
MatiTalk พล.ท.ภราดร อ่านเกม น้ำเงินพิฆาตแดง เพื่อไทยติดกับดัก : รัฐพันลึก?

รายงานพิเศษ
MatiTalk พล.ท.ภราดร
อ่านเกม น้ำเงินพิฆาตแดง
เพื่อไทยติดกับดัก : รัฐพันลึก?
“ไม่ใช่สถานการณ์การเมืองปกติ แต่เป็นสถานการณ์การเมืองที่มีผู้กำกับ คือรัฐพันลึกทำให้เกิดรัฐบาลข้ามขั้ว ฉะนั้น ทั้งพรรคสีน้ำเงิน พรรคสีแดง ไม่ได้มีเสรีในการดำเนินกลยุทธ์” พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาฯ สมช. ให้สัมภาษณ์รายการ MatiTalk ทางมติชนสุดสัปดาห์ ถึงคดีฮั้ว ส.ว.ที่ลามไปไกล
จริงๆ แล้ว ส.ว.ก็อาจจะพอยอมกันได้ แต่ตอนนี้พรรคสีน้ำเงินอ่านเกมแล้วว่า เป้าหมายสุดท้ายจะมาจัดการพรรค แกนนำของพรรค
จริงๆ พรรคเพื่อไทย-ภูมิใจไทยก็ต้องการ ส.ว.ทั้งคู่ ตามรัฐธรรมนูญกำหนดกติกายังไงมันต้องฮั้วกัน เพราะเลือกกันเองก็ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดตรงที่มีการจ่ายเงินมีสิ่งตอบแทนซึ่งกันและกันทำให้ได้คะแนนมา ดังนั้น ตรงนี้ทำให้สีน้ำเงินมีแต้มต่อ
จึงเกิดกลยุทธ์ที่สีแดงต้องเล่นแรงจัดการทางคดี ทำให้ผู้กำกับการแสดงสะดุ้งเหมือนกัน เพราะเดิมทีอนุโลมให้พรรคแดงข้ามฟากมาอยู่กับกลุ่มอนุรักษ์เพื่อให้จัดการพรรคส้ม จัดการเศรษฐกิจ แต่กลับมาจัดการฝ่ายเดียวกัน เพราะ ส.ว.เปรียบเสมือนฝ่ายอนุรักษ์ เขาต้องใช้บริการในการคัดเลือกองค์กรอิสระ จึงเกิดเหตุการณ์เรื่องกระทรวงยุติธรรมและ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นขั้นแรก
คือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่กำกับ DSI แต่จริงๆ เชื่อว่าจะมีแผน 2 แผน 3 ต่อไป เช่น จะมีการไปร้อง ป.ป.ช.ว่าให้เกิดการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบหรือไม่
และไปร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าการดำเนินการของ DSI มิชอบตามกฎหมาย
: เกมนี้น้ำเงินถือไพ่เหนือแดง?
จริงๆ สีน้ำเงินก็ต้องการบริหารอำนาจตามที่รัฐพันลึกกำกับ
สีน้ำเงินเองไม่ได้แฮปปี้ที่อยู่กับสีแดง ขณะเดียวกันเป็นความผิดพลาดของฝ่ายอนุรักษ์เองที่ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่เข้าเป้า รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ไม่เข้าเป้า
เพราะถ้าเข้าเป้าพรรคเพื่อไทยต้องเป็นฝ่ายค้านไปแล้ว
ไม่ได้มาเป็นรัฐบาลหรอก
: พรรคเพื่อไทยจะทวงคืนกระทรวงมหาดไทยไหม
ความฝันนี้จบไปแล้ว เพราะมีสิ่งบอกเหตุ คือ ตอนท่านอนุทิน ชาญวีรกูล ป่วย ก็มีท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ไปเยี่ยมเป็นการส่งสัญญาณของพรรคสีน้ำเงินว่า ผมไม่ได้ตัวคนเดียว ผมอยู่ด้วยกัน คือพรรคภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา เป็นฝ่ายอนุรักษ์ คุณอยู่ตรงข้าม แต่ผู้กำกับเขาอนุญาตให้คุณมาร่วมกับผม ไม่ใช่ผมไปร่วมกับคุณ
ฉะนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ใช่มีแต้มต่อ ถ้าจะจัดการเขาออกไปเขาไม่ได้ออกไปแค่ 69 เสียง แต่เขาออกไปเป็นร้อย
ประกอบกับพรรคเพื่อไทยมีจุดอ่อนเป็นมะเร็งร้ายติดตัวตลอดคือ การไม่ปฏิบัติตามสัญญาประชาคม ไม่รักษาคำพูด ทำให้คนไม่เชื่อมั่นต่อพรรคนี้
เราเห็นคำตอบง่ายๆ ปัจจุบันที่เป็นรัฐบาลอยู่ 3-4 พรรคที่กล่าวไปข้างต้น เขาได้เก้าอี้กระทรวงดีๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม การที่เขาได้กระทรวงดี เพราะเขาอยู่ด้วยกัน
ฉะนั้น จะมาเอากระทรวงมหาดไทยคืนยากที่จะเกิดผลสัมฤทธิ์
: 13 มิถุนายน ต้องจับตาคดีคุณทักษิณดีๆ ใช่ไหม
ภาพเหตุการณ์ในกรณีชั้น 14 ถือว่าล่อแหลมมีโอกาสจะเป็นเชิงลบ เพราะตอนที่เขาปล่อยให้สีแดงไปจัดการพรรคส้มหรือเศรษฐกิจ ปรากฏว่าจัดการไม่ได้ ก็เป็นปัญหาอยู่แล้วนะ ดันไปสร้างปัญหาต่อองค์รวมของประเทศขึ้นมา คือเรื่องชั้น 14 กลายเป็นถูกว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน
เราต้องยอมรับว่าต้นเรื่องจริงๆ ของชั้น 14 เกิดจากการขยายความที่มาจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเป็นคนกำหนดต้นเรื่องแล้วไปยื่น ป.ป.ช. ว่ากรณีท่านทักษิณ ชินวัตร เป็นอภิสิทธิ์ชน ไม่เป็นไปตามกติกาข้อบังคับ
แล้วจากนั้น ป.ป.ช.ก็มารับดำเนินการ แต่ว่าร่ายรำเสียเวลาเพราะไม่คุ้นเคยในเรื่องข้อมูลทางการแพทย์ ประกอบกับโรงพยาบาลตำรวจ-โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ไม่เอื้ออาทรกับข้อมูล
ปรากฏว่าพอเรื่องเข้าไปแพทยสภามติก็ออกมาชัดว่าการป่วยไม่ได้ป่วยวิกฤต ฉะนั้น ที่จะออกจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปโรงพยาบาลตำรวจไม่น่าจะใช่ละ
การที่แพทย์ทั้งสองโรงพยาบาลถูกลงโทษ ถือเป็นการเริ่มต้น เพราะศาลฎีกานักการเมืองจะไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายน จะมอง 2 ประเด็นหลัก คือ เรื่องกฎหมาย การบังคับตามหมายจำคุกเป็นจริงไหมกับเรื่องป่วยวิกฤตหรือไม่ แต่เรื่องป่วยปรากฏว่าได้คำตอบไปแล้ว แต่ในข้อเท็จจริงสังคมเชื่อว่าไม่ได้ถูกปฏิบัติ
แนวโน้มที่จะถูกชี้มูลในวันที่ 13 มิถุนายนน่าจะเป็นเชิงลบต่อท่านทักษิณมากกว่า
: เราอาจจะได้เลือกตั้งเร็วกว่าปี 2570?
รัฐบาลชุดนี้ไม่มีทางครบเทอม ส่วนจะไปเกิดเลือกตั้ง 2570 หรือไม่นั้น ถ้าเกิดรัฐบาลใหม่ที่สามารถบริหารจัดการการเมืองได้ดีก็อาจจะลากไปถึง แต่น้ำหนักส่วนใหญ่แล้วเชื่อว่าไปไม่ถึงปี 2570 ถึงแม้จะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่แต่ก็จะเป็นรัฐบาลลักษณะเชิงเฉพาะกาล ทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องเศรษฐกิจไปได้ เรื่องความสามัคคีสมานฉันท์ เรื่องรัฐธรรมนูญเบื้องต้นให้รับหลักการกันไปได้
จากนั้นก็นำไปสู่การยุบสภาแล้วก็เลือกตั้งใหม่
: เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทย ยังมีแคนดิเดตนายกฯ เหลืออยู่ไหม?
การเกิดพรรคกล้าธรรมเป็นสิ่งบอกเหตุแล้ว พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสได้มากกว่าเดิม จาก 70 เขาสามารถขึ้นไปเป็นหลักร้อยต้นๆ ได้ พรรคสีส้มนอนยิ้มอยู่แล้วไม่ใช่ปัญหา
พรรคเพื่อไทยมีแต่โอกาสที่จะตกต่ำ ฉะนั้น ถึงต้องมีพรรคตัวแทนขึ้นมาเพื่อรองรับว่ากรณีที่ต้องปรับเกลี่ยการบริหารจัดการทางการเมืองใหม่ก็จะต้องเดินหมากใหม่ แต่ถ้าจะใช้ตัวเองเป็นจุดขายเดิมถือเป็นความยากลำบาก
ณ ตอนนี้ พรรคเพื่อไทยถือว่าไม่มีไพ่แล้ว มีแต่ใจลบอย่างเดียว ไม่มีปัจจัยบวกเลย เพราะตัวพลังอำนาจหลักอย่างท่านทักษิณก็ติดกับดัก ตัวท่านนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ก็ยิ่งติดกับดัก แล้วพรรคเพื่อไทยทุกคนก็เข้าใจตรงกัน ไม่ใช่พรรคของประชาชนกลายเป็นพรรคของเจ้าของพรรคคือท่านทักษิณ
ฉะนั้น เมื่อเจ้าของพรรคมีข้อจำกัดไปก็ติดกับดักกันหมด
: การกู้วิกฤตศรัทธาจะทำอย่างไร
ทางการเมืองจำไว้เลย ระบอบประชาธิปไตยไม่มีทางตัน เคารพเสียงส่วนใหญ่รับฟังเสียงส่วนน้อย อยู่ร่วมกันอย่างภราดรภาพ สำคัญที่สุดต้องเอาพี่น้องประชาชนอยู่ในสมการ พอเอาพี่น้องประชาชนอยู่ในการเป็นศูนย์กลางนั่นแหละจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กดันเอาไว้ เพราะว่าเขาคือเจ้าของอธิปไตยตัวจริง
แต่พรรคเพื่อไทยไปเสียโอกาสคำมั่นสัญญาที่ให้กับพี่น้องประชาชนแล้วไม่ทำ ถ้าทำตามคำมั่นสัญญาสัก 2-3 ประการ ป่านนี้ยังไงๆ ก็ยืนอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปฏิรูปราชการ ปฏิรูปกองทัพ รัฐสวัสดิการต่างๆ ตรงนี้พอจะไปได้ แต่ไม่ทำเลยสักเรื่อง ก็เลยไม่มีแนวร่วมประชาชน
พรรคเพื่อไทยถลำเข้าไปในเขาวงกตหาทางออกไม่ได้ก็ติดกับดักอยู่อย่างนั้น
: อนาคตพรรคกล้าธรรมตัวแปรสำคัญ?
พรรคกล้าธรรมฟังแล้วเหมือนดูดี แต่ถ้าเราถอยหลังไปนะ ผู้นำจิตวิญญาณของกล้าธรรมเปรียบเหมือนองคุลิมาลกลับใจ ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของฝ่ายรัฐพันลึก ตั้งแต่ตอนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว เราเห็นการขับออกจากรัฐมนตรี
ฉะนั้น ยากที่จะไปอยู่ฝ่ายอนุรักษ์ เพราะไม่ได้ถูกยอมรับจากแนวร่วมฝ่ายอนุรักษ์ เขาถึงต้องกลับมาจับมือเพื่อไทย และมีโอกาสที่จะต้องต่อสู้กัน แล้วจุดแข็งของเขาคือ พรรคเพื่อไทยกำลังทรุดตัว ก็สามารถที่จะถ่ายผู้แทนหรือว่าที่ผู้แทนต่างๆ ตัวเต็งทั้งหลายบ้านเล็กบ้านใหญ่ไหลมาอยู่ที่เขาแล้วมาเป็นพรรคที่จะเข้าไปต่อสู้กับพรรคฝ่ายอนุรักษ์
เลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะผนึกกับพรรคเพื่อไทยเข้ามาชนกับพรรคฝ่ายสีน้ำเงิน
: อนาคตพรรคสีน้ำเงิน ตัวแทนฝ่ายอนุรักษ์ จะเป็นอย่างไร
ณ ตอนนี้พรรคสีน้ำเงินเขาเสนอตัวและมีโอกาสเป็น แต่สัมฤทธิผลไหม อาจจะไม่ เนื่องจากวัฒนธรรมรูปแบบการดำเนินงานทางการเมืองในพื้นที่เขาไม่ได้มีประชาชนอยู่ในสมการแบบลึกๆ เพราะเขาใช้ทฤษฎีบ้านใหญ่กับยิงได้แม่นทั้งทางตรงทางอ้อมและได้เสียง
ฉะนั้น การที่เขาจะได้เชิงอุดมการณ์เขาไปไม่ได้หรอก แต่ก็ใช้รูปแบบแบบเดิม แต่ผลยังไงก็น่าจะเป็นหลักร้อย แต่ไปไม่ถึง 200
ส่วนตัววุฒิสมาชิกเมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้มันเป็นแบบถูกวิถีบังคับ
แต่เขาได้แต้มต่อ คือถ้าเกิดมีสถานการณ์ยุบสภา พรรคที่เป็นเชิงอนุรักษ์ที่ใช้ทฤษฎีบ้านใหญ่ คนที่เป็นบ้านใหญ่อาจจะโยกมาอยู่กับฝ่ายเขาเพราะเสียงของตัวเองดีอยู่ เสียงของพรรคก็เกื้อกูล
เมื่อเทียบระหว่างภูมิใจไทยกับเพื่อไทย ถ้าภูมิใจไทยเกื้อกูลกว่านี้บ้านใหญ่เขาก็พร้อมไปอยู่ภูมิใจไทย
ชมคลิป
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022