

แฟรนไชส์ในโลกภาพยนตร์และเครื่องอุปโภคบริโภคเชิงพาณิชย์ชุดนี้มีจุดเริ่มต้นจากหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง Despicable Me (2010)
ซึ่งเล่าถึงตัวเอกร้ายกาจชื่อกรู หัวกลมดิ้กจมูกแหลมเปี๊ยบ พันผ้าพันคอลายทางขาว-ดำทิ้งชายยาว
กรูเติบโตขึ้นด้วยความเป็นวายร้ายแต่วัยเด็ก และตั้งความปรารถนาในชีวิตไว้ว่าจะเป็นอภิมหาวายร้ายที่โลกจะจดจำได้ไม่มีวันลืมเลือน ด้วยการพยายามขโมยดวงจันทร์ในท้องฟ้ายามราตรีเอกมาไว้ในครอบครอง
แต่ที่สุดแล้ว กรูก็ลงเอยด้วยการกลับตัวกลับใจย้ายข้างจากฝ่ายอธรรมสุดขั้วมาอยู่ข้างเดียวกับฝ่ายกฎหมายที่คอยผดุงคุณธรรม จับจอมวายร้ายอื่นๆ มาเข้าคุก เพื่อสร้างความยุติธรรมและสันติสุขแก่โลก
เช่นเดียวกับอภิมหาวายร้ายทั้งหลาย กรูมีลูกสมุนจอมเซ่อและซื่อจนน่าปวดหัว คอยจุ้นจ้านวุ่นวาย คอยติดตามตัวลูกพี่เป็นสรณะ ไปไหนมาไหนก็เดินตามเป็นพรวน
สมุนของกรูเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ “มินเนียน” (minion ซึ่งแปลเอาดื้อๆ ตรงตัวเป๊ะว่า ลูกสมุน)
ด้วยไอเดียแหวกแนว ชวนขบขันและแปลกใหม่ไม่ซ้ำซากในโลกการ์ตูน Despicable Me ตามต่อมาด้วยภาค 2, 3 และ 4 ในช่วง 15 ปี ทั้งยังขยายแยกแตกสาขาออกมาด้วยชุด Minions อีก 2 ภาค ซึ่งประสบความสำเร็จด้านรายได้ยิ่งกว่าต้นเรื่องเสียด้วยซ้ำ
ยังไม่นับหนังทีวีและสินค้าหลายหลาก นานารูปแบบด้วยสัญลักษณ์ที่มีรูปร่างคล้ายยาเม็ดแคปซูลสีเหลืองอ๋อย ในโลกของเด็ก (และผู้ใหญ่ที่ยังมีใจเป็นเด็ก)
ในภาคที่สี่นี้ กรู (สตีฟ คาเรล) ไปเจอคู่แค้นครั้งยังเยาว์วัย สมัยเมื่ออยู่โรงเรียนเดียวกัน ชื่อ แม็กซิม เลอมาล (วิล เฟอร์เรล) ผู้ผูกพยาบาทอาฆาตแค้นจากการที่โดนตัดหน้าและฉีกหน้าให้ได้อายต่อหน้าธารกำนัลบนเวทีประกวดความสามารถ
แค้นนั้นยังอัดแน่นอยู่ในอก เมื่อมาเจอหน้ากันอีกหนในวัยเติบใหญ่ แม็กซิมผู้เพิ่มพลังและสมรรถภาพของตัวเองให้เป็น “มนุษย์แมลงสาบ” จึงพยายามฟาดฟันกรูสุดกำลัง
ผลก็คือหลังจากแสดงอิทธิฤทธิ์พิษภัยของการเป็นมนุษย์แมลงสาบตัวร้ายให้เป็นที่ประจักษ์อย่างโครมครามแล้ว แม็กซิมก็โดนสยบราบคาบม่อยกระรอกไป และถูกจับไปขังคุกที่มีระบบความปลอดภัยแน่นหนาสูงสุดของหน่วยปราบปรามเหล่าวายร้าย หรือ AVL (Anti-Villain League) ซึ่งกรูถูกเกลี้ยกล่อมให้ไปเป็นเจ้าหน้าที่ประจำทำงานในหน่วยงานนี้
ซึ่งประมาณว่าเป็น “เอฟบีไอ” ซึ่งทำหน้าที่ปราบปรามอาชญากรนั่นแหละ
กรูอยู่บ้านอย่างสงบสุข แต่ไม่สงบใจ เพราะลูซี่ (คริสติน วิก) ภรรยาของเขา เพิ่งจะให้กำเนิดทารกชายที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของดรูเอง ไม่ใช่เด็กหญิงลูกบุญธรรมสามคนที่รับเลี้ยงมาแต่ภาคแรก
ที่ว่าไม่สงบใจ ก็เนื่องจากกรูจูเนียร์ผู้ไร้เดียงสา ดูท่าว่าจะเดียงสามาก ด้วยความไม่ชอบหน้าพ่อ ออกอาการอาละวาดต่างๆ นานาทุกครั้งที่กรูเข้าใกล้หรืออุ้มชู
ไม่ทันไร หัวหน้าหน่วยเอวีแอลก็เข้ามาแจ้งข่าวร้ายว่าแม็กซิมแหกคุกที่แน่นหนาสูงสุดและลอยนวลอยู่ เพื่อมุ่งร้ายหมายขวัญจะแก้แค้นคู่อาฆาตคือ กรู ให้ได้
แผนของเอวีแอลก็เหมือนกับแผนของเอฟบีไอที่เราเห็นมามากแล้วในหนังต่างๆ คือ ให้กรูและครอบครัวอยู่ในโครงการพิทักษ์พยาน
โดยย้ายถิ่นฐานบ้านช่องไปอยู่ต่างเมืองต่างรัฐ และเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามอาชีพการงานเสียใหม่ ย้ายโรงเรียนให้ลูกๆ ด้วย
นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งใหม่ของกรูและครอบครัว รวมทั้งการที่เหล่ามินเนียนลูกสมุนถูกหน่วยเอวีแอลกวาดต้อนแยกไปอยู่ต่างหากจากลูกพี่
มีตัวละครใหม่ที่น่าจะมีบทบาทต่อไปในแฟรนไชส์นี้ คือพ็อพพี่ เพรสคอตต์ (โจอี้ คิง) ซึ่งเป็นเหมือนกรูในวัยเด็กอีกคนนั่นเอง นั่นคือเด็กหญิงคนนี้คิดแผนการร้ายจะขโมยสัตว์สัญลักษณ์ประจำโรงเรียนมัธยมเก่าแก่ ซึ่งมีหน้าตาประมาณเดียวกับฮอกวอตต์ของเหล่าพ่อมดนั่นเอง
พ็อพพี่ขอความร่วมมือจากกรูให้ช่วยวางแผนโจรกรรมให้ ด้วยการแบล็กเมล ขู่จะเปิดเผยความลับของกรูให้โลกรู้
หนังความยาวเพียงชั่วโมงครึ่งนี้ใส่องค์ประกอบจิปาถะ เก็บเล็กผสมน้อย รวบรวมตัวละครและพล็อตย่อยยิบไว้เยอะแยะ เหมือนจะเสียดายไม่อยากทิ้งมุขดีๆ ไปเปล่าๆ
ผลก็คือการพัฒนาพล็อตทำได้ไม่ราบรื่นและเป็นกอบเป็นกำ แตะโน่นนิด แตะนี่หน่อย
ตัวผู้ร้ายก็ฉาบฉวย เห็นพอเป็นกระสาย ไม่ได้ลงลึกและไม่ได้ให้เวลาบนจอนานพอ
ทั้งหลายทั้งปวงหมายจะรวบรวมมุขขำขันเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แบบไม่ค่อยยอมคัดอะไรออกเลย
ถามว่าสนุกไหม ก็เพลินดีอยู่หรอก แต่ไม่ตรึงตราน่าจดจำอะไร จบแล้วก็จบกัน หมดเรื่องไป
แม้แต่เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูก ซึ่งพยายามทำให้เหมือนมีความหมาย แต่ก็ดูฉาบฉวย ทารกน้อยเปลี่ยนใจมาอยู่ข้างพ่อ ก็ปุบปับจนชวนงง จึงทำให้การสร้าง “มนุษย์พันทางสายพันธุ์แมลงสาบ” กลายเป็นเรื่องสัพเพเหระ ไม่ใช่สิ่งคุกคามที่น่ากลัวต่อความอยู่รอดปลอดภัยของตัวเอกจริงๆ
และฉากสุดท้ายในคุก เมื่อกรูไปร่วมเต้นหย็องแหย็งร่วมร้องเพลง “Everybody Wants to Rule the World” คู่กับแม็กซิม ดวลเพลงกันต่อหน้านักโทษอุกฉกรรจ์ทั้งหลาย ก็สนุกและเนื้อเพลงพุ่งตรงถึงแกนหลักของเรื่องก็จริงอยู่หรอก แต่ก็ทำให้น้ำหนักความร้ายกาจของวายร้ายทั้งหมดกลายเป็นเรื่องเบาหวิวชวนขบขันไป
เสน่ห์ของตัวละครในแฟรนไชส์ชุดนี้ยังไม่น่าจะชืดชาเสื่อมคลายไปหรอกค่ะ อีกหน่อยก็น่าจะมีภาคต่อๆ ไปตามมาอีก เสียแต่ว่าภาคสี่นี้ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ให้น่าติดใจนัก •
DESPICABLE ME 4
กำกับการแสดง
Chris Renaud และ Patrick Delage
ให้เสียง
Steve Carell
Will Farrell
Sofia Vergara
Joey King
Miranda Cosgrove
Kristen Wiig
Pierre Coffin
ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

