557 พอ วิธีการแบบนี้สุดท้ายแล้วคำตอบของมันก็คือไม่ใช่ การลากรถถังออกมา มีวีรบุรุษจากฟากฟ้าที่ถือไพ่คิงโพดำมาเนี่ย มันไม่ตอบโจทย์”
“ถ้าสู้ในแบบประชาธิปไตยเขาไม่ชนะไง มันก็จะหงุดหงิด ฝ่ายที่ฉันชอบที่ฉันเชียร์ วิถีที่ฉันต้องการ มันไม่ชนะสักที เลือกตั้งไปก็แพ้ แพ้เสียงที่ไม่มีคุณภาพ แพ้เสียงพวกไม่มีการศึกษา”
“อันนี้คือสิ่งที่พวกเขาคิด ไม่ใช่ผมคิดนะ ดังนั้น ก็ขอคนดีสักคนที่เป็นฮีโร่ของประเทศนี้ ขับรถถังถือไพ่คิงโพดำออกมาแล้วสยบพวกไพ่สอง ไพ่สาม ให้มันราบคาบไปเลยดีกว่า”
ครูใหญ่ อรรถพล กล่าวปิดท้ายด้วยท่าทีประชดประชันกับแนวคิดสุดโต่งของเจษฎ์ โทณะวณิก
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
