เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

กานดา นาคน้อย : ‘เสือ’ โดนดาวน์เกรดเป็น ‘เห็บ’

03.08.2016

ฉันอ่านรายงานข่าวเกี่ยวกับ“เห็บสยามโมเดล”ที่นำเสนอโดยปลัดกระทรวงการคลังแล้วคิดว่าวาทกรรมนี้ย้อนแย้งอย่างน่าอัศจรรย์ [1] [2] เขาเสนอว่า

“เห็บสยามโมเดลจะช่วยทำให้เราเติบโตไปกับประเทศที่กำลังขยายตัวได้ เราไม่จำเป็นต้องโตคนเดียว แต่สามารถพึ่งพาพันธมิตรได้ เช่น ถ้าจีนโต เราก็จะอ้วนด้วย ถ้าจีนเลิกโต เราก็จะไปอยู่กับอินเดีย หรือแอฟริกาใต้ต่อ นี่คือกลยุทธ์การโตของเรา คือถ้าใครโตเราก็จะเกาะไปกับเขาด้วย” แต่ในขณะเดียวกันก็อ้างอิงดัชนีต่างๆเพื่อชี้นำว่าเศรษฐกิจไทยโดยภายรวมไม่มีปัญหา

ถ้าสาธารณชนเข้าใจ “ความหมาย”ของดัชนีต่างๆที่ปลัดกระทรวงการคลังอ้างอิงก็จะเข้าใจว่าอัศจรรย์อย่างไร

ก)ปลัดคลังอ้างอิงว่า “ตัวเลขการว่างงานต่ำ”

ที่จริงแล้วสถิติอัตราว่างงานของไทยเป็นสถิติที่ไม่มีประโยชน์ต่อการศึกษาตลาดแรงงาน สมมุติว่าชายคนหนึ่งเป็นพนักงานบริษัทที่โดนไล่ออกจากงานแล้วหันไปช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนา สถิติไทยก็นับว่าชายคนนี้ไม่ตกงาน ประเด็นนี้สำคัญเพราะแรงงานในภาคเกษตรมากถึง 40% ของแรงงานทั้งหมด ฤดูที่ยังไม่เก็บเกียวไม่มีรายได้แล้วไปรับจ้างตัดหญ้า 1 ชั่วโมงหรือไปซื้อผลไม้ที่ตลาดมาจัดใส่ถุงเร่ขายก็นับว่าไม่ตกงาน ปีที่แล้วสำนักงานข่าวบลูมเบิร์กก็เผยแพร่บทความที่เล่าความน่าขำขันของสถิติอัตราการว่างงานของไทย [3]

ข)ปลัดคลังอ้างอิง“กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์”

กำไรดังกล่าวไม่นับบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ ภาครัฐไม่สนใจผลกำไรของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์หรือ? แม้บริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์มีขนาดเล็กกว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แต่บริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ก็อาจมีศักยภาพในการสร้างสินค้าใหม่ที่สร้างความเติบโตให้เศรษฐกิจได้ ผลกำไรของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ดูได้ไม่ยากจากข้อมูลการเสียภาษี ถ้าภาคเอกชนกำไรดีรัฐบาลก็ควรเก็บรายได้ภาษีได้ตามเป้า แต่มีรายงานข่าวว่ารายได้ภาษีเดือนพฤษภาคมต่ำกว่าเป้าถึง 20% [4]

ค)ปลัดคลังอ้างอิง “ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์”

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ในบัญชีแบงค์ชาติ มีระดับสูงเพราะส่วนต่างดอกเบี้ยและการเก็งกำไรในตลาดหลักทรัพย์ทำให้เงินทุนไหลเข้าในระยะสั้นจึงเกิดความต้องการซื้อเงินบาท มีผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น เงินทุนเหล่านี้ไม่ช่วยสร้างงานนอกภาคการเงิน ดอกเบี้ยปรับลดลงเมื่อไรทุนระยะสั้นก็จะไหลออก ทุนต่างชาติที่สำคัญต่อการผลิตและสร้างงานนอกภาคการเงินเรียกว่า“การลงทุนตรง” (Direct investment) ซึ่งปลัดคลังไม่อ้างอิง ที่จริงแล้วการลงทุนตรงจากต่างชาติในครึ่งปีนี้ตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี และการลงทุนตรงโดยทุนไทยในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้น [5] กล่าวได้ว่า “ทุนตรงไทยไหลออก และทุนตรงนอกทรุดตัว”

ทุนญี่ปุ่นที่มาลงทุนตรงในไทยจ้างคนญี่ปุ่นให้มาทำงานที่ไทยทั้งในระดับบริหารและวิชาชีพแล้วทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศจ้างงานคนไทยกลุ่มไหน? ถ้าลงทุนในภาคที่เน้นใช้แรงงานท้องถิ่นราคาถูกก็ไม่จำเป็นต้องจ้างแรงงานมีทักษะจากไทยมาก ถ้าลงทุนในภาคเทคโนโลยีจะจ้างวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์คนไทยไหม?

ง)ปลัดคลังอ้างอิง “ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล”

ดุลบัญชีเดินสะพัดวัดความแตกต่างระหว่างเงินออมและการลงทุนในประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพราะเงินออมสูงขึ้นและการลงทุนหดตัวซึ่งสอดคล้องกับการหดตัวของภาคส่งออก ถ้าเศรษฐกิจขยายตัวการส่งออกจะไม่หดตัว ถ้าดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลควบคู่ไปกับการขยายตัวของภาคส่งออกถึงสมควรยินดีปรีดา แต่สัปดาห์นี้มีรายงานข่าวว่าการส่งออกของไทยหดตัวติดต่อกันมา 6 ไตรมาสแล้ว [6]

ที่จริงแล้วงานวิจัยพบว่าเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวดุลบัญชีเงินสะพัดจะลดลงและอาจติดลบ เพราะการนำเข้าขยายตัวพร้อมๆกับการส่งออก มีทั้งการนำเข้าสินค้าทุน (เช่น เครื่องจักร)และวัตถุดิบเพื่อลงทุน และการนำเข้าสินค้าและบริการเพื่อบริโภค ยิ่งขยายตัวนานๆดุลบัญชีเดินสะพัดยิ่งลดลง ถ้าลดลงจนดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบนิดหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่ถ้าติดลบเกิน 5% ของผลผลิตประชาชาติติดต่อกันหลายไตรมาสก็อาจเป็นสัญญาณว่าการลงทุนมากเพราะสถาบันการเงินปล่อยกู้ง่ายเกินไปและอาจทำให้มีวิกฤตการเงินในอนาคต

จ)ปลัดคลังอ้างอิง “สถาบันจัดอันดับระดับโลกคือ ฟิชท์ เรตติ้ง และสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส”

สถาบันเหล่านี้จัดอันดับการลงทุนในตราสารหนี้ เป็นอันดับความน่าเชื่อถือของ “ผู้กู้เงิน” กล่าวคือ สถาบันการเงินต่างๆที่กู้เงิน บริษัทต่างๆที่กู้เงิน และรัฐบาลประเทศต่างๆที่กู้เงิน [7] [8] ไม่ใช่การจัดอันดับความน่าลงทุนแบบ“ลงทุนตรง” อย่าสับสนระหว่างความน่าลงทุนด้วยการปล่อยกู้ด้วยการซื้อตราสารหนี้ไทย และความน่าลงทุนด้วยการร่วมทุนผลิตสินค้าและบริการในประเทศไทย ความน่าลงทุน 2 แบบนี้แตกต่างกัน แบบหลังมีความเสี่ยงสูงกว่าแบบแรกมาก

อันดับเรตติ้งพันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ในขั้นดีเพราะรัฐบาลยังมีความสามารถในการใช้หนี้สูง เนื่องจากหนี้สาธารณะยังไม่สูงมากและกระทรวงการคลังมีทรัพย์สินที่นำมาขายใช้หนี้ได้ถ้าเก็บภาษีไม่พอใช้หนี้ เช่น หุ้นการบินไทย หุ้นธนาคารทหารไทย หุ้นปตท. ฯลฯ

ส่วนอันดับเรตติ้งสถาบันการเงินไทยและบริษัทไทยหลายแห่งอยู่ในขั้นดีด้วยเหตุผลคล้ายกัน คือมีความสามารถในการใช้หนี้สูง เนื่องจากมีทรัพย์สินมาก (เช่น ปริมาณเงินฝากในสถาบันการเงิน กรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ)

ไทยน่าลงทุนระยะยาวเพื่อ“การผลิต”แค่ไหนก็วัดกันได้จากตัวเลขการ“ลงทุนตรง”อย่างที่เสนอไปแล้วข้างต้น เพราะการลงทุนตรงไม่ใช่การลงทุนระยะสั้นที่ถอนทุนกันรวดเร็วแบบการลงทุนในตลาดตราสารหนี้หรือตลาดหลักทรัพย์

ภาวะ“ทุนตรงไทยไหลออก และทุนตรงจากนอกทรุดตัว” ก็บ่งบอกแล้วว่าภาคการผลิตในไทยไม่น่าลงทุนในสายตาบริษัทข้ามชาติทั้งไทยและเทศ ก็ย่อมมีผลเชิงลบต่อตลาดแรงงาน

ปลัดคลังสรุปว่า “เศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมไม่มีปัญหา” พร้อมกับเสนอ “เห็บสยามโมเดล” เห็บเป็นสัตว์ที่ต้องอาศัยสิ่งมีชิวิตอื่นเพื่อการอยู่รอด เช่น สุนัข ดังนั้นวาทกรรม“เห็บสยาม”สะท้อนถึงข้อจำกัดด้านศักยภาพการผลิตเพื่อเติบโต ที่จริงความหมายนี้ก็สอดคล้องกับบทความนี้ที่ต้องการชี้ให้เห็นปัญหาของเศรษฐกิจไทย

เมื่อ 25 ปีที่แล้วคนไทยภาคภูมิใจว่าไทยเป็น“เสือตัวที่ 5 ของเอเชีย” แต่ตอนนี้โดนปลัดคลังดาวน์เกรดฮวบฮาบเป็นเห็บเกาะเพื่อนกินซะแล้ว !!!


หมายเหตุ

[1] คลังชู”เห็บสยามโมเดล” จับมือพันธมิตร ตปท.หนุน ศก. เผยข้อมูลคนไทยยังมีเงินฝากสูง-บริษัทเอกชนกำไรดี http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1470134631

[2] ปลัดคลังผุดโมเดลเศรษฐกิจ’เห็บสยามโมเดล’เกาะไปกับประเทศที่เติบโต



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

จดหมาย
หมี่กระเฉด ซีฟู้ด
เดินตามดาว | ศรินทิรา
‘มิตซูบิชิ ไทรทัน’ MY2025 ปรับใหม่ดุดันขึ้น-เพิ่มออปชั่น
ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ลุกลาม ‘วงการกีฬา’ จับตาห้ามแข่ง ‘ซีเกมส์’
อสังหาฯ อย่าคาดหวังกำลังซื้อจีน
ยูเอส โอเพ่น ครั้งที่ 125 เมื่อ ‘โจทย์’ ยากเกินไป ก็ไม่สนุก
สะแกแสงและขางหัวหมู ไม้ยาหายาก
ดาวกับดวง วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568
ขอแสดงความนับถือ
“อนุทิน” นิ่งสงบหลังถอนตัวจากรัฐบาล ย้ำ “ภูมิใจไทย” ไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง เตรียมทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ ขอให้บ้านเมืองสงบ
“ชัยวุฒิ”เผย เพื่อไทยพยายามชวนร่วมรัฐบาล แต่ พปชร.ไม่ร่วม ฝากพรรคร่วมฯ ถ้ายังกอดคอกันอยู่ จะจมน้ำตายกันหมด แนะ ถอนตัวตั้งรัฐบาลใหม่