เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

กลัวอะไรกับกาสิโน? | คำ ผกา

27.01.2025

คำ ผกา | กลัวอะไรกับกาสิโน?

หลังจากที่ปีแรกของรัฐบาลนี้ทุ่มเทไปกับการทำงานที่เป็นควิกวิน เร่งเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ปรับปรุงการให้บริการสนามบิน โหมโฆษณาให้โลกรู้ว่าประเทศไทยกลับมาคึกคัก สนุกสนานกับเทศกาลงานบุญประเพณี จัดอีเวนต์บ่อยและเยอะ

เราเห็นคอนเทนต์เที่ยวเมืองไทยจากยูทูบเบอร์ต่างชาติถี่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ฉันไม่รู้ว่าเป็นงานจ้างหรืองานออร์แกไนซ์ แต่ที่แน่ๆ คือมันเพิ่มการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวว่า ประเทศไทยกลับมาอยู่ในโหมดที่ “สนุก” แล้ว หลังจากที่ภาพของเมืองไทยเป็นภาพของ “วิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง” มายาวนาน

ความสำเร็จของการท่องเที่ยวที่เราเห็นคือตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงมาก สูงเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด

แต่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นคือการใช้จ่ายต่อหัวยังไม่เข้าเป้า

สาเหตุเพราะในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมาประเทศไทยแทบจะไม่ได้วางโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ไม่ได้สร้างจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ หรือไม่มีที่ใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ควักเงินออกมาจับจ่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

และคงจะต้องพูดกันเป็นครั้งที่ล้านว่า โครงการไทยแลนด์ 2020 ที่ถูกระงับไปโดยศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นอีกโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งที่เราเสียโอกาสของประเทศไปอย่างไม่อาจกอบกู้วันเวลาที่สูญหายไปอย่างชนิดเอากลับคืนมาไม่ได้

นอกจากนี้ ปีที่แล้วทั้งปี เป็นปีที่อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ให้เวลาไปกับการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อบอกกับโลกว่าประเทศกลับมาแล้ว ทุกคนกลับมาลงทุนในประเทศไทยได้แล้ว เราพร้อมแล้ว

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเกือบจะตกขบวนในหลายเรื่องที่เป็นเทรนด์ของโลกในอุตสาหกรรมที่เรียกกันว่าเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

และในเดือนมกราคมนี้เองที่บีโอไอเปิดเผยยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนของปี 2566 ว่ามูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 43% สูงสุดในรอบ 5 ปี

 

เมื่อเข้าสู่ปีที่สองของรัฐบาลภายใต้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร

รัฐบาลก็ประกาศวาระการทำงานใหญ่ๆ ของปีนี้ที่น่าตื่นเต้น เช่น รถไฟฟ้ายี่สิบบาททุกสาย โครงการบ้านเพื่อคนไทยที่จะเป็น public housing ในแบบเดียวกับฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และหลายๆ ประเทศในยุโรป

ล่าสุดคือ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. ที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง ผ่าน ครม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอเข้าสภา

แค่ผ่าน ครม.เท่านั้น ยังไม่ได้เข้าสภา ฝ่ายค้านก็ออกมาโจมตีโครงการนี้ด้วยอ้างว่าเป้าหมายหลักของรัฐบาลคือกาสิโน ไม่ใช่เอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์อย่างที่อ้าง

โจมตีว่าจะเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจสีเทาหรือไม่?

จะเต็มไปด้วยการเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง เอื้อนายทุนใหญ่หรือไม่?

นักวิชาการหลายท่านกังวลว่านี่จะเป็นการย้ายบ่อนจากชายแดนมาไว้กลางกรุงหรือไม่?

ก่อนอื่นฉันต้องย้ำว่า เรื่องเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์เราสามารถท้วงติง ช่วยกันอุดช่องโหว่และควรอย่างยิ่งที่จะมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเพื่อให้ร่างกฎหมายนี้ออกมาดีที่สุด และรัฐบาลก็พึงทำเรื่องนี้อย่างรอบคอบที่สุดด้วย

ทว่า ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเราต้องมาทำความเข้าใจหลักคิดที่เกี่ยวกับโครงการนี้ให้ตรงกันและตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือน

และไม่พูดความจริงครึ่งๆ กลางๆ ก่อน

หนึ่ง เราต้องยอมรับให้ตรงกันว่าโครงการเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์เป็นโครงการที่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวหน้าเองก็มีนโยบายนี้ เขียนไว้ว่า “กาสิโนถูกกฎหมาย” เป็นหนึ่งในสามร้อยนโยบายของพรรค

ไม่แต่เพียงพรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทยก็พูดตอนหาเสียงว่าเห็นด้วยกับกาสิโนถูกกฎหมาย

ไม่ต้องพูดถึงนักการเมืองอย่างคุณชัช เตาปูน ที่ผลักดันเรื่องนี้มายาวนาน

ดังนั้น ประเด็นกาสิโนถูกกฎหมาย เป็นประเด็น “แหลมคม” ในสังคมไทยมายาวนาน นั่นคือเราใช้เวลาคุยกันเรื่องนี้มาตลอดประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่

ไม่ต่างจากเรื่องการทำแท้ง เรื่องการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน

เรื่องการถอดถอนให้การค้าบริการทางเพศออกจากการเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

หรือการให้สัญชาติแก่คนไร้สัญชาติที่เกิดและอยู่อาศัยในประเทศไทยมายาวนาน

จนสังคมมีความเข้าใจต่อประเด็นเหล่านี้ พรรคการเมืองหลายๆ พรรคมีฉันทามติร่วมกัน

ในเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งที่ผ่าน ครม.ออกมาได้ และต้องไม่ลืมว่าเป็น ครม.ของรัฐบาลผสม จะอ้างว่าเป็น ครม. “เผด็จการรัฐสภา” ยังอ้างไม่ได้เลย

เพราะฉะนั้น พรรคประชาชนพึงยอมรับตรงนี้ก่อนว่า พรรคของตัวเองมีนโยบายกาสิโนถูกกฎหมายปรากฏในเว็บไซต์ของพรรคด้วย

ดังนั้น การออกมากรีดร้องรับไม่ได้เรื่องกาสิโนจึงฟังไม่ขึ้น

ส่วนความพยายามที่จะแก้ตัวว่า ไม่ได้ต่อต้านกาสิโน แต่กังวลเรื่องทุนจีนเทา กังวลเรื่องความไม่โปร่งใส อยากให้ทำประชาพิจารณ์ ก็คงต้องบอกว่า เรื่องความโปร่งใสเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องไปตรวจสอบ

ดังนั้น จงเดินหน้าตรวจสอบไปให้เต็มที่ ส่วนการทำประชาพิจารณ์ ก็เป็นข้อเสนอที่รัฐบาลไม่จำเป็นต้องทำตาม เพราะหลักการประชาธิปไตยแบบตัวแทน หากต้องทำประชาพิจารณ์กันในทุกเรื่องที่เป็นเรื่อง “แหลมคม” ก็คงไม่ต้องมีระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน ต้องหันไปใช้ประชาธิปไตยทางตรง

เพราะฉะนั้น เราต้องอย่าลืมว่า ประชาธิปไตยระบบตัวแทนคือ เรามอบอำนาจให้ “ผู้แทนฯ” ของเราไปทำงานแล้ว การโหวตร่างกฎหมายนี้ในสภา จึงสะท้อนเสียงประชาชนโดยปริยายตามหลักการ

หากพรรคประชาชนไม่ยอมรับร่าง พ.ร.บ.นี้ ก็แค่โหวตไม่เห็นชอบไปในสภา หากจะเถียงว่า โหวตไปก็แพ้ เพราะมีเสียงน้อยกว่า คำตอบคือ

“ก็ใช่ไงคะ ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าพวกคุณไม่ได้เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ในประเทศค่ะ”

 

สอง ในความเข้าใจของฉัน สถานบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย แทบจะเป็นคนละเรื่องกันด้วยซ้ำ

สถานบันเทิงครบวงจรเป็นเรื่องการของการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

มันยาวนานมากเหลือเกินแล้วที่ประเทศไทยมองว่าการท่องเที่ยวเท่ากับการแรงดึงดูดจากธรรมชาติอันสวยงาม ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี โบราณสถาน อาหารไทยที่แสนอร่อย ตลาดน้ำ วิถีไทย

ซึ่งมันก็จริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่เราต้องเลิกหลอกตัวเองว่า

เราไม่ได้เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีธรรมชาติสวยงาม เราไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่มีศิลปะ ประเพณี โบราณสถาน ฯลฯ

และเราต้องยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เราขาดคือการท่องเที่ยวที่เป็น manmade หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น

ประเทศไทยไม่เคยจัดงาน world expo เพราะอะไร?

เพราะเรามัวแต่ไปนิยามความเป็นไทยไว้กับ “ความงดงามของธรรมชาติและประเพณีอันดีงามเก่าแก่”

เราไม่เคยนิยามให้ความเป็นไทยเท่ากับความทันสมัย เทคโนโลยี สถาปัตยกรรมล้ำๆ (พอจะมี ก็จะมีคนไทยจำนวนมากบอกว่าน่าเกลียด อัปลักษณ์) แม้แต่สะพานแขวนในกรุงเทพฯ เราก็ไม่ค่อยรับรู้มันในฐานะ “ความล้ำเลิศ” ทางสถาปปัตยกรรมและวิศวกรรม แต่กลับถูกเอาไปโยงไว้กับ “ความเป็นไทย” ผ่านพิธีกรรมบางอย่าง

เพราะฉะนั้น โดยการหล่อหลอมหรือ socialization คนไทยโดยเฉลี่ยมีแนวโน้ม “ต่อต้านความเจริญและการพัฒนา” เพราะศิลปะ วรรณกรรม ละคร และทุกวาทกรรมกระแสหลักของไทยให้ภาพการพัฒนาคือปีศาจที่คุกคามประเพณี คุกคามวิถีไทยอันงดงามแสนสงบ

ถนน รถยนต์ ตึกระฟ้า ความเป็นเมือง ถูกเล่าในฐานะผู้ร้ายในวรรณกรรมไทยเสมอมา

 

ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการอธิบายว่า สถานบันเทิงครบวงจรคืออะไร?

เพราะแค่คำว่า “บันเทิง” ก็ส่อนัยเชิงลบอยู่แล้วในมโนทัศน์ของคนไทย พูดว่าสถานบันเทิงก็คิดเรื่องผับ บาร์ ในขณะนี้สถานบันเทิงครบวงจรบางทีเรียกว่า intregrated resort หรือสถานที่พักผ่อนแบบบูรณาการ เช่น โครงการของโอซาก้าที่กำลังก่อสร้าง และจะเป็นกาสิโนถูกกฎหมายแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

สถานพักผ่อนหย่อนใจแบบบูรณาการของโอซาก้า หรือเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์นี้คือโครงการใช้พื้นที่ต่อจากการเป็นเจ้าภาพ world expo ด้วย

เพราะฉะนั้น จะมีทั้งท่าเรือหรูหราใหญ่โต มีห้างสรรพสินค้า มีโรงแรมสุดหรู มีสวนสนุก สวนน้ำ มีมิวเซียม มีสถานที่แสดงนิทรรศการงานศิลปะ มีทุกสิ่งทุกอย่าง และแน่นอนว่ามีกาสิโนด้วย

เอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ของไทยก็เป็นเช่นนั้น ต้องการสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างวัฒนธรรมและการรับรู้ใหม่ของสังคมไทยว่าการท่องเที่ยวไม่ได้มีแต่ต๊ะต่อนยอน นุ่งซิ่น ชิมอาหารพื้นเมือง

แต่เราต้องดึงทุกศักยภาพในประเทศออกมาแข่งขันและก้าวไปเป็นหนึ่งในแถวหน้าของโลกให้ได้

 

เราเป็นประเทศกำลังพัฒนา ไม่จำเป็นต้องดักดานเป็นประเทศกำลังพัฒนาไปตลอดชาติ

เอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์คือ man made tourist destination

เมื่อเราอ่านเจอคำว่า โรงแรม เรือยอชต์ ร้านอาหาร สนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์ มิวเซียม สวนน้ำ อควาเรียม สิ่งแรกที่เราต้องนึกถึงคือ นวัตกรรมการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม ดีไซน์ องค์ความรู้ทางสถาปัตย์ ศิลปะใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับโครงการเหล่านี้

และเราต้องตระหนักว่า นานแค่ไหนแล้วที่ประเทศไทยเราไม่มีอะไรใหม่ๆ ในสเกลนี้เกิดขึ้นเลย เราอยู่กันอย่างเก่าๆ มานานมาก นานจนเราลืมไปว่าเราเป็นม้า เราไม่ใช่ลาป่วย แต่เราคือม้าที่เขาฝังหัวเรามาว่าเราเป็นได้แค่ลา

เพราะฉะนั้น หากมันเกิดเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์จริงๆ ฉันคิดว่า มันจะทำให้ประเทศไทยขึ้นไปมีหน้ามีตาในแผนที่โลกอีกครั้ง

คนในประเทศไทยจะได้ประโยชน์กันในหลายรูปแบบ ตั้งแต่นักเรียนสถาปัตย์ก็ต้องสนุก

คนเรียนดีไซน์ก็ต้องสนุก

ดีไซเนอร์ไทยก็ต้องสนุกเพราะจะได้เข้าไปทำงานหรือมีส่วนร่วมในนี้แน่ๆ

คนทำงานด้านเมืองก็สนุก คนทำเรื่องพลังงานก็น่าจะสนุก สนุกไปจนถึงเศรษฐกิจรากหญ้า คนงานก่อสร้าง งานสวน

อย่าลืมว่าโครงการในเสกลนี้มันมี “นวัตกรรม” ที่ฉันเรียกว่าองค์ความรู้ใหม่ รสนิยมอย่างใหม่เกิดขึ้นแน่นอน

การเรียนรู้ของคนในสังคมคือการออกจากกะลาแคบๆ ไปเห็นในสิ่งใหม่ๆ มาตรฐานใหม่ๆ วิธีคิดใหม่ของคนจากภายนอก

และในความคิดของฉัน สังคมไทยดักดานอยู่ในกะลาแบบแม่พลอยและความสุขของกะทิกันมายาวนานแล้ว

เราควรจะอาบน้ำแต่งตัว แต่งหน้าสวยๆ เดินสับๆ เป็นลิซ่าบนเวทีวิกตอเรียซิเคร็ตกันได้แล้ว

เลิกกลัว “ความเจริญ” เสียที

 

ทําไมต้องมีกาสิโน? เอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ที่ไม่มีกาสิโนก็เหมือนผู้หญิงใส่ชุดราตรีแล้วไม่ใส่รองเท้าส้นสูง และไม่แต่งหน้าทำผม

สำหรับฉัน กาสิโนคือคอมพลีตลุคของเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ มันสะท้อนความหรูหรา สะท้อนการเข้าถึงประสบการณ์พิเศษที่เราไม่ได้ทำให้ชีวิตประจำวัน

สอดคล้องไปกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ในเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์นั้น พูดง่ายๆ เอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์คือการขายประสบการณ์และแฟนตาซีที่หาไม่ได้ในชีวิตประจำวัน

ดังนั้น ที่เราต้องโฟกัสและจับตาดูโครงการนี้ไม่ใช่การพูดโง่ๆ ว่า “ถ้ามีกาสิโนแล้วดี ปอยเปตพัฒนาไปนานแล้ว”

ทว่า ต้องถามตนเองว่าเห็นด้วยในหลักการของมันหรือไม่ ว่านี่คือพื้นที่ทางศิลปะ นวัตกรรม การพักผ่อนหย่อนใจ แบบไฮเอนด์ที่สุด

ถ้าไม่เห็นด้วย อยากอยู่แบบต่อนยอนฟ้อนเล็บก็ไม่ว่ากัน

แต่ถ้าอ่านแล้วพอเห็นภาพ หรือเห็นด้วยในหลักการ สิ่งที่ฝ่ายค้านกับประชาชนอย่างเราต้องตรวจสอบ กำกับคือ บริษัทไหนได้เข้ามาทำ กลุ่มทุนนั้นเก่งจริงหรือไม่ มีผลงานดีหรือไม่

สถานที่ตั้งเหมาะสมหรือไม่ ออกแบบสวยจริงหรือไม่ ไฮเอนด์หรือเปล่า

เช่น ในความกังวลของฉันคือกลัวหรูไม่จริง กลัวสวยไม่จริง เป็นต้น

การรับงานประมูลงานโปร่งใสไหม ใส่ใจสิ่งแวดล้อมไหม? มาร่วมกันกดดันรัฐบาลเรื่องนี้ดีไหม?

สร้างแล้วชุมชนโดยรอบได้ประโยชน์อะไร บังคับให้กลุ่มทุนเหล่านั้นทำ CSR เรื่องอะไรบ้าง? ทำแล้วเกิดแลนด์สเคปปังๆ ในประเทศให้เราชื่นใจได้จริงหรือเปล่า?

มีโซนสำหรับเด็กๆ ไปมิวเซียม ไปอควาเรียม ไปดูคอนเสิร์ตแบบฟรีไหม?

เอากำไรจากกาสิโนมาอุดหนุน มาช่วยกันผลักดันเรื่องแบบนี้ดีกว่ามาควักมาค้อนเฟียซไปเฟียซมาว่า “ไม่ดีๆ โกงๆๆ” หรือ “เพื่อไทยทำใครจะไว้ใจ”

เพราะการตั้งคำถามแบบนี้มันจะไม่นำไปสู่อะไรเลยนอกจากคนที่ค้านจะโง่ลงตามลำดับ และไม่มีใครได้ประโยน์อะไรนอกจากเกลียดกัน

 

ส่วนการแก้ปัญหาบ่อนเถื่อนไม่เกี่ยวกับกาสิโนในเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะเป็นธุรกิจคนละอย่าง คนละตลาด จะเอาบ่อนใต้ดินมาอยู่บนดิน ต้องแยกไปคุยอีกหัวข้อหนึ่ง

ส่วนข้อกังวลเรื่องค้ามนุษย์ บ่อนชายแดน ยิ่งเป็นอีกปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะอย่างที่บอกว่า มันคนละธุรกิจกันโดยสิ้นเชิง เพราะเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์เกี่ยวข้องกับ ศิลปะ ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ดนตรี กีฬา การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ ดังที่ได้สาธยายไปแล้ว

ใดๆ ในโลกใบนี้ล้วนแต่มีข้อบกพร่องหรือมีข้อกังวลทั้งสิ้น เช่น ถ้าคิดว่ารถยนต์อันตรายมาก สิ่งที่เราต้องทำคือเรียนรู้การขับรถอย่างปลอดภัย ไม่ใช่บอกว่า คนไทยอย่าใช้รถยนต์นะ ประเทศเรายังไม่พร้อม กฎหมายเรายังไม่ดี หรือถนนลูกรังยังไม่หมดเลย จะทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงได้ไง

ลองทบทวนตรรกะของตัวเองดีๆ ก่อนจะกรีดร้อง

โวยวายกับทุกโครงการและนโยบายของรัฐบาลนี้เพียงเพราะพรรคที่ฉันเชียร์ไม่ได้เป็นรัฐบาล

https://twitter.com/matichonweekly/status/1552197630306177024



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

“รมว.นฤมล” ดึงภาครัฐ-เอกชน ลงนาม MOU ส่งเสริมการปลูกกาแฟ หนุนเพิ่มผลผลิต ตอบโจทย์ความต้องการในประเทศ ลดการนำเข้า ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทย
ย้อนรอยประวัติศาสตร์อาวุธชีวภาพสุดสยอง (2)
สรุป บทแก้ต่าง ของ ธงชัย วินิจจะกูล ต่อ ก.ศ.ร.กุหลาบ
130 ปี ปฐมบทการปกครองท้องถิ่นไทย (พ.ศ.2440) จุดเริ่มต้นที่กลายเป็นปัญหาในระยะยาว
วัย 50+ ระวัง ‘งูสวัด’ อสรพิษร้าย (ป้องกันได้ด้วย ‘วัคซีน’)
มนุษย์สัมพันธ์กับท้องฟ้า
รูปร่าง Dad bod เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
33 ปี ชีวิตสีกากี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ (128)
ปฐมคัมภีร์การแพทย์แดนมังกร (2)
เมษา พฤษภา 2553 มรภูมิ ‘ร้อน’ ลาดหลุมแก้ว คืนสุกดิบ ก่อนปะทะ ‘ใหญ่’
ปรีดี แปลก อดุล : คุณธรรมน้ำมิตร (70)
เดินหน้าสู่ปีที่ 4 (17) The Pyrrhic Victory ของรัสเซีย