
‘ไร่ขิง’ สะเทือน ‘ดงขมิ้น’ ‘ทิดแย้ม’ เผชิญข้อกล่าวหา ถลุง ‘เงินศรัทธา’ หลายร้อยล้าน ประเคน ‘สีกา’-พนันออนไลน์

อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด
‘ไร่ขิง’ สะเทือน ‘ดงขมิ้น’
‘ทิดแย้ม’ เผชิญข้อกล่าวหา
ถลุง ‘เงินศรัทธา’ หลายร้อยล้าน
ประเคน ‘สีกา’-พนันออนไลน์
ปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ในวัดมีมานานแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากไม่มีการบังคับให้ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นเพียงการขอความร่วมมือเท่านั้น จึงกลายเป็นช่องโหว่ให้เกิดการนำเงินที่มาจากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือหนักสุดก็ยักยอกไปเป็นเงินส่วนตัว
ล่าสุด เกิดเรื่องราวช็อกดงขมิ้นขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือเจ้าคุณแย้ม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง จ.นครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 พร้อมด้วยทนายความ และคณะพระผู้ติดตาม เดินทางมาที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดยไม่ได้นัดหมาย เพื่อมอบตัวทั้งที่ยังไม่ได้มีหมายจับกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. หลังทราบเรื่องว่าตนกำลังจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท
การเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจของเจ้าคุณแย้มในครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนที่ตำรวจจะขอศาลอนุมัติหมายจับ และเตรียมเปิดปฏิบัติการบุกเข้าไปควบคุมตัวที่วัดเพียงแค่วันเดียว
พล.ต.ท.จิรภพตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงรายละเอียดคดีว่า ทางกองปราบฯ ได้รับแจ้งพฤติกรรมชวนสงสัยของเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่มีพฤติกรรมยืมเงินจากวัดต่างๆ ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลัก 10 ล้าน รวมแล้ว 300 ล้านบาท โดยให้เหตุผลไปใช้ในวัดไร่ขิง นอกจากนี้ ยังยืมเงินนักการเมืองที่คุ้นเคย โดยอ้างเหตุผลเดียวกัน ส่อว่าอาจมีการยักยอกเงินของวัด
จึงส่งสายสืบแฝงตัวเข้าไปร่วมกิจกรรมในวัดเป็นเวลานานร่วม 8 เดือน เพื่อหาข้อมูล จนกระทั่งพบหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเส้นเงินที่มีการโอนออกจากบัญชีวัด ไปยังบัญชีหญิงสาวเป็นจำนวนเงินหลัก 100 ล้านบาท และพบไปพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ด้วย
งานนี้เจ้าคุณแย้มถูกแจ้งดำเนินคดีฐานความผิด “เป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
ก่อนจะยอมสึกต่อหน้าพระพุทธรูป นุ่งขาวกลายเป็นนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า ทิดแย้ม ฆราวาสเต็มตัว

ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว.กก.5 บก.ป. แสดงหมายค้น
อีก 2 ราย ที่ถูกออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้เวลาไล่เลี่ยกันคือ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ หรือเก็น อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่รับเงินโอนจำนวนหลายร้อยล้านบาทจากทิดแย้ม โดยมีการขอหมายจับกุม ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ก่อนถูกจับได้ที่บ้านพักในเมืองพัทยา
น.ส.อรัญญาวรรณมีประวัติถูกตำรวจ บช.สอท. จับกุมดำเนินคดีพัวพันรับผลประโยชน์จากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ LAGALAXY911 เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา อ้างว่าเป็นเพียงลูกค้าหรือผู้เล่นพนันเท่านั้น ไม่ใช่นายหน้าหรือโบรกเกอร์รับแทงพนัน ส่วนเงินที่รับโอนมา เป็นการยืมมาลงทุน
ที่สำคัญตำรวจพบคลิปลามกอนาจารที่เจ้าตัวส่งให้ทิดแย้มทางมือถือ กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่

พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือเจ้าคุณแย้ม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง
อีกรายที่เป็นกุญแจสำคัญคือ นายเอกพจน์ ภูฆัง อายุ 25 ปี หรืออดีตพระมหาเอกพจน์ พระลูกวัดคนสนิท ที่คอยทำหน้าที่โอนเงินให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ ตามคำสั่งของทิดแย้ม โดยนายเอกพจน์เปิดเผยว่า รู้จักกับทิดแย้มช่วงที่เข้าไปบวชอยู่ที่วัดปี 2561 ไม่รู้ว่าเงินที่โอนเป็นเงินอะไร เป็นเพียงคนสนิทใช้ให้กดเงิน โอนเงินก็ต้องไปเพราะเป็นพระผู้น้อย ยอมรับโอนให้หลายครั้งแต่ละครั้งก็หลักล้าน โดยโอนให้ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นการทำโดยไม่ได้รับค่าจ้าง หลัง น.ส.อรัญญาวรรณ ถูก ตร.ไซเบอร์จับ อดีตเจ้าอาวาสก็สั่งให้สึก และหลบไปอยู่บ้านที่ จ.สุโขทัย
ต่อมาวันที่ 17 พฤษภาคม ตำรวจกองปราบฯ คุมตัวทิดแย้ม พร้อมสีกาเก็น ไปส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว ก่อนศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง มีกำหนด 12 วัน
ทั้งนี้ ทิดแย้มไม่ได้ยื่นขอประกันตัว ส่วนสีกาเก็นศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
ทั้งสองจึงถูกคุมตัวส่งเข้าเรือนจำทันที ขณะที่นายเอกพจน์ก็ถูก ตร.ไซเบอร์อายัดตัวในคดีเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน LAGALAXY911 ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเป็นรายที่ 3

พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง มอบตัวที่ บช.ก.
คดีนี้ยังไม่จบแค่ทิดแย้มเท่านั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติยังเดินหน้าขยายผลต่อไปถึงผู้เกี่ยวข้อง เพราะเห็นว่าลำพังเจ้าอาวาสรูปเดียวไม่น่าจะสามารถสั่งเบิกเงินวัดออกมาได้มากมายโดยที่กรรมการวัดคนอื่นๆ ไม่คัดค้าน อีกทั้งพยานหลักฐานจากการเข้าตรวจค้นวัดถึง 2 ครั้ง ก็พบความหละหลวมมากมายเกี่ยวกับการเบิกใช้เงินที่ญาติโยมทำบุญให้กับวัดไร่ขิง
ที่น่าตกใจคือพบว่ายอดเงินที่โอนให้สีกาเก็นอาจไม่ใช่แค่ 300 ล้านบาท แต่อาจสูงถึง 847 ล้านบาทเลยทีเดียว ทั้งมีความพยายามเบี่ยงเบนคดีว่าเป็นการกู้ยืมเงิน มีสัญญากู้เงินวางไว้ให้ตำรวจค้นพบโดยง่าย
พบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารกว่า 49 บัญชี จากฝ่ายจัดเก็บรายได้ และการเงินของวัด แต่กลับมีรายงานการเบิกจ่ายแค่ 4 บัญชี จากการตรวจสอบพบเงินถูกเบิกออกจากบัญชีผิดวัตถุประสงค์ เชื่อมโยงจากบัญชีวัดอีกบัญชีหนึ่งไปยังอีกบัญชีหนึ่ง รวมถึงพบการเบิกค่าน้ำค่าไฟของวัดที่เกินจริง โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อยู่ที่ประมาณ 800,000 บาทต่อเดือน แต่ถูกเบิกออกจากบัญชีมากกว่า 1 ล้านบาท จำนวนหลายครั้ง

บุกค้นกุฏิเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง
พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ตรวจสอบมูลนิธิวัดไร่ขิง ทั้งบัญชีของมูลนิธิ บัญชีนายแย้ม บัญชีกฐิน และบัญชีกิจกรรมต่างๆ ของวัด พร้อมทั้งตรวจสอบฝ่ายการเงินของวัด ซึ่งรับผิดชอบตู้บริจาคภายในวัด 185 ตู้ รวมถึงค่าอาหารปลา เครื่องสังฆทาน ร้านจำหน่ายวัตถุมงคล ค่าเช่าที่ธรณีสงฆ์ ค่าประมูลแผงขายของงานประจำปีของวัด ที่จัดปีละ 2 ครั้ง จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ายอดเงินรายได้ของวัดปีละประมาณ 100 ล้านบาท เงินก้อนนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ถูกรับเป็นเงินสด และถูกส่งตรงไปยังทิดแย้มโดยตรง ไม่เข้าบัญชีวัด โดยวัดมีเงินในบัญชีแค่หลักล้านเท่านั้น
โดยจากแนวทางสืบสวนพบว่ามีหมอเตยและ พ.จ.อ.สามี ถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการบริหารจัดการวัดเป็นอย่างมาก รวมถึงยังเป็นคนที่ทำหน้าที่เก็บเงินค่าเช่าร้านค้างานวัดงานประจำปีต่างๆ ของวัดไร่ขิง อีกทั้งรถยนต์ของวัดยังมีชื่อของ พ.จ.อ. เป็นผู้ครอบครองกว่า 23 คัน
นอกจากนี้ ได้เร่งตรวจสอบทรัพย์สินของหมอเตย เบื้องต้นพบว่าทำธุรกิจค่ายเพลงและรีสอร์ตในพื้นที่ จ.มุกดาหาร เชียงใหม่ และสุโขทัย รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นคนทำหน้าที่บริหารจัดการการเงินทุกอย่างของวัด ซึ่งพนักงานสอบสวนเตรียมรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานต่อไป

นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าคุณแย้ม นุ่งขาวเป็นฆารวาสเต็มตัว
ขณะที่ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา ตำรวจที่แฝงตัวเข้าไปในวัดไร่ขิง ระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานทิดแย้มเล่นการพนัน แต่พบหลักฐานโอนเงินวัดหลายล้านบาทมาให้สีกาเก็น และพบนำไปใช้เล่นพนัน
เบื้องต้นพบว่าเก็นเคยอยู่แถววัดและเรียนโรงเรียนวัดไร่ขิง พร้อมเคยบอกมีปัญหาให้มาหา พร้อมช่วยเหลือ ก่อนช่วงโควิด เก็นมายืมเงินเจ้าอาวาส และแลกไลน์กัน โดยยืมครั้งแรก 5-6 หมื่น เป็นเงินจากมูลนิธิ จากนั้นมีการวิดีโอคอลหาพูดคุยกัน และมีครั้งหนึ่งสีกาเก็นอยู่ในห้องน้ำได้อัดคลิปไว้ด้วย
จุดแตกหักเกิดขึ้นหลังสีกาเก็นถูก ตร.ไซเบอร์จับเรื่องเว็บพนัน ก่อนออกอุบายว่ามือถือโดนเจ้าหนี้ยึดไป และบอกทิดแย้มว่าถูกขู่ปล่อยคลิป ให้ช่วยโอนเงินไปใช้หนี้ให้ แต่ความมาแตกภายหลัง
ต่อมาวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. มหาเถรสมาคม (มส.) นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และนายชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รรท.ผอ.สำนักเลขาธิการ มส. แถลงผลประชุม มส.ว่า มส.รับทราบข้อปรารภของสมเด็จพระสังฆราช ที่มีถึง ผอ.พศ. เรื่องการบริหารศาสนสมบัติตามพระธรรมวินัย และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์
จากข้อปรารภของสมเด็จพระสังฆราช มส. มีมติเห็นชอบดังนี้
1. ให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการวางแนวทางในการจัดการทรัพย์สินของวัด โดยมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการ มส. เป็นประธานคณะอนุกรรมการ
2. จัดทำแนวทางบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดให้ทันสมัย ตรวจสอบได้ โดยนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้
3. รณรงค์ให้ทุกวัดใช้ระบบอี-โดเนชั่น (การบริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์) มาใช้ในการรับบริจาคจากพุทธศาสนิกชน
4. จัดตั้งกองศาสนสมบัติวัด ขึ้นมาดูแลการจัดการศาสนสมบัติของวัดโดยเฉพาะ
“ถือเป็นการถอดบทเรียนจากกรณีวัดไร่ขิง ที่ผ่านมาวัดไร่ขิงเคยเป็น 1 ใน 72 วัด ที่เป็นแบบอย่างในการจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย การที่ มส.มีมติครั้งนี้ เพื่อวางแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นวัดไร่ขิงขึ้นมาอีก” ผอ.พศ.กล่าว
ทิดแย้มอาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ยิ่งขุดลึกลงไปภาพของขบวนการโกงกินเงินวัดก็ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการไล่ตรวจสอบวัดทั้งหมด อย่าให้เงินจากแรงศรัทธาของประชาชน ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ หรือสีกาเก็น ถูกจับที่พัทยา

ตร.คุมสอบนายเอกพจน์ ภูฆัง อายุ 25 ปี หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ตัวกลางโอนเงิน
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022