เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

อิมพอสซิเบิล ลือ!? กระแส หักดิบ ‘บิ๊กปู’ ไม่มี ผบ.ทบ.ส้มหล่น เช็กสเตตัส ทหารคอเขียวพันธุ์แท้ ทหารคอ (เคย) แดง

13.05.2025

รายงานพิเศษ

 

อิมพอสซิเบิล ลือ!?

กระแส หักดิบ ‘บิ๊กปู’

ไม่มี ผบ.ทบ.ส้มหล่น

เช็กสเตตัส ทหารคอเขียวพันธุ์แท้

ทหารคอ (เคย) แดง

 

แม้มีเวลาอีกหลายเดือน กว่าจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลครั้งต่อไป แต่เพราะเป็นการโยกย้ายใหญ่ ที่จะมีการเปลี่ยนผู้บัญชาการเหล่าทัพถึง 4 คน เพราะทั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ เกษียณราชการ 30 กันยายน 2568

แต่ก็เกิดกระแสข่าวลือขึ้นมากมาย ให้นายทหารในกองทัพต้องขบคิดว่า จะเป็นไปได้หรือไม่

แต่ที่เป็นไปไม่ได้เลย คือกระแสข่าวลือในเวลานี้ ที่ว่า บิ๊กปู พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ อาจจะขยับจาก ผบ.ทบ. ไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล กันยายน 2568 นี้

แม้ พล.อ.พนา จะเป็น ผบ.เหล่าทัพคนเดียวที่เหลืออยู่ และเป็น ผบ.เหล่าทัพที่อาวุโสที่สุด ซึ่งสามารถจะขยับข้ามไปขึ้น ผบ.ทหารสูงสุดได้ และแม้ว่าจะมีการปลดล็อก ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.ทบ. ไม่ต้องเป็นทหารคอแดงแล้วก็ตาม

แต่กองทัพไทยก็ยังไม่เคยมีประเพณีที่จะให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพที่อาวุโสที่สุด ต้องขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด แบบกองทัพสากล และยากที่จะเริ่มต้นใช้

ที่สำคัญ ตัว พล.อ.พนาเอง ย่อมไม่เต็มใจ เพราะต้องการที่จะเป็น ผบ.ทบ. จนเกษียณตุลาคม 2570 มากกว่า จะได้บันทึกเกียรติประวัติได้เป็นทั้ง ผบ.ทบ. และ ผบ.ทหารสูงสุด ในชีวิตรับราชการ แต่เก้าอี้ ผบ.ทบ.มีอำนาจมากกว่า

อีกทั้งจะส่งผลต่อการลื่นไหลของรุ่นในกองทัพ เพราะประการแรก พล.อ.พนาเป็นเตรียมทหาร รุ่น 26 ที่เป็นน้องเล็กสุดในแผง ผบ.เหล่าทัพชุดนี้ แล้วรุ่นพี่ ตท.24 และ ตท.25 จะไปอยู่กันตรงไหน ทั้ง บิ๊กหยอย พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด รุ่นพี่ ตท.24 ที่ถูกวางตัวเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคนใหม่ แทน บิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี เพื่อนตท.24 ที่จะเกษียณ ไหนจะ ตท.24 ในระดับที่จะขึ้นมาเป็น รอง ผบ.ทหารสูงสุดอีก

แม้ว่า ตท.24, ตท.25 และ ตท.26 จะเป็นรุ่นติดกัน มีอายุใกล้เคียงกัน และที่ผ่านมามี ผบ.เหล่าทัพรุ่นน้อง ที่ปกครองรุ่นพี่ ใน 5 เสือมาแล้วหลายยุคก็ตาม

จนเกิดกระแสข่าวลือว่า อาจจะส่ง พล.อ.อุกฤษฏ์ ข้ามจาก รอง ผบ.ทหารสูงสุด กลับมา ทบ. เพื่อมาเป็น ผบ.ทบ. เพราะ ผบ.ทบ.ในยุคปัจจุบันไม่ต้องเป็นทหารคอแดงแล้ว และมีอายุราชการตุลาคม 2570 เท่า พล.อ.พนา

แต่หากเทียบพลังของ พล.อ.อุกฤษฏ์ กับ พล.อ.พนา อดีต ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และอดีตทหารคอเขียวแล้ว พลังของ พล.อ.อุกฤษฏ์ และ ตท.24 ก็ยากที่จะทำได้สำเร็จ และเชื่อได้ว่าแกนนำ ตท.24 ย่อมรู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง พลังของแต่ละคนเป็นอย่างดี

และกำลังเป็นที่เข้าใจกันว่า แม้ ผบ.ทบ. ตั้งแต่หลังปรับโครงสร้างหน่วยใน ฉก.ทม.รอ.904 เมื่อ1 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมานั้น ไม่ต้องเป็นทหารคอแดง และ พล.อ.พนา ก็เปลี่ยนจากทหารคอแดงมาเป็นทหารคอเขียวแล้ว

แต่เป็นที่เข้าใจกันภายในว่า แม้ ผบ.ทบ.จะไม่ต้องเป็นทหารคอแดง แต่สเป๊กหนึ่งคือ ต้องเคยเป็นทหารคอแดงมา หรือเคยเป็นแม่ทัพภาค 1 มา หรือเติบโตในกองทัพภาค 1 มา

เพราะ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 แม่ทัพภาค 1 ทำหน้าที่ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 แทน ผบ.ทบ. และเป็นกองทัพภาคเดียวในกองทัพบกที่ยังเป็นทหารคอแดง

จริงอยู่ที่ว่าปัจจุบัน ผบ.ทบ.ไม่ต้องเป็นทหารคอแดงแล้ว แต่มีข้อเท็จจริงว่า ต้องมาจาก “ทหารคอ (เคย) แดง” ด้วยนั่นเอง

ประการที่สอง ยังไม่ได้มีการวางตัว ผบ.ทบ.คนใหม่ไว้ เพราะกระแสข่าวอาจเกิดจากแค่การพูดคุยกันในวงข้าว วงงานเลี้ยงรุ่นต่างๆ

ที่อาจแซว หรือตั้งกันขำๆ ได้ แต่ทำได้ยากยิ่งในทางปฏิบัติ

เพราะหากดูใน 5 เสือ ทบ. ก็คงมีเพียง บิ๊กรุ่ง พล.อ.ชิษณุพงษ์ รอดศิริ ผช.ผบ.ทบ. อดีตแม่ทัพภาค 1 อดีตทหารคอแดง เพื่อนรัก ตท.26 ของ พล.อ.พนา ที่จะส้มหล่น ถึงขั้นได้เป็น ผบ.ทบ.

พล.อ.พนา สนิทสนมกับ พล.อ.ชิษณุพงษ์ อย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่ย้ายมาเป็นรองแม่ทัพภาค 1 ที่สมัยนั้นยังเป็นทหารคอแดงอยู่ ก็มี พล.อ.ชิษณุพงษ์ เป็นคนคอยแนะนำงานต่างๆ ของ ฉก.ทม.รอ.904 และการประพฤติปฏิบัติของทหารคอแดง

พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ, พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ และ นายภูมิธรรม

พล.อ.พนาได้ฟาสต์แทร็ก จากรองแม่ทัพภาค 1 หลังไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดงจบ ก็ขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 1 เลย ส่วน พล.อ.ชิษณุพงษ์ค่อยๆ ก้าวตามขึ้นมา จนเป็นแม่ทัพภาค 1 ต่อกัน แต่ พล.อ.ชิษณุพงษ์เกษียณ 2569 ก่อน พล.อ.พนา จึงไม่เคยคาด หรือหวังที่จะเป็น ผบ.ทบ. แม้ว่าจะถือว่าเป็นทหารคอเคยแดงก็ตาม

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับ ตท.26 ยังมีความหวังที่ บิ๊กเต้ พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) ที่มีอายุราชการถึงตุลาคม 2571 หาก พล.อ.พนานั่งเป็น ผบ.ทบ. จนเกษียณตุลาคม 2570 พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ เป็นทหารหมวกแดงรบพิเศษ แต่ทว่าก็ไม่เคยเป็นทหารคอแดงมาก่อน

ส่วนในระดับ 5 เสือ ทบ. ยังคงมี บิ๊กชาย พล.อ.วสุ เจียมสุข ผช.ผบ.ทบ. แกนนำ ตท.25 ทหารคอเขียวร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เกษียณตุลาคม 2569 แต่ก็เป็นที่จับตามองกันว่าอาจจะข้ามไปชิงเก้าอี้ปลัดกระทรวงกลาโหม กับบิ๊กหนุ่ย พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกลาโหม รุ่นพี่ ตท.24 ในโยกย้ายตุลาคม 2568 นี้

เพราะในยุคนี้ มีพลังของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำรุ่น ตท.25 คอยสนับสนุน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะถึงอย่างไร บิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม ที่กำลังจะเกษียณตุลาคมนี้ ย่อมต้องสนับสนุน พล.อ.ธราพงษ์ เพื่อน ตท.24 เป็นปลัดกลาโหมคนใหม่

และยังมีเสียงของ พล.อ.ทรงวิทย์ และบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.24 รวมเป็น 3 เสียง จากจำนวน 7 เสียง ในบอร์ด 7 เสือกลาโหมสนับสนุน

พล.อ.วสุ เจียมสุข

ดังนั้น กระแสข่าวการส่ง พล.อ.พนา ให้ข้ามฟากไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ในตุลาคมนี้ จึงเป็นไปได้ยากมาก

กระแสข่าวลือที่ออกมา อาจจะเป็นแค่การคุยกันในวงข้าว วงงานเลี้ยงรุ่นต่างๆ เท่านั้น เป็นการพูดคุยกันในหมู่เพื่อน ที่คุยกันแบบขำๆ แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม

หรือไม่ก็เป็นแค่แนวคิด การหักดิบ แผนการวางตัว ผบ.ทบ.คนต่อๆ ไปหรือไม่ เพราะ หาก พล.อ.พนานั่งเป็น ผบ.ทบ. ยาวจนเกษียณตุลาคม 2570 โอกาสที่แคนดิเดตจาก ตท.27 และ ตท.28 จะได้ขึ้นมาต่อ ย่อมมีโอกาสน้อย เพราะจะเหลืออายุราชการกันแค่ 1-2 ปีเท่านั้น

ดังนั้น ไม่ใช่แค่การโยกย้ายตุลาคม 2568 นี้เท่านั้น แม้แต่การโยกย้ายตุลาคม 2569 ที่จะย้าย พล.อ.พนา ให้ข้ามไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะมีการวางตัวลงล็อกไปแล้ว ตั้งแต่โยกย้ายตุลาคม 2567 ทั้งการให้ พล.อ.ธราพงษ์ ที่เกษียณตุลาคม 2569 ข้ามจาก ผช.ผบ.ทบ. ไปเป็นรองปลัดกลาโหม เพื่อเตรียมขึ้นเป็นปลัดกลาโหม ส่วน พล.อ.อุกฤษฏ์ เกษียณ 2570 ก็ข้ามจาก ผช.ผบ.ทบ. มาเป็น รอง ผบ.ทหารสูงสุด เพื่อเตรียมขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด

ส่วน พล.อ.พนา ก็เป็น ผบ.ทบ. และมีอายุราชการยาวจนเกษียณ 2570 เลยทีเดียว จึงยากที่จะมีการสลับสับร่างอะไรกันใหม่

พล.อ.พนา ได้เป็น ผบ.ทบ. คือ ความลงล็อก ลงตัวของการบริหารจัดการอำนาจ และดีลของคีย์แมน ในขั้วอนุรักษนิยมมาเรียบร้อยแล้ว

พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์

แต่ที่ยังไม่ลงตัวคือ นายทหาร ที่จะขึ้นมาเป็น 5 เสือ ทบ. และแม่ทัพภาค 1 ในโยกย้ายกันยายน 2568 นี้ต่างหาก เพราะจะเข้าคิวรอชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. ตอนปี 2570

หากย้อนกลับไป ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าขั้วอนุรักษนิยมที่ดีลจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ได้วางตัว พล.อ.พนาไว้ให้เป็น ผบ.ทบ. ขนาบข้างรัฐบาลไปจนครบเทอม ปี 2570 เลยทีเดียว

อีกทั้ง พล.อ.พนามีความเป็นทหารอาชีพสูงมาก โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.ยังไม่เคยให้สัมภาษณ์สื่อในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองเลย ค่อนข้างระมัดระวังตัว ถึงขั้นหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์เลยทีเดียว ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกับฝ่ายการเมือง

และวางระยะห่างกับฝ่ายการเมืองได้เป็นอย่างดี สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงกลาโหม และเป็นกลไกของรัฐบาลได้อย่างสมดุล

จนบางครั้งถูกจับตามองว่ามีความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองมากขึ้น ทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากการปฏิบัติหน้าที่ การไปร่วมประชุม หรือลงพื้นที่ด้วยกัน

ยิ่งในยามที่มีปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนรอบบ้าน ทั้งเมียนมา กัมพูชา และชายแดนภาคใต้ นายภูมิธรรมก็ยิ่งต้องพูดคุยประสานสั่งการ ผบ.เหล่าทัพ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ.มากขึ้น

โดยนายภูมิธรรมใช้คำว่า ได้มีการประสานงานพูดคุย ผบ.ทบ.อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด

พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์

แม้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะถูกมองว่ามีสายสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลกัมพูชา เพราะความสัมพันธ์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กับอดีตนายกฯ กัมพูชา สมเด็จฮุนเซน แต่นายภูมิธรรมเองก็ต้องระมัดระวังในการกำหนดท่าทีในการแก้ปัญหา ที่ต้องฟังกองทัพ ฟัง ผบ.เหล่าทัพเป็นหลัก เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็นเรื่องดินแดน

นายภูมิธรรมจึงไม่อาจจะสั่งการให้กองทัพบกถอนทหารออกจากปราสาทตาเมือนธม ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาได้ แม้ฝ่ายกัมพูชาจะอ้างสิทธิ์ว่าเป็นปราสาทของตนเองก็ตาม เพราะทหารไทยก็ดูแลรักษาพื้นที่แห่งนี้มายาว และถือเป็นดินแดนของประเทศไทย

เพราะหากนายภูมิธรรมสั่งถอนทหารออกจากปราสาทตาเมือนธม ก็จะถูกทัวร์ลงและถูกต่อต้านอย่างหนัก และฝ่ายทหารก็จะไม่ยอมปฏิบัติตามแน่นอน เพราะเท่ากับเป็นการเสียดินแดน

ดังนั้น นายภูมิธรรมจึงได้ตกลงกับ รมว.กลาโหมกัมพูชา รวมทั้ง ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.ทบ. 2 ชาติ ที่จะให้ 2 ฝ่ายถอนกำลังทหารในส่วนที่เพิ่มเติมกำลังมา ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่มีปัญหากระทบกระทั่งกันของทหารไทยและกัมพูชาบนปราสาทตาเมือนธม และเหตุการณ์เผาศาลารวมใจที่สามเหลี่ยมมรกต โดยตกลงให้ยึดตามข้อตกลง MoU 2543 โดยให้ผู้บังคับหน่วยของทหารในพื้นที่ไปตกลงกันว่าจะถอนทหารและจัดวางกำลังกันแบบใด ในจุดใดบ้าง

แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ทหารกัมพูชายอมถอยออกไป ณ จุดเดิม เพราะฝ่ายทหารไทยเองก็เกรงว่าหากทหารไทยถอยออกไปแล้วทหารกัมพูชาไม่ยอมถอยและนำกำลังรุกเข้ามายึดพื้นที่ ทั้งหมดเลย ทหารไทยก็จะเสียเปรียบ และเรียกได้ว่าเสียท่าทหารเขมรได้ บทบาทของนายภูมิธรรมจึงต้องฟังกองทัพเป็นหลัก

ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลทั้งกับนายกรัฐมนตรีและนายภูมิธรรม จึงยังคงเป็นไปได้ด้วยดี ยังไม่มีปฏิบัติการ io ในการต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านนายภูมิธรรม โดยฝ่ายทหาร เพื่อที่จะมี แบ็กอัพ และยืดอายุรัฐบาลไปให้นานที่สุด

พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ

พลโท อมฤต บุญสุยา

พล.อ.ชิษณุพงษ์ รอดศิริ (ซ้าย)

 

 



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

พระพิมพ์กลีบบัว เนื้อดินเผา วัตถุมงคลเก่าแก่ของวัดลิงขบ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เสก
ร้อนสุดขั้ว ‘สะท้านโลก’
อสังหาฯ ปรับแผนเปลี่ยนกลยุทธตลาด
‘โจบ’ บนเส้นทางเดียวกับ ‘จู๊ด’ แต่อยากยิ่งใหญ่ในแบบของตัวเอง
ชัยชนะของ AIS-GULF-JAS คนไทยเฮพร้อมดูบอลไทยลีกฟรี!
ยำรวมมิตร (กินกับข้าวต้ม)
เจาะลึกสถานการณ์ค่าย ‘NETA’ กับอนาคตตลาดรถ EV เมืองไทย
ดาวกับดวงวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568
จดหมาย
กลาก สังคัง ฮ่องกงฟุต มะเขือขื่นตอบโจทย์ได้
เดินตามดาว | ศรินทิรา
ขอแสดงความนับถือ