
เพื่อนNot OKเพื่อน | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
เพื่อนNot OKเพื่อน
มิวสิกวิดีโอเพลง I’m OK // Not OK ของ BOYdPOD (บอย โกสิยพงษ์ , ป๊อด-ธนชัย อุชชินและ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) ที่กำลังฮิต
ทำให้ “ดา กานดา และไข่ย้อย” 2 ตัวละครสำคัญ แห่งหนัง”เพื่อนสนิท” เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
“เกี่ยวก้อย”กลับมาเขย่าอารมณ์”หวาน” ในหัวใจของหลายๆคน ให้ฟุ้งกระจาย
ถือเป็นความชุ่มชื่น เล็กๆน้อยๆ จากโลก”จินตนาการ” ที่ หาได้ยากยิ่ง ใน โลกแห่งความเป็นจริง
โลกแห่งความเป็นจริง ที่มองหา”เพื่อนสนิท”ไม่พบมากนัก
ไม่ต้องอื่นไกล เดิมนั้น มีความคาดหมายว่า ความเป็นเพื่อนสนิท ระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” กับ”ฮุน เซน”
จะทำให้ความสัมพันธ์ ระหว่างไทย-เขมร
ความสัมพันธ์ ระหว่างรัฐบาล”แพทองธาร ชินวัตร”กับรัฐบาล”ฮุน มาเนต” ราบรื่น
แต่ เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา Not OK ถึงขนาดจะเปิดศึกสงครามต่อกัน
แม้ “การปรับกำลัง”ของทั้งสองฝ่าย จะทำให้ “สงครามร้อน” อันหมายถึงการลั่นกระสุนเข้าใส่กัน ชลอออกไป
แต่”สงครามเย็น” ผ่านการโฆษณาชวนเชื่อ ผ่านการปลุกระดมชาตินิยม ในโลกไซเบอร์ ดุเดือดเลือดพล่าน
และมีแนวโน้มที่จะขยาย ไปสู่สงครามเศรษฐกิจ ไม่ว่าการปิดด่าน การตัดไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ต การบอยคอตสินค้า
สงครามเศรษฐกิจ แม้จะไม่เสียเลือดเสียเนื้อ
แต่หากเกิดขึ้นจริง ทั้ง 2 ประเทศ ก็คงมี”ค่าใช้จ่าย”มหาศาล
นี่เป็น โลกแห่งความเป็นจริง ที่ เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจ รับแรง”กระแทก”นี้ให้ดี
เพราะมันย่อมไปซ้ำเติม ให้ สงครามการค้าโลก หนักหน่วงขึ้น
เศรษฐกิจไทยที่”วิกฤต”อยู่แล้ว ก็จะวิกฤตขึ้นไปอีก
ในภาวะเช่นนี้ ความเป็น”เอกภาพ” โดยเฉพาะใน “รัฐบาลผสม”จะต้องความเป็นหนึ่งเดียว
เพื่อผนึกกำลังในการเผชิญวิกฤตต่างๆ
แต่ เอาเข้าจริง ความเป็น “เพื่อนสนิท”ในรัฐบาลผสมชุดนี้ ไม่มีอยู่จริงเช่นกัน
เพราะเกิดภาวะ เพื่อน”ไม่”สนิทขึ้น ทั้งในพรรค และระหว่างพรรค อย่างชัดเจน
กลายเป็น สงครามเย็นทางการเมือง ที่ชวนให้”ยะเยือก”อย่างยิ่ง
ภายนอก หรือท่าทีที่แสดงออกต่อกัน แม้จะโชว์”ไม่มีอะไรกัน”
แต่ เบื้องหลัง กลับมากด้วย”เหลี่ยมคู” และ”บ่อนทำลาย”กันอย่างกับไม่ใช่”เพื่อน”
ทำให้ การเมือง ที่ควรเป็นหนึ่งเดียว กับกลายเป็นความแตกแยก ไร้เสถียรภาพ
จนทำให้ ความมั่นใจในรัฐบาล ที่ควรต้องนำพาส่วนรวม เดินหน้าเผชิญวิกฤตทั้งในและนอกประเทศ ตกต่ำลงอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในความตกต่ำ และขาดความเชื่อมั่นดังกล่าว ไม่ใช่เพียงรัฐบาลเท่านั้น ที่ต้องเผชิญ
หากแต่ทำให้เกิด วิกฤตศรัทธาต่อการเมือง โดยเฉพาะการเมือง ผ่านตัวแทนจาก”การเลือกตั้ง” ย่ำแย่ซ้ำลงไปอีก
นำไปสู่ ปรากฏการณ์อันไม่พึงประสงค์ต่อระบอบประชาธิปไตย
เช่นมีการเรียกร้องถึงการแก้ไขปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของ “ทหาร” อันสืบเนื่องจากปัญหาไทย-กัมพูชา
การเรียกร้อง หา คนดี และผู้ที่มากด้วยจริยธรรม อันสืบเนื่องจาก กรณีชั้น 14 ที่ไม่อาจไว้ใจนักการเมืองจากการเลือกตั้งได้
สังคมไทยถูกชี้นำให้ไม่อาจวางใจเป็น “เพื่อนสนิท”กับ”นักการเมือง”มากยิ่งขึ้น
เหล่านี้ เป็นสัญญาณที่ไม่ดี ต่อระบอบประชาธิปไตยโดยรวมเลย
ก็ได้แต่หวัง สถานการณ์ต่างๆคงไม่เลวร้ายลง จนประเทศต้อง”หน้ามืด”หวลกลับไปหา”อัศวินม้าขาว”อีกครั้ง
ซึ่งนั่นNot OK อย่างยิ่ง
—————