กรณีคณะนักบินการบินไทย เที่ยวบิน TG 971 ซูริก-กรุงเทพฯ วันที่ 11 ต.ค. 2561 ดีเลย์กว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ต้นเหตุเกิดจากนักบินไม่ยอมนำเครื่องขึ้น เพราะที่นั่งของคณะนักบินที่จะโดยสารกลับ (Deadhead pilot) ไม่ได้นั่งในชั้นเฟิร์สต์คลาสตามสิทธิ ปล่อยผู้โดยสารกว่า 300 คนนั่งรอ จนสุดท้ายผู้โดยสารสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งได้จองที่นั่งชั้นบิซิเนสคลาสและได้รับการอัพเกรดเป็นชั้นเฟิร์สต์คลาส ต้องยอมสละที่นั่งให้ ทั้งนี้เที่ยวบิน TG 971 ตามตารางการบินจะต้องบินกลับด้วยเครื่องบินโบอิง B777-300ER แต่ด้วยเครื่องบิน B777-300ER เสียที่ซูริก ขากลับจึงต้องใช้เครื่องบิน B747-400 ไปรับผู้โดยสารจากซูริกกลับกรุงเทพฯ พร้อมพานักบินชุดที่ขับเครื่องบินที่จอดเสียที่ซูริก กลับมาด้วย เพราะตามหลัก นักบินไม่สามารถขับข้ามแบบได้ ซึ่งเครื่องบิน B747 มีชั้นเฟิร์สต์คลาส ขณะที่ B777 ไม่มีชั้นเฟิร์สต์คลาส และนายสถานีการบินที่ซูริก ได้อัพเกรดผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วในชั้นบิซิเนสคลาส เป็นเฟิร์สต์คลาส จากนั้นเกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าว โดยการบินไทย ออกแถลงการณ์ชี้แจง โดยขอโทษผู้โดยสารเที่ยวบินที่ ทีจี 971 ซูริก – กรุงเทพฯ และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนั้น
ล่าสุด “กัปตันโสภณ พิฆเนศวร” หรือกัปตันอู ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายควบคุมคุณภาพ ความปลอดภัย และความมั่นคงองค์กร ของสายการบินนกแอร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Sopon Phikanesuan” ให้ความรู้คำศัพท์การบินคำว่า Deadhead/passive crew โดยมีรายละเอียด ดังนี้
Deadhead หรือ passive crew หมายถึง นักบินและ/หรือพนักงานต้อนรับที่เดินทางไปด้วยบนเที่ยวบินโดยไม่ได้ทำหน้าที่ในระหว่างไฟลท์ แต่เดินทางไปเพื่อทำหน้าที่หลังจากไฟลท์หรือเดินทางกลับบ้าน
ทำไมต้องมี dead head ?
กล่าวถึงเฉพาะด้านนักบินเพื่อให้เห็นภาพถึงสถานการณ์ที่ต้องเดินทางเป็น dead head กันครับ
ปกตินักบินจะบินเครื่องบินได้เฉพาะแบบ เช่น คนที่บิน B777 ก็บินได้เฉพาะ B777
นักบิน B747 ก็บินได้เฉพาะ B747 นักบิน B777 แม้ว่าจะเคยบิน B747 มาก่อนอยู่ ๆ วันนี้จะบิน B747 เลยไม่ได้
(นักบินนั้นถูกกำหนดตามกฎหมายให้บินเครื่องบินได้เพียงแบบเดียว หากจะบินเครื่องบินสองแบบต้องมีการขออนุมัติและมีมาตรการการฝึกและกำกับดูแลเพิ่มเติม ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วสายการบินจะให้บินเพียงแบบเดียวเท่านั้นเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาไม่ให้เกิดความสับสนและทำให้เกิดข้อบกพร่องในด้านคุณภาพการบิน)
การทำงานของนักบินจะมีการกำหนดระยะเวลาทำงานสูงสุดที่สามารถทำได้ต่อวัน ซึ่งก็คือประมาณ 11-13 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เริ่มต้นทำงาน
และโดยปกติแล้วเที่ยวบินที่เดินทางจากกรุงเทพฯไปตามเมืองต่างๆ ในยุโรปนั้น จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมงขึ้นไป ดังนั้น เมื่อไปถึงนักบินจึงบินกลับมาเลยไม่ได้ จะต้องลงนอนพักผ่อนที่ปลายทางก่อนที่จะทำการบินกลับ (ดูช่วงเวลาการพักผ่อนขั้นต่ำด้านล่าง)
ส่วนเครื่องบินนั้นจะเดินทางรับผู้โดยสารกลับมาเลยในวันเดียวกันนั้นโดยใช้นักบินอีกชุดหนึ่งที่ไปถึงก่อนหน้าแล้ว 1 วัน (ขึ้นอยู่กับตารางการบินและการจัดการด้านการเคลื่อนย้ายกำลังพลด้วย)
เรามาดูตัวอย่างกันชัด ๆ ว่าเมื่อไหร่ต้องมี dead head
หากวันที่ 1 เครื่องบิน B777 บินไปที่สนามบิน A นักบินก็จะลงนอนค้างคืนเพื่อพักผ่อนก่อนที่จะต้องบินกลับ
แต่หากวันที่ 2 จำเป็นต้องใช้เครื่องบิน B747 บินไปที่สนามบิน A นักบิน B777 ที่บินไปถึงเมื่อวันที่ 1 ก็จะถูกกำหนดให้เดินทางกลับเป็น dead head บนเที่ยวบินขากลับในวันที่ 2 นั่นเลย นักบินที่บิน B747 กลับในวันที่สองก็คือ นักบินชุดที่เดินทางมากับเครื่องบิน B777 เมื่อวันที่ 1 โดยเป็น dead head มานั่นแหละ
สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแบบเครื่องบินแบบนี้จึงต้องมีการเดินทางของ dead head
แต่ถ้าวันที่ 3 เครื่องบินก็จะเปลี่ยนไปใช้ B777 ใหม่ นักบินก็อาจจะไม่ต้องเดินทางกลับ บริษัทอาจจะให้พักเพิ่มอีกหนึ่งวันเพื่อรอรับเครื่องบินที่มาถึงในวันที่ 3 และบินกลับไปกรุงเทพฯ นักบิน B747 ก็จะเป็น dead head กลับบนเที่ยวบินของ B777 แบบนี้เป็นต้น
อย่างที่ผมกล่าวมาแล้วในช่วงต้น ๆ ว่า dead head นั้นเป็นนักบินและหรือพนักงานต้อนรับที่เดินทางในเที่ยวบินแต่ไม่ได้ได้ทำหน้าที่ลูกเรือ
dead head จึงถูกกำหนดให้นั่งที่นั่งผู้โดยสารและทำตัวเสมือนเป็นผู้โดยสารทุกประการ แต่หากมีเหตุฉุกเฉินจำเป็นเช่น การที่จะต้องอพยพออกจากเครื่องบิน dead head ก็จะสามารถทำการร่วมช่วยเหลือผู้โดยสารได้
เครื่องบิน B747-400 นั้นมีที่นอนสำหรับนักบิน อยู่ 2 ที่ แม้ว่าจะเป็นห้องเล็ก ๆ แต่ส่วนตัวแล้วผมว่า พักผ่อนได้สบายกว่าเก้าอี้นั่งของผู้โดยสาร เพราะเป็นเตียงนอนราบแต่ไม่ได้มีอุปกรณ์ในการให้ความบันเทิงใดๆ เหมือน A380 หรือเครื่องบินรุ่นหลัง ๆ ซึ่ง pilot rest facility นั้นเป็นเตียงที่มีจอ LCD เพื่อให้ดูหนัง ฟังเพลงได้ เพราะจุดประสงค์ไม่ได้เอาไว้นอนอย่างเดียว เค้ามีไว้เพื่อให้ผ่อนคลายหรือพักผ่อนในระหว่างเที่ยวบิน
เตียงที่ติดตั้งนั้นจะมีเพียง 2 เตียง และอยู่ใกล้หรืออยู่ในส่วนที่เป็นห้องทำงานของนักบินหรือ cockpit และทั้งสองเตียงนั้น มีไว้เพื่อนักบินที่เป็น active crew
ปกติยุโรปใช้นักบิน 4 คน โดยหลังจากเครื่องบินวิ่งขึ้นไปแล้ว นักบิน 2 คนจะถูกจัดตารางให้ไปพักผ่อนเพื่อมาสลับกับชุดที่นั่งประจำที่นั่งด้านหน้าเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ดังนั้นเตียง 2 เตียงจึงถูกใช้งานตลอดทั้งไฟลท์ ไม่ได้มีไว้สำหรับ dead head
บางสถานการณ์อย่างเช่นการรอ ควรจะต้องมี สถานที่พักผ่อนที่เหมาะสม suitable rest facility คือ สามารถนอนราบได้ 180 องศา duty period จึงจะไม่นับช่วงเวลาที่รอว่าเป็น duty period
เรื่อง suitable rest facility นี้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการด้านของความเหนื่อยล้า fatigue risk
ที่นั่ง first class ก็จัดเป็น suitable rest facility หรือสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสม
แต่ที่นั่ง business class นั้นเป็นเพียง adequate rest facility หรือสถานที่พักผ่อนที่เพียงพอ
เรื่องของ duty period และ flight duty period ของนักบินนั้นเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เนื่องจากนักบินนั้นมีข้อจำกัดที่ถูกกำหนดชั่วโมงสูงสุดในแต่ละเรื่องกำกับเอาไว้ละเอียดยิบย่อย เช่น
(9) ภายในทุกๆ 7 วัน ต่อเนื่องกัน
(ก) ลูกเรือจะมีชั่วโมงบินได้ไม่เกิน 34 ชั่วโมง
(ข) ครูการบินจะมีช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่การบินได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมง
(ค) ศิษย์การบินจะมีช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่การบินได้ไม่เกิน 30 ชั่วโมง
(10) ภายใน 28 วัน ต่อเนื่องกัน
(ก) ลูกเรือจะมีชั่วโมงบินได้ไม่เกิน 110 ชั่วโมง
(ข) ครูการบินจะมีช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่เกิน 150 ชั่วโมง
(ค) ครูการบินจะมีช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่การบินได้ไม่เกิน 120 ชั่วโมงและมีชั่วโมงบินได้ไม่เกิน 90 ชั่วโมง
เพราะด้วยความที่ flight duty period นั้นถูกจำกัดช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่สูงสุดเอาไว้ แม้ว่าจะเป็น dead head ก็จำเป็นจะต้องควบคุมเรื่องของ duty period เพราะหากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้นักบินเพื่อบินเที่ยวบินใด ๆ ที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงตาราง หรือมีเครื่องบินแบบไหนเสียต้องใช้เครื่องบินอีกแบบหนึ่งเพื่อบินทดแทนขึ้นมา dead head อาจจะไม่สามารถไปบินทดแทนการขาดกำลังพลได้เพราะติดเรื่องของ maximum duty period
จริง ๆ รายละเอียดเรื่องนี้เขียนอธิบายให้ชัดเจนได้ไม่มากนักครับ มันคงจะยืดยาวเกินไป เอาเป็นว่าหากสนใจรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ให้ อ่านเรื่องข้อกำหนดด้าน flight time and flight duty period ตามลิ้งค์นี้
เรื่องการตีความและการใช้งานข้อกำหนดกฎหมาย เป็นเรื่องที่มีรายละเอียด ต้องอาศัยประสบการณ์และการตีความให้ชัดเจน
เรื่องของ duty period จึงมีความสำคัญไม่น้อยครับ
ขอบคุณที่มา Sopon Phikanesuan
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ‘บินไทย’ ออกหนังสือห้าม 4 นักบินปูดข้อมูล หลังบินไทยดีเลย์กว่า 2 ช.ม.
– ผจก.เที่ยวบินอาวุโส แจง ‘บินไทย’ ล่าช้า เหตุ ‘นายสถานีซูริก’ ไม่กันที่ให้นักบิน
– ทูต ‘นริศโรจน์’ เตือนระวังโอละพ่อปมดราม่าบินไทย ติงสื่อ ‘ใส่สีตีไข่’
– ‘นักบินตกเป็นจำเลยสังคม’ กัปตันการบินไทยเผยต้นเหตุไฟลต์ป่วนก่อนเรื่องบานปลาย
– เปิดภาพ ‘โบอิง 747-400’ ทำไม ‘นักบิน’ ต้องอ้างสิทธิแย่งที่นั่ง ‘เฟิร์สต์คลาส’ ผู้โดยสาร
– เฟซ ‘นายกสมาคมนักบินฯ’ ระอุหลังแจงแทนเพื่อนนักบิน โซเชียลแซะ ‘รักตัวเองเท่าฟ้า’
– เปิดเอกสาร การบินไทย แจงเหตุ นักบินอ้างสิทธิแย่งที่นั่งเฟิร์สต์คลาสผู้โดยสาร
– เหตุการณ์ ‘นักบิน’ อ้างสิทธิขอที่นั่งเฟิร์สต์คลาส กระทบต่อองค์กร ‘การบินไทย’ หรือไม่ อย่างไร
– ดุเดือด! โซเชียลถล่มเมนต์ ‘การบินไทย’ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ปมผู้โดยสารสละที่ให้นักบิน
– สหภาพฯ จวกการบินไทยปมที่นั่งนักบิน ลั่นหากต้องการนอนพัก มีห้องแยกแต่ไม่ใช้
– การบินพลเรือนฯย้ำปม ‘ที่นั่งเฟิร์สคลาส’ เรื่องภายในบินไทย ไม่ต้องตรวจสอบ ไม่เกี่ยวความปลอดภัย
– เจาะละเอียด! เผยนาทีกล่อมผู้โดยสารเฟิร์สต์คลาส ก่อนยอมถอยให้นักบิน
– ที่แท้! อดีตบิ๊ก ขรก. ผู้โดยสารคู่สามีภรรยาที่เสียสละให้นักบิน
– อีกมุม! นักบินโพสต์ข้อเท็จจริงสิทธิที่นั่งชั้นธุรกิจ พร้อมเรียกร้องความเป็นธรรม
– เจอแล้ว! ผู้โดยสารสามีภรรยาผู้เสียสละแทน ‘นักบิน’ ยอมเปลี่ยนที่นั่งไม่เช่นนั้นไม่ได้ไป
– ‘บินไทย’ ขอโทษ-สั่งสอบ คณะนักบินเห็นแก่ตัว ไม่ยอมบิน จนกว่าจะได้นั่งที่ๆต้องการ