เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

ช้างศึก ยู-23 ถึงคราเปลี่ยนแม่ทัพ เมื่อ ‘เจแปนเวย์’ ของ ‘นิชิกายะ’ ไม่เข้าตา

05.07.2025

เขย่าสนาม | Stivie Toon

[email protected]

“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ถึงคราวเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อ ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ไม่ได้ไปต่อกับทีมหลังจากที่ผลงานย่ำแย่

ถึง ณ ตอนนี้ที่ปิดต้นฉบับ (1 กรกฎาคม) ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการออกมา แต่ก็เป็นที่ทราบกันภายในแล้วว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ยกเลิกสัญญากับกุนซือชาวญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย

นิชิกายะ เพิ่งจะเข้ามารับงานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2567 จนกระทั่งได้เรียกนักเตะแคมป์แรกในช่วงเดือนธันวาคม 2567 และมีเกมอุ่นเครื่องแบบปิดเท่านั้น

ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์แรกที่นิชิกายะได้คุมทีมแบบจริงจัง ก็คือเกมอุ่นเครื่องรายการดูไบ คัพ 2025 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งผลงานก็คือแพ้รวดทั้ง 3 นัดให้กับยูเออี 0-1, แพ้กาตาร์ 1-2 และแพ้โครเอเชีย 1-3

จริงอยู่ที่ผลงานในดูไบ คัพ อาจจะบอกไม่ได้เต็มปากว่าเป็นผลงานที่ผิดพลาด เพราะเป็นการเจอกับทีมที่มีระดับชั้นเหนือกว่าทั้งสิ้น แต่ทว่าในแคมป์ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน การพ่ายในบ้านให้กับฮ่องกง 2-3 และแพ้ให้ยูเออี (อีกครั้ง) 1-2

อันนี้ต้องบอกว่าผิดวิสัยของทีมที่จะมีอนาคตแล้ว

แม้ว่าในการแต่งตั้งนิชิกายะเข้ามาทำงาน ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะมีโปรแกรมที่ค่อนข้างหนักรออยู่ในช่วง 6 เดือนหลังของปีเป็นต้นไป เริ่มตั้งแต่ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 15-29 กรกฎาคม

จากนั้นในเดือนกันยายน จะมีการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ก่อนจะปิดท้ายปีด้วยรายการที่สำคัญที่สุดอย่างมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในเดือนธันวาคมนี้

เอาจริงๆ นิชิกายะ ยังไม่มีโอกาสได้โชว์ผลงานในเกมที่เป็นทางการเลยแม้แต่เกมเดียว ทั้งหมด 5 เกมที่ผ่านมาล้วนเป็นการอุ่นเครื่องทั้งสิ้น หลายคนจึงบอกว่า การตัดสินใจปลดครั้งนี้มันเร็วเกินไปหรือไม่ หรือเราควรจะให้เวลากุนซือชาวญี่ปุ่นอีกสักหน่อย

แฟนบอลบางคนถึงกับบอกว่าทำแบบนี้ก็เป็นการ “พายเรือในอ่าง” ปลดโค้ชวนลูปไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่ทีมชุดนี้จะมีความต่อเนื่องเสียที

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องลึกเบื้องหลัง ก็ต้องบอกว่าปัญหาของกุนซือแดนปลาดิบคนนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องผลงานในสนาม แต่มันยังมีเรื่องอื่นๆ ภายในมุ้ง ที่ทำให้สุดท้ายแล้วสมาคมฯ ตัดสินใจต้องรีบปลดนิชิกายะในตอนนี้

ว่ากันตามตรงแล้ว ถึงแม้กุนซือคนนี้จะเป็นกุนซือญี่ปุ่น ได้รับคำแนะนำมาจาก มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ ให้ดึงตัวเข้ามา มีความเป็น “เจแปนเวย์” แต่ถ้าลองไปถามแฟนบอลสิงคโปร์ดู ทุกคนจะบอกว่านี่มัน “ของปลอมทำเหมือน” ชัดๆ

ซึ่งผลงานการล้มเหลวกับทีมชาติสิงคโปร์ชุดใหญ่ ก็เป็นจุดที่น่าสงสัยตั้งแต่ตอนแต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่อยู่แล้ว

ปัญหาในการทำงานที่เห็นได้ชัดเลยของนิชิกายะ คือเรื่องของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงความละเอียดในการทำงานต่างๆ ในขณะที่ทีมพ่ายแพ้ถึง 5 เกมติดต่อกันในเกมอุ่นเครื่อง แต่กุนซือญี่ปุ่นคนนี้ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าจุดใดที่ทีมชาติไทยจะต้องแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านั้น หรือชี้จุดที่จะต้องพัฒนายกระดับทีมต่อไป

แม้ว่าแฟนฟุตบอลในสนามอาจจะได้เห็นทีมชุดนี้เล่นเพรสซิ่ง ดูเล่นบอลสนุก แต่สิ่งที่เห็นล้วนแต่เป็นการ “ด้นสด” เองของนักเตะในสนามแทบทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นผลมาจากการฝึกซ้อม เพราะเท่าที่รู้มาการกำหนดว่าจะซ้อมอะไรในแต่ละวัน ทีมงานโค้ชยังไม่สามารถบอกได้เลย

จริงๆ ก็เข้าใจหลายคนที่บอกว่าอยากให้ได้ลองทำทีมแบบทัวร์นาเมนต์จริงจังก่อนในชิงแชมป์อาเซียน แต่ทางสมาคมฯ ก็มีเหตุผลใหญ่ 1 ข้อที่ต้องปลดเขาในทันที นั่นก็คือเรื่องของการเตรียมทีมในระยะยาว

ใน 3 รายการที่ ทีมชุดยู-23 จะต้องลงเล่นหลังจากนี้ รายการที่มีความสำคัญที่สุดไล่ลำดับลงมา ก็คงต้องมองซีเกมส์เป็นอันดับ 1 รอบคัดเลือกชิงแชมป์เอเชีย เป็นอันดับ 2 และรายการที่สำคัญน้อยที่สุดก็คือชิงแชมป์อาเซียน

ถ้าหากสมาคมฯ เลือกปล่อยให้นิชิกายะ ทำงานต่อไปในศึกชิงแชมป์อาเซียน แล้วผลงานมันออกมาไม่ดี จนต้องปลดนิชิกายะจริงๆ คนที่จะเข้ามารับงานต่อ จะขาดทัวร์นาเมนต์ที่จะใช้ในการเตรียมทีม ในรายการที่มันสำคัญกว่าอย่างชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก

เพราะหลังจบศึกชิงแชมป์อาเซียนในเดือนกรกฎาคม ช่วงเดือนสิงหาคม ฟุตบอลลีกในประเทศก็จะเปิดฉากแล้ว ว่ากันตามตรงนักเตะรุ่นอายุ 22-23 ปี ส่วนใหญ่เป็นตัวหลักในสโมสรเกือบแทบทั้งสิ้น ฉะนั้นจะไม่มีเวลาให้โค้ชใหม่เรียกพวกเขามารวมตัวเพื่อทำการฝึกซ้อมก่อนได้

และช่วงเวลาที่ให้โค้ชใหม่ในการเตรียมทีม จะมีแค่ 2 วันก่อนเตะนัดแรกกับมองโกเลีย ในวันที่ 3 กันยายนเท่านั้น และถ้าหากไทยพลาดตั๋วไปชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 นี่คือส่งผลร้ายที่นักเตะจะไม่ได้มีทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ไว้แข่งขัน

ฉะนั้นทางสมาคมฯ จึงต้องตัดสินใจปลดนิชิกายะในตอนนี้ เพื่อให้โค้ชคนใหม่ที่เข้ามา ได้มีโอกาส และเวลา ในการทำความรู้จักผู้เล่น

ว่ากันต่อในส่วนของโค้ชคนใหม่นั้น สมาคมฯ ต้องการโค้ชไทย ที่น่าจะเข้าใจบริบทและความสำคัญของรายการในปีนี้มากกว่า ฉะนั้นถ้ามองโค้ชไทย ดีกรีโปรไลเซนส์ แล้วว่างงานด้วย มันก็คงไม่ได้มีตัวเลือกมากเท่าไรนัก

หลายคนเชียร์ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่เคยปลุกกระแสฟุตบอลไทยให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าค่าเหนื่อยของพี่โก้ในเวลานี้ สมาคมฯ คงไม่สามารถรับไหวได้แน่นอน

ฉะนั้นมันก็เหลือตัวเลือกรองๆ ลงมา และกลายเป็นเต็ง 1 ในเวลานี้อย่าง “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล อดีตฮีโร่ผู้ซัดโกลเด้นโกลในเอเชียนเกมส์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 1998 ซึ่งเพิ่งหมดสัญญากับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี แม้จะพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2 เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1 ได้สำเร็จก็ตาม

ซึ่งเชื่อว่าระหว่างที่ได้อ่านต้นฉบับเล่มนี้ ทุกคนน่าจะได้เห็นกันแล้วว่าใครคือโค้ชคนใหม่ของทีมชุดยู-23 เพราะว่าสมาคมฯ ต้องรีบแต่งตั้งเนื่องจากมีเดดไลน์ส่งรายชื่อ 23 คนชุดชิงแชมป์อาเซียนอีก

สุดท้ายนี้ การเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ไม่มีใครบอกได้ว่าจะดีหรือไม่ดี ใครอยากรู้คงต้องนั่งไทม์แมชชีนไปดูอนาคต

แต่ในฐานะแฟนบอล คงได้แต่หวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันจะดีก็แล้วกัน



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

ไม่เกี่ยวกับ ‘ฮุน เซน’
ในระบอบป่วยติดเตียง รัฐบาลเป็ดง่อย
ใช่-ไม่ใช่
จับตา อุดมศึกษาไทย ในสภาวะ ‘กลืนไม่เข้าคายไม่ออก’ เมื่อการเมืองรุกล้ำพื้นที่พัฒนาประเทศ
Ryan Gander นักท้าทายผู้ชมให้คลี่คลายปริศนาซับซ้อนทางศิลปะ
ผู้ว่าแบงก์ชาติ (คนใน)
คุยกับทูต | โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ครบรอบ 249 ปี วันประกาศอิสรภาพสหรัฐ (จบ)
จีนหนุนสยาม ยึดอยุธยาเพื่อจีน
อาณาเขตของความอร่อย
ข้าชื่อซารุโทบิ : โลกสองใบที่ไม่มีวันบรรจบ
บวชนาค พิธีกรรมสัญลักษณ์ เปลี่ยนผ่าน คนพื้นเมือง ให้เป็นอารยชน
ลืมจำ…ลืมจริง?