
ขยายผลขบวนการค้า ‘ยาเสียสาว’ สวมชื่อ 370 คนตาย-สั่งซื้อ อย.แจ้งจับเพิ่ม 6 แพทย์ ร่วมทีม ‘หมอแอร์’ ใช้แฟลต ตร.ซุก 1.7 แสนเม็ด

อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด
ขยายผลขบวนการค้า ‘ยาเสียสาว’
สวมชื่อ 370 คนตาย-สั่งซื้อ
อย.แจ้งจับเพิ่ม 6 แพทย์
ร่วมทีม ‘หมอแอร์’
ใช้แฟลต ตร.ซุก 1.7 แสนเม็ด
คดีการจับกุม หมอแอร์ แพทย์หญิงคนดัง โรงพยาบาลตำรวจ ที่กลายเป็นข่าวสะเทือนไปทั้งวงการเสื้อกาวน์และวงการสีกากี เพราะเป็นการเปิดโปงที่มาที่ไปว่า ‘ยาเสียสาว’ ที่นำมาใช้มอมหญิงสาวจนเสียตัวมานักต่อนัก ทำไมหาซื้อกันได้ง่ายดายยิ่งนัก
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีตรอง ผบ.ตร. และรองประธานคณะทำงานปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นำเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำโดย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปส.1 บช.ปส. นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบริเวณภายในแฟลตตำรวจเฉลิมลาภ ซึ่งเป็นอาคารที่พักตำรวจส่วนกลาง อาคาร 10 ชั้น 2 ห้องเลขที่ 31/268 ซอยเพชรบุรี 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ซึ่งเป็นของพักของ ‘หมอแอร์’ พ.ต.อ.หญิง อัญชุลี เพ็ชรรัตน์ หรือธีระวงศ์ไพศาล นายแพทย์ (สบ 5) กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจ อดีตรองโฆษกตำรวจ พร้อมจับกุมนายดุริยลักษ์ อุปชัย ซึ่งรับว่าเป็นผู้ดูแลห้อง และตรวจยึดยาของกลางบรรจุในลังจำนวนมาก วางอยู่ภายในห้องพัก

จากการตรวจค้นพบยานอนหลับ ที่เป็นยากลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทในประเภท 2 ได้แก่ อัลปราโซแลม Alprazolam tablet จำนวน 57,000 เม็ด, โซลพิเดม ทาร์เทรต Zolpidem tartrate tablet จำนวน 16,100 เม็ด และฟลูไนตราซีแพม Flunitrazepam tablet จำนวน 24,300 เม็ด
นอกจากนี้ยังมียากลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทในประเภท 4 ได้แก่ ยาคลายเครียด โคลนาซีแพม Clonazepam tablet จำนวน 63,000 เม็ด และคลอราเซเพต Clorazapate tablet จำนวน 10,000 เม็ด รวมทั้ง 2 ประเภททั้งหมด 170,400 เม็ด
ทั้งนี้ ยาดังกล่าวข้างต้นถูกนำไปลักลอบขายให้กลุ่มนักเที่ยวกลางคืน นำไปใช้มอมหญิงสาวเพื่อลวงไปมีเพศสัมพันธ์ โดยรู้จักกันในชื่อ ‘ยาเสียสาว’
ทั้งนี้ ‘หมอแอร์’ ถูกตำรวจบุกรวบตัวได้ที่คอนโดฯ ย่านราชดำริ ถนนพระราม 1 และถูกนำตัวไปสอบสวนที่ บช.ปส.

ต่อมาวันที่ 11 มิถุนายน ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมต.สธ., นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาฯ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม
พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการประสานแจ้งข้อมูลจาก อย. ว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบนำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 ออกนอกระบบ นำไปใช้ในทางที่ผิด จึงได้ทำการติดตามสืบสวนสอบสวน พบกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยมีบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้สั่งการ มีพฤติการณ์สั่งซื้อยาจาก อย. โดยทำการสั่งซื้อในนามของคลินิกทางการแพทย์จำนวน 12 คลินิก ก่อนนำยาดังกล่าวไปเก็บซุกซ่อนในห้องพักส่วนตัว และมีผู้เฝ้ายาดังกล่าว ก่อนนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมขบวนการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเส้นทางการเงินทั้งหมดชี้ไปที่ หมอแอร์ ว่าเป็นผู้สั่งซื้อและจ่ายเงินค่ายาทั้งหมดรวมทั้งรับเงินจากการขายยาเพียงคนเดียว
ตำรวจรวบรวมหลักฐานก่อนขออำนาจศาลออกหมายจับ 5 ราย คือ 1.พ.ต.อ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล ผู้สั่งการและผู้เบิกยาจาก อย. 2.นายดุริยลักษ์ อุปชัย คนเฝ้ายาส่งยาไปในพื้นที่วังทองหลาง 3.น.ส.ณัฐพัชร์ ถิรโชติ คนปล่อยยาในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 4.นายปกรณ์ จันทร์เทพ คนปล่อยยาคนปล่อยยาในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และ 5.นายอรชุน จันทนาม คนปล่อยยาคนปล่อยยาในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล
ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 Flunitrazepam (ฟลูไนตราซีแพม) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้รับกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว และสบคบกันจำหน่ายยา รวม 2 ข้อหา ทั้งนี้ หลังทำการสอบปากคำเสร็จ พนักงานสอบสวนยังต้องพิจารณาในข้อหาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งหน้าได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย ใน จ.นครปฐม คือ น.ส.พัชรา และ น.ส.พชรมน หลังพบว่า ได้ครอบครองตัวยาวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมอยู่ในขบวนการดังกล่าว รวมเป็นผู้ต้องหา 7 ราย

นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า เรามามอนิเตอร์ในเรื่องยาควบคุมทั้งหลาย ว่าต้องซื้อจาก อย.โดยตรง อย.จำหน่ายให้ใคร กำหนดด้วยว่าคุณสมบัติการซื้อขายต้องเป็นอย่างไร ยาที่เป็นพวกนี้ ต้องหมอจิตเวชถึงสั่งซื้อได้ ยาพบว่าช่วงต้นปี 2567 เราพบความผิดปกติ เดิมมี 5 คลินิกสั่งซื้อ ในปี 2565 เริ่มต้นที่ 5 คลินิก ปี 2566 กลายเป็น 7 คลินิก แล้วขยายเพิ่มขึ้น พอปี 2567 กลายเป็น 11 ปี 2568 กลายเป็น 12 คลินิก ซึ่งมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย.จับพิรุธคือคนจ่ายเงินคือหมอแอร์เพียงคนเดียว จึงได้ประสานทางตำรวจ ปส. เข้ามาร่วมสอบสวน
“นอกจากนี้ ยังพบว่ามีรายชื่อผู้เสียชีวิตตั้งแต่ พ.ศ.2541 มาปรากฏเป็นบุคคลที่มาสวมเบิกยาวัตถุออกฤทธิ์กับคลินิก ล่าสุด ตรวจสอบช่วง 2 เดือนย้อนหลัง พบว่ามีรายชื่อผู้เสียชีวิตถึง 370 คน จากนี้จะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดก่อน ส่วนการตรวจสอบพบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 80 ล้านบาท ไม่พบแหล่งที่มาชัดเจน อีกทั้งยังมีเส้นทางการเงินร่วมกับบุคคลอื่นอีกกว่า 400 ล้านบาท” นายกองตรี ดร.ธนกฤตกล่าว
ด้าน นพ.วิทิตเผยว่า คำสั่งซื้อยาวัตถุประเภท 2 ผู้สามารถสั่งซื้อได้จะต้องเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และจะต้องได้รับอนุญาตจากทาง อย. เพราะยาประเภทนี้ อย.เป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว ส่วนกรณีของ พ.ต.อ.อัญชุลี อย.พบความผิดปกติตั้งแต่ช่วงกลางปี 2567 จึงตรวจสอบย้อนหลังไปพบว่าตั้งแต่ปี 2565 หมอเริ่มมีการสั่งยาจำนวน 1 ล้านบาท ต่อมาปี 2566 ได้เริ่มเพิ่มจำนวนยา เป็นเงินมูลค่า 4 ล้านบาท ปี 2567 มูลค่า 11 ล้านบาท และปี 2568 ตั้งแต่ต้นปี ได้เพิ่มจำนวนคลินิกเป็น 12 แห่ง มีการสั่งซื้อยาเพิ่มมากขึ้นประมาณมูลค่า 7-8 ล้านบาท ซึ่งปริมาณเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ จนผิดสังเกต
ส่วนการดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับหมอแอร์นั้น ขณะนี้ได้ประสานกับทางแพทยสภาในการพิจารณา
นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือทนายเอี้ยง ทนายความของหมอแอร์ กล่าวว่า หมอแอร์ให้การภาคเสธ เจ้าตัวยอมรับเรื่องของการสั่งยาบางส่วน ในส่วนที่ปฏิเสธนั้น ขอไม่ตอบ จากการตรวจค้นห้องพัก แฟลตตำรวจ หมอแอร์ยอมรับเป็นห้องของตนเอง และยาของกลางที่อยู่ภายในห้อง หมอรู้บางส่วนและไม่รับรู้บางส่วน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
โดยหมอแอร์ประสงค์ไม่ขอยื่นประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาล เนื่องจากต้องการตั้งสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน

ต่อมาตำรวจระดมตรวจค้นคลินิกที่มีชื่อเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า หมอแอร์เข้ามาติดต่อขอเซ้งคลินิกเก่า มีการเสนอว่าให้คลินิกดังกล่าวสั่งซื้อยาควบคุมตัวนี้ให้ด้วย แลกกับเงินค่าจ้าง 3 หมื่น ไม่คิดว่าหมอแอร์จะซื้อยาผู้ป่วยจิตเวชไปขายในลักษณะผิดกฎหมาย เข้าใจว่าหมอแอร์จะเอาไปรักษาคนป่วยคลินิกหมอแอร์เอง เพราะยาตัวนี้ อย.จะควบคุมและจำกัดปริมาณ
หมอแอร์ให้เหตุผลว่าสั่งมาแล้วไม่พอกับคนไข้ อยากรักษาคนป่วยแต่ยาไม่พอ ก็เลยยอมรับข้อตกลง เขาทำมา 2 เดือน เวลาออเดอร์ยามาส่งที่คลินิก หมอแอร์จะเรียกรถมารับยาไป โดยยาไม่ถูกจำหน่ายหน้าคลินิก แค่ใช้ชื่อคลินิกในการสั่งเท่านั้น
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนพบว่า เมื่อมีการเบิกยาแล้วทาง อย.จะส่งยามายังคลินิกเหล่านี้ ซึ่งยาจะอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่จะมีไรเดอร์มารับ แล้วนำไปส่งที่แฟลตตำรวจของหมอแอร์ เพื่อรอแจกจ่ายต่อให้กับเครือข่าย นำไปส่งขายต่อ
ล่าสุดวันที่ 18 มิถุนายน นายกองตรี ดร.ธนกฤต และฝ่ายกฎหมายสำนักงาน อย. พร้อมด้วยเภสัชกร ฉัตรชัย พานิชศุภภรณ์ ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหมอเเอร์ และแพทย์อีก 6 ราย จากการสั่งสารเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 โดยการสวมชื่อผู้เสียชีวิตจาก 370 รายชื่อ จากทั้งหมด 3,909 รายชื่อ ภายหลังจากการเข้าตรวจสอบ 13 คลินิกพบว่ามีคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อยาดังกล่าว 9 คลินิก โดยมีแพทย์ที่สั่งซื้อ 7 ราย รวมถึงหมอแอร์ด้วย เข้าเข้าข่ายความผิดในข้อหา “แจ้งความความเท็จและใช้เอกสารเท็จต่อเจ้าพนักงาน”
ยังไม่มีคำตอบจากปากของหมอแอร์ ที่ขณะนี้ถูกให้ออกจากราชการและถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำว่าทำจริงตามที่กล่าวหาหรือไม่ แต่คดีนี้ทำให้เห็นช่องทางการแพร่กระจายของยาเสียสาว ที่ผู้เกี่ยวข้องต้องเร่งนำไปใช้วางมาตรการป้องกันต่อไป

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

