เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

มอง ‘พระราชพงศาวดาร’ ผ่านมุม วรรณคดี

11.06.2025

บทความพิเศษ | ธงชัย วินิจจะกูล

มอง ‘พระราชพงศาวดาร’

ผ่านมุม วรรณคดี

ทศวรรษ 1880-1930 (ประมาณ พ.ศ.2420-2470) เป็นระยะที่สังคมสยามกำลังเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาขนานใหญ่ ความเข้าใจต่อโลกและศาสนาซึ่งค่อยๆ ปรับเปลี่ยนมาตั้งแต่ครึ่งศตวรรษก่อนหน้านั้น

เปิดประตูให้สยามต้อนรับความรู้ความคิดใหม่ๆ ซึ่งบางทีเรียกว่าแบบตะวันตก หรือแบบสมัยใหม่

ปัญหามิได้อยู่ที่ว่าอะไรคือตะวันตกหรือไทยแท้ๆ สมัยใหม่หรือสมัยเก่า

เพราะโดยมากจำแนกอย่างเด็ดขาดไม่ได้ ความรู้ทั้งหลายผสมปนเป ปรับตัวเข้าหากันก็มี ปะทะขัดแย้งกันจนบางอย่างถดถอยไปก็มี บางอย่างสถาปนาเป็นหลักแทนก็มี ต่างฝ่ายต่างอยู่ก็มี

ภาวะ “ราชปะแตน” เช่นนี้เอง คือ ลักษณะทั่วไปของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมยุคสมัยใหม่ (modernity) ของสังคมไทย

วัฒนธรรมการศึกษาประวัติศาสตร์คนละชนิดที่ซ้อนทับกันอยู่ในช่วงดังกล่าวก่อให้เกิดการปะทะกันทั้งในแง่ของเนื้อหาสาระและรูปแบบหรือการจัดประเภทของความรู้

กล่าวคือ

จาก HYBRIDITY

HYBRIDIZATION

ประการแรก ในแง่เนื้อหาสาระ ภาวะความรู้คนละประเภทซ้อนทับกันย่อมเปิดโอกาสให้ความรู้ความเข้าใจต่อคำคำเดียวกัน ข้อความเดียวกัน ตัวบทเดียวกัน การกระทำเดียวกัน

สามารถรับรู้ ตีความไปได้คนละอย่าง ตรงข้ามกันก็มี

เพราะคำ ข้อความ หรือตัวบทนั้นๆ สื่อความหมายได้มากกว่าหนึ่งความหมายตามความรู้คนละชุดที่กำกับความหมายของคำ ข้อความ หรือตัวบทนั้นๆ

ธงชัย วินิจจะกูล ขยายความผ่านเชิงอรรถว่า

Mikhail Bakhtin (1981) เรียกภาวะที่คำคำเดียวกันสื่อความได้สองทาง (double-voice) เพราะมีความรู้คนละชนิดซ้อนกันอยู่ข้างหลังคำคำนั้นว่าเป็น Hybridization

และคำคำนั้นเป็น hybridity (ลูกผสม)

แนวคิดนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับประโยค ข้อความ ตัวบท การพูดหรือแสดงออก การกระทำ หรือปรากฏการณ์ทางสังคมด้วย

อย่างไรก็ตาม คำว่า hybridity หรือ “ลูกผสม” เป็นคำรวมๆ ที่ไม่บ่งชัดว่าอะไรผสมกับอะไรซึ่งย่อมแตกต่างไปตามแต่กรณี ในบทความนี้เรากำลังพูดถึงสำนึก วิธีการและการเขียนประวัติศาสตร์คนละแบบซึ่งเป็นอิทธิพลของคนละยุคสมัย

ดังนั้น จึงจะไม่ใช้คำว่า “ลูกผสม” แต่จะใช้คำว่า “กลางเก่ากลางใหม่” สำหรับกรณีนี้

การใช้แนวคิดเรื่อง hybridization และ hybridity ในงานวิชาการ จำนวนมากมักอธิบายแค่การผสมเข้ากันอย่างราบรื่น แต่ ธงชัย วินิจจะกูล เน้นให้เห็นถึง

การปะทะผลักไสระหว่างความคิดคนละชุดเพื่อเข้าแทนที่ยึดครองความหมายของคำคำนั้น

ขนบ ระเบียบ แบบแผน

ทาง การ “ประพันธ์”

ประการที่สอง ตามปกติ ความเข้าใจหรือตีความคำ ความ หรือตัวบทยังขึ้นอยู่กับ “ขนบ”(conventions) ของงานประพันธ์ชนิดหนึ่งๆ ด้วย

ขนบของวรรณกรรม หมายถึง ระเบียบ แบบแผน ประเพณี กฎเกณฑ์ที่สร้างสมมากับจารีตการผลิตงานประพันธ์ชนิดนั้นๆ จนเป็นข้อตกลงหรือความเข้าใจร่วมกันกลายๆ

ระหว่างคนเขียนกับคนอ่านว่างานประพันธ์ชนิดนั้นๆ ควรผลิตอย่างไรและควรอ่านอย่างไร

ขนบจึงผูกกับการแยกประเภทของงานประพันธ์ตามความเข้าใจของคนเขียนกับคนอ่านในยุคหนึ่งๆ (เพราะขนบหรือข้อตกลงใดๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาเช่นกัน)

เช่น เราไม่คาดหวังว่านิยายประวัติศาสตร์จะต้องถูกต้องแม่นยำพิสูจน์ได้อย่างที่เราคาดหวังจากการวิจัยประวัติศาสตร์แบบวิชาการ เราคาดหวังจินตนาการและรสชาติทางศิลปะจากนิยายหรือภาพยนตร์ประวัติศาสตร์แต่เราไม่คาดหวังเช่นนั้นจากงานวิชาการ เป็นต้น

ณ รอยต่อซ้อนทับกันของความรู้คนละชนิดมักเกิดความเข้าใจประเภทของงานประพันธ์ต่างกันหรือผิดๆ นำไปสู่การคาดหวังและตัดสินผิดๆ ตามขนบแต่ละชุด

เช่น ทึกทักว่าพระราชพงศาวดารเป็นบันทึกความจริงประวัติศาสตร์ทำนองเดียวกับงานเขียนประวัติศาสตร์ยุคสมัยใหม่ มิได้ไตร่ตรองว่าพระราชพงศาวดารเป็น วรรณคดีประเภทหนึ่ง เป็นต้น

ประเด็นเรื่องประเภทของงานประพันธ์ที่มีขนบตามยุคสมัยและวัฒนธรรมของตน แต่ละคนต่างสมัยหรือต่างวัฒนธรรม กลับอ่านด้วยมาตรฐาน ค่านิยม โลกทัศน์อีกแบบนี้เป็นปัญหาสำคัญมากที่นักประวัติศาสตร์ยังไม่ค่อยตระหนักกันนัก

มุมมอง ประวัติศาสตร์

มุมมอง พงศาวดาร

ตัวอย่างหนึ่งที่เคยเสนอมาแล้วก็คือ นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่เข้าใจพระมหาธรรมราชาผิดขนาดกลับขาวเป็นดำ

จากผู้มีบุญบารมีสูงกลายเป็นผู้ร้ายกลับใจ

ก็เพราะนักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ไม่เคยสงสัยต่อวิธีอ่านพระราชพงศาวดารอยุธยาแบบที่เราคุ้นเคยอยู่ คือ ถือว่าเป็นบันทึกข้อเท็จจริงในอดีต เราไม่เฉลียวใจว่าพระราชพงศาวดารผลิตขึ้นภายใต้ขนบทางวรรณกรรมคนละอย่างกับบันทึกประวัติศาสตร์สมัยใหม่

และเรายังไม่พยายามเข้าใจขนบดังกล่าวสักเท่าไร ไม่เคยฉุกคิดว่าสามารถอ่านพระราชพงศาวดารได้อีกแบบ

ไม่เคยฉุกคิดว่าควรจัดประเภทให้พระราชพงศาวดารเป็นวรรณคดีหรือเรื่องแต่งแบบหนึ่งได้หรือไม่ ซึ่งหมายถึงมีขนบ วิธีอ่าน ความน่าเชื่อถือต่างจากที่เราเข้าใจอยู่ในขณะนี้

จาก ราชาธิราช ถึง สามก๊ก

เทียบ อานามสยามยุทธ

อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ ที่คนไทยสมัยใหม่ถือว่า “ราชาธิราช” เป็น “วรรณคดีร้อยแก้ว” แต่แท้ที่จริงแล้วเป็น “พระราชพงศาวดาร” ของชาวมอญ

และพระสงฆ์เถรวาทในจารีตไทย-มอญถือเป็นคัมภีร์ “มหายุทธการวงศ์”

หมายถึงเรื่องราวที่เป็นตัวแบบเพื่อช่วยให้เข้าใจอดีตเกี่ยวกับบุญญาธิการของพระเจ้าแผ่นดินตามทัศนะประวัติศาสตร์แบบพุทธเถรวาท อย่างเช่นพระราชพงศาวดารอยุธยาซึ่งจัดเป็น “จุลยุทธการวงศ์”

การจัดประเภทให้กับงานประพันธ์ชิ้นหนึ่งๆ ย่อมรวมขนบของงานประพันธ์ประเภทนั้นเข้าไปด้วย

ในกรณีนี้ทำให้บรมครูทางวรรณคดีวิจารณ์ของไทยระดับ บุญเหลือ เทพยสุวรรณ แสดงท่าทีเด่นชัดเมื่อปี 2522 ไม่รู้ว่าจะถือ “ราชาธิราช” เป็นเรื่องแต่งหรือเป็นพระราชพงศาวดารกันแน่

ครั้งหนึ่งกุหลาบเคยโฆษณา “อานามสยามยุทธ” ของตนในหนังสือ “บัณฑิตยภาสิต” (ร.ศ.126) ว่า

“…มีเรื่องบำรุงสติปัญญา มีคติเป็นประโยชน์ใหญ่ในทางราชการ

ทั้งสนุกนิ์สนาน ยิ่งกว่าเรื่องสามก๊กแลรามเกียรติ”

นี่หมายความว่ากุหลาบเห็นว่า “อานามสยามยุทธ” จัดอยู่ในประเภทเดียวกับ “สามก๊ก” และ “รามเกียรติ์” หรือ

แล้วงานเขียนเชิงประวัติศาสตร์ชิ้นอื่นๆ ที่โดนสอบสวนลงโทษล่ะ เขาคิดว่าเป็นอะไร

เขาผลิตตามขนบของงานประเภทไหน

ผลสะเทือน เงาสะท้อน

ขนบ ทาง การประพันธ์

เป็นคำถามทิ้งท้ายของ ธงชัย วินิจจะกูล ไม่เพียงแต่ต่อประเด็นของการกุ การลอบ การลอก

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังอยู่ที่กระบวนการของ “การแต่ง”

ธงชัย วินิจจะกูล ยังยืนหยัดอย่างหนักแน่นและมั่นคงในเรื่องขนบและธรรมเนียมของการเขียน การประพันธ์

อันเป็นส่วนสำคัญแห่งภาคฉันทลักษณ์



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

‘ฮุน มาเนต’ เล็งเดินหน้าใช้กฎหมาย ‘บังคับเกณฑ์ทหาร’ เริ่มปี 2026 ชี้เพื่อเสริมสร้างกำลังทหารของประเทศ เพิ่มระยะเวลาการฝึกภาคบังคับ เป็น 24 เดือน
“รมว.นฤมล”ถก ก.ค.ศ.-สพฐ.เร่งลดภาระงานครู เผย เตรียมดึงครูเกินเกณฑ์ไปทำธุรการ แก้ปัญหา รร.ขนาดเล็ก ขาดบุคลากร โดยไม่ต้องเพิ่มงบ
ธำรงศักดิ์โพล ชี้ผลสำรวจ ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาจากเลือกตั้งดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 สมัย ร้อยละ 27.45
‘ลิณธิภรณ์’ ลุยสานต่อทุน ODOS รุ่น 3 คัด 1,200 เด็กยากจนพิเศษทั่วประเทศ ย้ำรัฐบาล ‘แพทองธาร‘ มุ่งสร้าง “สะพานเชื่อมโอกาส” ให้ช้างเผือกไทยก้าวสู่เวทีโลก
ลอย แนะทีมไทยแลนด์ เจรจาเปิดตลาดสินค้าเป้าหมายสหรัฐฯ แบบเจาะจง – ขอยกเว้นภาษีเฉพาะ sector วางแผน3ระยะ
‘เสียดินแดน’ เป็นประวัติศาสตร์มโน
The Good, the Bad and the Ugly 20 ปี เล่นการเมือง ในหุบเหว
เลือกตั้งเมียนมา วิถีที่สวนทางกับสันติภาพ
พรรคอเมริกา ทางเลือกใหม่มะกันชน กับเส้นทางสุดหิน
‘อานันท์ ปันยารชุน’ ย้อนอดีตยุค ‘ปลายสงครามเย็น’ ก่อนเปิดม่านสัมพันธ์ ‘ไทย-จีน’
‘ว่าน’ ธนกฤต เปิดใจรักครั้งใหม่ เรียบง่ายและลงตัว กับ ‘สารวัตรบีบี’ พ.ต.ต.หญิง ศรัญญา
‘สงฆ์ไทย’ กลับหลังหัน ‘นิพพาน’ เส้นทางที่ไม่มีอยู่จริง