

การเมืองวัฒนธรรม | เกษียร เตชะพีระ
ตึกถล่ม รัฐล้มเหลว? (1)
เหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่สูง 30 ชั้นมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาทที่อยู่ระหว่างก่อสร้างยุบตัวถล่มลงมาแบบแพนเค้กเนื่องจากผลสะเทือนของแผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคมศกนี้ จนคร่าชีวิตคนงานก่อสร้างล้มตายสูญหายไปเรือนร้อย นำไปสู่การสืบเสาะเปิดเผยข้อมูลความไม่ชอบมาพากลของโครงการ ผู้รับเหมา และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบนานัปการต่อมา (https://www.bbc.com/thai/articles/c24qzd9vr3yo)
ได้ทำให้เกิดเสียงวิเคราะห์วิจารณ์อุปมาเปรียบเทียบจากความบกพร่องของโครงการก่อสร้างที่ส่งผลให้ตึกถล่มเป็นประวัติการณ์ (เพียงตึกเดียวใน กทม.และประเทศไทย อีกทั้งเป็นตึกสูงสุดที่ถล่มในระยะห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นไหวไกลที่สุดในโลกด้วย) มาสู่วิกฤตการเมืองการปกครองและเศรษฐกิจนานัปการที่กำลังปะทุต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน และฟ้องให้เห็นความด้อยประสิทธิภาพและขาดความชอบธรรมของรัฐไทย จนทำให้นักสังเกตการณ์หลายท่านตั้งข้อสังเกตว่า…
ชะรอยรัฐไทยกำลังจะล้มเหลวเสียแล้วฤๅไฉน? (คุณ Isriya Paireepairit ได้ประมวลสรุปข้อสังเกตถกเถียงเรื่องดังกล่าวในระยะที่ผ่านมาไว้ในโพสต์ Facebook, May 15, 2025 https://www.facebook.com/markpeak)
ประเด็นปัญหาคือเราจะทำความเข้าใจแนวคิด “รัฐล้มเหลว” (failed state) ซึ่งใช้ในวงวิชาการรัฐศาสตร์ตะวันตกว่าอย่างไรดี? จะประยุกต์มันมามองสภาพการณ์การเมืองไทยปัจจุบันได้อย่างไรบ้าง?

ในหนังสือเรื่อง State Failure and State Weakness in a Time of Terror (2003) Robert Irwin Rotberg ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ชาวอเมริกันแห่ง Massachusetts Institute of Technology, ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโครงการความขัดแย้งระหว่างรัฐแห่ง Harvard Kennedy School และประธานกิตติมศักดิ์ของ the World Peace Foundation ชี้ว่ารัฐชาติสมัยใหม่มีหน้าที่เชิงบวกอยู่ 4 ด้านใหญ่ๆ ด้วยกัน และฉะนั้น อาการรัฐล้มเหลวก็คือการที่รัฐหนึ่งๆ ล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่เชิงบวกดังกล่าวเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ ดังตารางที่ 1
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะเหมารวมว่าทุกรัฐที่มีปัญหาการปฏิบัติหน้าที่เชิงบวกในด้านต่างๆ ล้วนเป็นรัฐล้มเหลว เราควรจำแนกลำดับขั้นความร้ายแรงออกจากกันระหว่าง :
รัฐเปราะบาง/รัฐกำลังล้มเหลว/รัฐล้มเหลว (a fragile state/a failing state/a failed state) โดยรัฐแต่ละลำดับขั้นมีบุคลิกลักษณะสังเขปดังนี้คือ :
1. รัฐเปราะบาง
นิยาม : รัฐที่ล่อแหลมต่อความขัดแย้งหรือการล่มสลาย มักต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อบรรลุหน้าที่บริหารปกครองขั้นพื้นฐาน
บุคลิกลักษณะ :
– สถาบันต่างๆ อ่อนแอ
– จัดหาบริการสาธารณะให้แบบห่วยๆ (การแพทย์และสาธารณสุข, การศึกษา, ความมั่นคง)
– ทุจริตคอร์รัปชั่นสูง
– มีความตีงเครียดระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนาหรือการเมืองต่างๆ
สถานะ : ขั้นตอนเริ่มแรก จัดว่าประสบปัญหาร้ายแรงแต่รัฐยังพอทำหน้าที่ได้
2. รัฐกำลังล้มเหลว
นิยาม : รัฐที่ความสามารถด้านต่างๆ กำลังเสื่อมโทรมลงโดยเฉพาะในการจัดหาบริการให้ประชาชน บังคับใช้หลักนิติธรรม หรือธำรงรักษาอธิปไตย
บุคลิกลักษณะ :
– บ้านเมืองไร้ขื่อแปยิ่งขึ้นทุกที ความโกลาหลวุ่นวายในหมู่พลเมืองเพิ่มสูงขึ้น
– ควบคุมบางภาคส่วนของประเทศได้ลดน้อยถอยลง
– ความรุนแรงหรือการก่อการกำเริบเพิ่มพูนขึ้น
– ความชอบธรรมของรัฐบาลอ่อนแอหรือถูกท้าประชัน
สถานะ : ช่วงเปลี่ยนผ่านจากสภาพเปราะบางไปสู่การล่มสลายหากมิถูกระงับยับยั้งไว้
3. รัฐล้มเหลว
นิยาม : รัฐที่สูญเสียความสามารถปกครองอาณาดินแดนและประชากรไปแล้วในทางเป็นจริง
บุคลิกลักษณะ :
– ไม่มีอำนาจผูกขาดการใช้กำลังอาวุธโดยชอบธรรม
– รัฐบาลกลางไม่ดำรงอยู่แล้วหรืออยู่ไปก็ไร้ความหมายในอาณาดินแดนส่วนมากของประเทศ
– ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองพังทลายลง
– เกิดวิกฤตมนุษยธรรมและผู้คนพลัดถิ่นในประเทศอย่างกว้างขวาง
สถานะ : ล่มสลายแล้วหรือเกือบล่มสลาย จำต้องให้ต่างชาติเข้าแทรกแซงหรือปฏิสังขรณ์รัฐขึ้นมาใหม่หมด
โดยสรุปสังเขปได้ตามตารางที่ 2
ตามความหมายนี้ ไทยน่าจะจัดเป็นรัฐเปราะบาง (a fragile state) ที่มีปัญหาระบบการเมืองไม่ทำงาน รัฐราชการอุปถัมภ์ทุจริตไม่พร้อมรับผิด
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า)

