เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

BLACK MIRROR : COMMON PEOPLE ‘เทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต’

18.05.2025

กลับมาอีกแล้วนะคะ Black Mirror ซีซั่นใหม่ ซึ่งเพิ่งออกฉายต้นเมษายนนี้เอง

ผู้เขียนเป็นแฟนพันธุ์แท้ของซีรีส์อังกฤษชุดนี้ภายใต้การสร้างสรรค์ของชาร์ลี บรุคเกอร์ มาตั้งแต่แรก

ดูเอพิโซดแรกก็เห็นความแตกต่างว่า เป็นซีรีส์ที่สร้างโลกอนาคตในจินตนาการซึ่งใช้เทคโนโลยีก้าวหน้า มาปนเปและกำหนดชีวิตมนุษย์

เป็นหนังที่ดูแล้วไม่รู้สึกเสียเวลา เพราะกระตุ้นความคิด สะท้อนและเสียดสีสังคม กระตุกต่อมรับรู้และตอบสนอง ยิ่งไปกว่าแค่ความบันเทิงแบบผ่านๆ

สมดังชื่อซีรีส์ซึ่งแปลว่า กระจกเงาที่สะท้อนให้เห็นภาพดำทะมึน

นับถึงบัดนี้ก็เข้าซีซั่นที่ 7 แล้ว

ซีซั่นหนึ่งๆ มีจำนวนไม่มากนัก สี่บ้าง หกบ้าง แปดบ้าง พอเจียดเวลาตามดูได้หมดจดเบ็ดเสร็จ เพราะทุกเอพิโซดจบในตอน ไม่ต่อเนื่องทั้งด้วยเนื้อหาและชุดตัวละคร

แน่นอนว่าเทคโนโลยีล้ำหน้าที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลก เปลี่ยนชีวิตมนุษย์ไปแบบเรียกว่าหน้ามือเป็นหลังตีนก็ว่าได้ (แปลว่า จำสภาพไม่ได้เลยว่าครั้งหนึ่งนี่เคยเป็นมือมาก่อน)

คือ เอไอ ที่จะสร้างสรรค์ พัฒนาและควบคุมเทคโนโลยีต่อไปอย่างก้าวกระโดดและหยุดยั้งไม่ได้

เอพิโซดแรกที่ชื่อว่า Common People น่าจะเป็นหนึ่งในภาพสะท้อนที่ชวนหดหู่ที่สุดของซีรีส์ก็ได้ และสะท้อนภาพสิ่งที่เป็นไปได้และกำลังเป็นไปในโลกปัจจุบันอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย

ไมค์ (คริส โอ’ ดาวด์) และอแมนดา (ราชิดา โจนส์) เป็นสามีภรรยาที่แต่งงานกันมาไม่นานและพยายามจะก่อร่างสร้างครอบครัวและมีลูกด้วยกัน

ไมค์เป็นช่างเชื่อมโลหะ ทำงานอยู่กับผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนอแมนดาเป็นครูโรงเรียนชั้นประถมสอนวิชาธรรมชาติวิทยา

อแมนดาเป็นครูที่เข้าอกเข้าใจปัญหาและมีคำแนะนำดีๆ แก่ลูกศิษย์เสมอ

อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็ล้มหมดสติลงระหว่างการสอนในชั้นเรียน ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และดูท่าว่าจะไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมามีชีวิตปกติได้อีก

เธอมีเนื้องอกในสมองชนิดที่ผ่าตัดเอาออกไม่ได้…

ไมค์อับจนหนทาง เมื่อหมอบอกว่า ถ้าเป็นเมื่อไม่กี่เดือนก่อน หมอจะบอกว่าไม่มีทางทำอะไรได้เลย

แต่ตอนนี้มีทางเลือก…ซึ่งหมอไม่แนะนำ…สำหรับคนไข้เคสแบบนี้แล้ว

เกย์เนอร์ (เทรซี เอลลิส รอสส์) ก้าวเข้ามาในฐานะตัวแทนของบริษัทสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยี ในชื่อว่า ริเวอร์ไมนด์

และบอกว่าตัวเธอเองนี่แหละเป็น “ข้อพิสูจน์ตัวเป็นๆ” (living proof) ของความสำเร็จในเทคโนโลยีของริเวอร์ไมนด์ ซึ่งผ่าเอาก้อนเนื้องอกในสมองนั้นออกไป และใส่เนื้อเยื่อสังเคราะห์เข้ามาแทน และเนื้อเยื่อสังเคราะห์นั้นจะถูกควบคุมด้วยเครือข่ายการทำงานที่จะขยายขอบเขตไปเรื่อยๆ จึงจะทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตปกติอยู่ได้ภายในขอบเขตของสัญญาณ

จากที่ผ่านมาเรารู้อยู่แล้วว่า ไมค์กับอแมนดาอยู่ในชนชั้นกลางระดับล่าง เป็น “คนธรรมดาทั่วไป” ดังในชื่อเอพิโซด Common People…ก็แล้วพวกเขาจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้เทคโนโลยีที่ดูจะเกินความลึกของกระเป๋าเงินของพวกเขาได้ล่ะ

เกย์เนอร์เป็นนักขายตัวฉกาจที่ผ่านการฝึกด้านจิตวิทยาการขายมาแล้ว เธอจึงบอกว่า เทคโนโลยีของริเวอร์ไมนด์นี้ใครๆ ก็มีกำลังจ่ายได้ เพราะยกเว้นค่าผ่าตัด (= ค่าสมาชิกแรกเข้า) จะเสียก็แต่ค่าบริการรายเดือน 300 เหรียญเอง

แลกกับการที่ภรรยาฟื้นกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ทำไมไมค์จะไม่ตกลง

ตัดมาที่อแมนดานั่งรถกลับบ้านพร้อมไมค์ และถามว่าเราจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าสมาชิกทุกเดือนตั้ง 300 เหรียญ

ไมค์บอกว่าเขาจะเพิ่มกะทำงานให้มากขึ้น เพื่อให้ได้เงินเพิ่มขึ้นเอง

ขณะที่อแมนดาต้องนอนมากขึ้น และออกนอกเขตเครือข่ายสัญญาณไม่ได้ ไมค์ก็ควงสองกะสามกะจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนหลับนอน

ร้ายไปกว่านั้น คืออแมนดาเริ่มมีอาการแปลกๆ พูดคำพูดที่เธอไม่รู้ตัวว่าหลุดออกจากปากมาได้ยังไง เป็นการโฆษณาต่างๆ ที่เอไอจัดให้แทรกเข้ามาตามโอกาส เช่น มีเด็กนักเรียนมาบอกว่าแม่กำลังจะเลิกกับพ่อ ครูก็แทรกโฆษณาให้ไปขอคำปรึกษาจากลัทธิความเชื่อแปลกๆ

อแมนดาถูกเรียกตัวไปตักเตือนเพราะโดนผู้ปกครองมาร้องเรียนด้วยความไม่พอใจจากคำแนะนำของเธอ

เมื่อไมค์และอแมนดาไปแจ้งเรื่องแปลกๆ นี้ต่อริเวอร์ไมนด์ เกย์เนอร์ก็บอกว่านั่นเป็นเพราะระดับบริการของอแมนดาอยู่ที่ “คอมมอน”

ถ้าไม่ต้องการโฆษณา เธอจะต้องอัพเกรดไปอีกระดับ คือ “พลัส” ซึ่งต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มอีกเดือนละ 500

ไมค์ทำงานตัวเป็นเกลียวอยู่แล้ว และต้องข่มใจยอมฉีกหน้าตัวเองทำสิ่งโง่ๆ น่าขายหน้าหรือทำร้ายตัวเอง ทางสื่อออนไลน์เพื่อแลกกับเงินที่จะมีผู้ยอมจ่ายเพื่อจะได้หัวเราะเล่นเป็นการบันเทิงใจ

เท่านั้นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ ริเวอร์ไมนด์ยังมีระดับค่าบริการที่สูงไปกว่า “พลัส” ซึ่งเรียกว่า “ลักซ์” ที่ดูจะเลิศสะแมนแตนขึ้นไปอีก

ท้ายสุด เส้นด้ายในชีวิตของคู่หนุ่มสาวก็ขาดผึง และจบด้วยตอนจบที่น่าเศร้าและสะท้อนใจอย่างยิ่ง

เป็นโศกนาฏกรรมของชีวิตคนสามัญในโลกสมัยใหม่ (สะท้อนถึงที่นักเขียนบทละครอาร์เธอร์ มิลเลอร์ เคยเขียนไว้ในบทความชื่อ Tragedy and the Common Man)

…ซึ่งไม่รู้ว่าคุณค่าของชีวิตและศักดิ์ศรีของการมีชีวิตนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่

เศร้าจัง…แต่ดูหนังแล้ว เราก็มองเห็นทางเลือกสำหรับชีวิตอย่างที่เราต้องการได้นะคะ •

BLACK MIRROR : COMMON PEOPLE

กำกับการแสดง

Ally Pankins

แสดงนำ

Chris O’Dowd

Rashida Jones

Tracy Ellis Ross

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

“อนุทิน” ย้ำ หากถูกยึด มท. พร้อมเป็นฝ่ายค้าน – ประกาศก้อง ศักดิ์ศรีภูมิใจไทย ไม่ยอมให้ใครปู้ยี้ปู้ยำ
ประเทศที่ (ยัง) ก่อสร้างไม่เสร็จ อ่านประเทศไทยผ่านงบฯ ปี’69 และช่องทางรับทรัพย์ของผู้รับเหมาก่อสร้าง
ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ผลประโยชน์ของใครบ้าง?
ชิงเก้าอี้ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ผู้สมัคร 7 ราย ดีกรีไม่ธรรมดา ตัวจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!!
เอกชนห่วง ‘เขย่า ครม.’ กลางคัน งานสะดุด-ฉุดเชื่อมั่นนักลงทุน
ชีวิตทางเลือก | ธงทอง จันทรางศุ
Songs in The Key of Life : ก่อนเวลาจะผ่านไป
จาก No Man’s Land สู่ This Land is My Land
เด็กที่ชินกับรสขม VS ผู้ใหญ่ที่สิ้นหวังกับการเปลี่ยนแปลง
ปฏิทินกับประชาธิปไตย : เมื่อเสียงข้างมากปะทะกับสิทธิ์ข้างน้อย
ประเมินสถานการณ์ ไทย-กัมพูชาจาก RLI
ดาวกับดวง อังคารที่ 17 มิถุนายน 2568