บทความในประเทศ
ชินวัตร ลุ้นทั้งบ้าน
ภูมิใจไทย ลุ้นทั้งพรรค
นับวัน ศึกชิงธงนำทางการเมืองในฝั่งกุมอำนาจรัฐ ยิ่งเข้มข้นและทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่ผ่านมาได้เห็นขั้วสีแดงและน้ำเงิน ระดมอาวุธฟาดฟันกันมาต่อเนื่อง
ตั้งแต่การเมืองท้องถิ่น เลือกตั้งนายก อบจ. ต่อเนื่องนายกเทศบาล เกิดการประลองกำลัง แย่งชิงเพื่อครอบครองเครือข่ายอิทธิพล
กระทั่งการเมืองระดับชาติ ตั้งแต่เรื่องนโยบายการเมือง ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ปฏิรูปกองทัพ การเปลี่ยนแปลงมิติโครงสร้างใดๆ ก็เจอขั้วน้ำเงินสกัดเรียบ
อะไรที่เป็นเรือธงทางเศรษฐกิจของเพื่อไทย ก็ยังเจอความเก๋าของการเมืองค่ายสีน้ำเงินเข้าสกัด ล่าสุด คือ กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือที่เรียกกัน “กฎหมายกาสิโน” ที่ถึงกับต้องจอดนิ่งๆ
ตลอด 2 ปีรัฐบาล สะท้อนการปะทะกันภายในของขั้วแดง-น้ำเงิน ยกระดับขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างก็เป็นรัฐบาล มีอาวุธอยู่ในมือ ทั้งมีดสั้น ดาบ กระทั่งปืน อยู่ที่ว่าจะเลือกใช้ในโอกาสไหน
แต่การปะทะกันระลอกล่าสุดในเรื่องชั้น 14 และฮั้ว สว. ต้องเรียกว่าเป็นระดับใช้อาวุธสงครามถล่มกันเลยทีเดียว
การเมืองไทยวันนี้จึงเดินมายังจุดที่คอการเมืองก็ไม่รู้ว่ามันจะจบยังไง
ต้อง “ลุ้น” กันตลอดว่าจะคลี่คลาย แตกหัก หรือขยับทิศทางไปในรูปแบบไหน?
ฝั่งขั้วสีแดง เป็นการเมืองภายใต้การนำของ “ตระกูลชินวัตร” เข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า “ลุ้นทั้งบ้าน” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณแห่งพรรคเพื่อไทย “ลุ้นที่สุด”
ที่ทุกคนจับตามองคือ ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ กรณีการบังคับคดีโทษจำคุก ว่าเป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่
ที่ลุ้น ไม่ใช่เพียงแค่ว่านายทักษิณจะต้องกลับไปถูกบังคับโทษจำคุกหรือไม่เท่านั้น
แต่ยังลุ้นในทางการเมืองหลังการตัดสิน เพราะสถานะของนายทักษิณวันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพรรคเพื่อไทยและอนาคตของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
มีการวิเคราะห์กันว่า หากการตัดสินของศาลฎีกาฯ เป็นไปใน “ทางลบ” ต่อนายทักษิณ นี่อาจจะก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองขณะนี้ก็เป็นได้ ยังไม่นับอนาคตของพรรคเพื่อไทยที่ขณะนี้นับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ในปี 2570 กันแล้ว
นอกจากนายทักษิณยังมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของไทย ออกจากประเทศไปหลายปีเพราะผลพวงรัฐประหาร ที่ต้อง “ลุ้น” กลับเข้าประเทศแบบนายทักษิณ เนื่องจากการตัดสินคดีอายัดทรัพย์สินเพื่อชดใช้คดีจำนำข้าววันที่ 22 พฤษภาคม ถือเป็นคดีความสุดท้ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในชั้นศาลแล้ว
ถัดจากนี้ก็เหลือเพียงลุ้น “ฝ่าด่านอภินิหารกฎหมาย” เพื่อกลับเข้าไทยอย่างถูกต้อง ตามความฝันที่นายทักษิณเคยประกาศไว้หลายครั้งช่วงปีก่อน
“ลุ้น” คนสุดท้ายของบ้านชินวัตร คือ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ต้องยอมรับว่าวันนี้หนักหนาสาหัสที่สุดกับปัญหาที่ต้องแบกรับในนามนายกฯ
มีการพูดกันว่าสภาวะประเทศไทยวันนี้ ต่อให้ผู้นำประเทศเก่งแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ เพราะปัญหาโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจของเรามันใหญ่โต “เกินกว่าจะมีฮีโร่คนไหน” มานำพาประเทศออกจากวิกฤตได้
ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นรถยนต์ ก็เป็นรถยนต์เก่าที่มีเครื่องยนต์ติดๆ ดับๆ ขับได้ช้าๆ ไม่สามารถลงสนามแข่งกับรถคันอื่นได้ทัน ต่อให้นักขับเก่งแค่ไหน กดคันเร่งให้สุดความเร็วก็เท่าเดิม
ถ้าว่ากันตามจริง รถยนต์ประเทศไทยวันนี้แทบจะสตาร์ตไม่ติดแล้วด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ อย่าลืมว่าเพื่อไทยก็ไม่รอดในสมรภูมินิติสงคราม นายเศรษฐา ทวีสิน ก็มีอันต้องหลุดจากเก้าอี้กลางคันมาแล้ว
ทุกย่างก้าวของ น.ส.แพทองธาร จึงเต็มไปด้วยเรื่อง “ลุ้นๆ”
ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองวันนี้ก็เจอกับวิกฤตในนามแกนนำรัฐบาลอย่างหนัก เพราะแบกความคาดหวังจากการพลิกขั้วเปลี่ยนข้างรัฐบาลไว้สูง วันนี้ผ่านมาเกือบ 2 ปีเศษแล้ว ประชาชนยังไม่รู้สึกจับต้องผลงานรัฐบาลที่หาเสียงไว้ได้
เรือธงหลายลำจอดสนิท นโยบายบางเรื่องเคยได้หาเสียงไว้ วันนี้เปลี่ยนเป็นเงียบกริบไม่ได้ถูกนำมาปฏิบัติ บางเรือธงก็ชะงักกลางคัน เช่นล่าสุดคือการประกาศชะลอการแจกเงินหมื่นไปแบบไม่มีกำหนด
ยิ่งดูขบวนการขยับของขั้วอำนาจเก่า ที่เริ่มเปิดเกมรุกกับนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยมากขึ้น
ฝ่ายอนุรักษนิยมเริ่มกลับมาจุดไฟแค้นใส่ขั้วสีแดง ก็ยิ่งน่าจับตามองว่าศึกครั้งนี้จะจบลงแบบใด ฝ่ายอำนาจเก่าจะรุกคืบขั้วสีแดงหนักแค่ไหนจากนี้
จะเห็นว่าเพื่อไทยก็ “ลุ้นกับอนาคตทางการเมือง” ในฐานะผู้นำฝ่ายรัฐบาลไม่น้อย ไม่รู้ว่าจะนำ “รัฐนาวาลำนี้” ไปถึงฝั่งหรือไม่ เพราะวันนี้คนนั่งในเรือด้วยกันกลับเจาะรูให้น้ำรั่วเข้าเรือเสียเองอีก
ขณะที่ขั้วน้ำเงินยิ่งลุ้นหนัก
วันนี้ถูก “รุกคืบ” ทางการเมืองเป็น “รุกฆาต” ในทางการเมืองเป็นที่เรียบร้อย หลังเพิ่งถูก “นักร้อง” ยื่นคำร้องยุบพรรคการเมืองข้อหาล้มล้างการปกครอง ต่อเนื่องจากการต่อสู้เรื่องฮั้วเลือก ส.ว.สีน้ำเงิน
รอบนี้อนาคตทางการเมืองของขั้วน้ำเงิน อยู่ในจุดที่เรียกได้ว่า “เปราะบางที่สุด” นับตั้งแต่ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย หลังคณะกรรมการสืบสวนฯ ของ กกต.ออกหมายเรียกรับทราบข้อหาฮั้ว ส.ว.
ล็อตแรก เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม เรียก 55 บุคคลในเครือข่าย ส.ว.สีน้ำเงิน ต่อด้วยล็อต 2 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ออกหมายเรียกอีก 10 บุคคลสำคัญเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย โดยรอบนี้มีระดับรัฐมนตรีและอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรค
ขณะล็อตที่ 3 มีการออกหมายเรียก 90 บุคคลเครือข่ายของพรรคภูมิใจไทยต่อเนื่อง รอบนี้เป็นการมุ่งเป้าไปที่ระดับคีย์แมนของพรรค
ที่ต้องลุ้นหนัก เพราะรอบนี้เป็นการดำเนินการระดับชุดสืบสวนของ กกต. ผสมทีมด้วยชุดสืบสวนจากดีเอสไอ ซึ่งใช้ “ทีมสืบระดับท็อป” เข้าร่วม
การขยับสอบสวนคดีฮั้ว ส.ว.จึงส่งผลอย่างสูงต่อขั้วสีน้ำเงินสะเทือนอย่างหนัก ไม่รู้ว่าความเสียหายจากนี้จะหนักหนาเพียงใด
ยิ่งผสมเข้ากับการออกมายื่นคำร้องของ อดีตผู้สมัคร ส.ว. และ ส.ส.หลายสมัย อย่าง กุสุมาลวตี ศิริโกมุท ให้ยุบพรรคภูมิใจไทย พร้อมยืนยันว่ามีหลักฐานเอาผิดชัดเจน ร้อนจน นายอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องออกมาตอบโต้รุนแรง พร้อมประกาศฟ้องร้องดำเนินคดี ยิ่งทำให้ “ดีกรีของการปะทะกันในสมรภูมินิติสงคราม” ถูกยกระดับ นับเป็นสงครามต่อเนื่องที่น่าจับตา
จึงจะเห็นภาวะดิ้นสู้ของ “ทีมสีน้ำเงิน” ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการรุกกลับด้วยการเปิดเกมชิงตั้งองค์กรอิสระปลายเดือนนี้ ทั้งการตั้ง กมธ.สอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.-ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ- อัยการสูงสุด และเห็นชอบ ป.ป.ช.คนใหม่
ทั้งขั้วสีแดง-สีน้ำเงิน วันนี้จึงกระโจนเข้าสู่สมรภูมินิติสงครามแบบเต็มรูปแบบ แม้ในฉากหน้าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จับมือกันบริหารประเทศ แต่ในทางการเมืองก็ยิงอาวุธใส่กันไม่ยั้ง
ตระกูลชินวัตรก็ต้อง “ลุ้น” พรรคภูมิใจไทยก็ต้อง “ลุ้น” ว่าจะ “รอด” หรือ “ร่วง”
การเมืองไทยวันนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องลุ้นๆ เพราะเศรษฐกิจของประเทศก็อยู่ในภาวะเปราะบางขั้นสุด สังคมไทยก็ไม่เข้มแข็งพอจะไปต่อสู้กับโลกได้ การเมืองไทยวันนี้ยิ่งติดหล่ม
ผลจากการเมืองใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้เกิดภาวะนิติสงครามเต็มพื้นที่ จนคนแห่กันตั้งคำถามถึงภาวะ “รัฐล้มเหลว”
“การเมืองในสภาวะล้มเหลวในหลักการ” เช่นนี้ เลี่ยงไม่ได้ที่ผู้เล่นต้องอยู่ในภาวะ “ลุ้นกันตลอดเวลา” เช่นนี้
ภาวะเช่นนี้จะตามหลอกหลอนผู้เล่นทุกขั้ว ทุกสี ให้ “ลุ้น”ไปอีกนาน
จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
