

บทความพิเศษ | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
https://www.facebook.com/sirote.klampaiboon
นับถอยหลัง
สู่ความเสี่ยงของด้านประชาธิปไตย
ทุกวันนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนบ่นเรื่องความเป็นผู้นำของคุณแพทองธาร ชินวัตร และทุกครั้งที่มีนักข่าวสะท้อนเสียงนี้ คุณแพทองธารก็มักตอบโต้ว่าดิฉันก็เป็นนายกฯ นะคะอยู่เสมอ ทั้งที่ความเป็นนายกฯ ต่างจากความเป็นผู้นำ เพราะนายกฯ เป็นตำแหน่งทางกฎหมาย ส่วนผู้นำเป็นความยอมรับทางสังคม
ตัวอย่างง่ายๆ ขณะที่คนไทยเผชิญความทุกข์จากปัญหาเศรษฐกิจซึ่งยิ่งนานทุกอย่างยิ่งแย่ลง คุณแพทองธารกลับไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าเดี๋ยวชีวิตจะดีขึ้น พูดอะไรก็แก้ปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงความร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ซึ่งแทบไม่มีใครสัมผัสได้เลย
ทั้งหมดนี้คือปัญหาความไม่เชื่อมั่นซึ่งลุกลามเป็นปัญหาความเป็นผู้นำ ทั้งที่รัฐบาลนี้ใช้เงินบริหารประเทศไปแล้วเกือบ 8 ล้านล้านบาท และพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลมาแล้วกว่า 2 ปี
คุณแพทองธารไม่ใช่นายกฯ คนแรกที่คนไทยไม่เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำ เพราะคุณเศรษฐา ทวีสิน และคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้วนเผชิญปัญหาแบบนี้มาแล้วทั้งสิ้น
แต่ปัญหาคือคุณแพทองธารมีประเด็นนี้จนคนบางกลุ่มใช้เป็นช่องทางล้มระบบ ปัญหาของคุณแพทองธารจึงเป็นปัญหาประชาธิปไตยโดยปริยาย
ความอ่อนแอและล้มเหลวของคุณแพทองธารกำลังถูกใช้เป็นข้ออ้างให้คนบาง “เครือข่าย” คิดถึงการล้มล้างประชาธิปไตยจนพูดถึงการ “กวาดล้างประชาธิปไตย” หรือ “นิติสงคราม” ซึ่งพิสดารตั้งแต่เอาผิด ครม.ด้วยมาตรา 144 หรือเอาผิดคุณทักษิณ ชินวัตร คดีชั้น 14 ด้วยประมวลกฎหมายวิอาญา
สำหรับคนที่ไม่เชื่อว่าคุณแพทองธารเป็นนายกฯ ที่ไม่มีความเป็นผู้นำ หลักฐานง่ายๆ คือดูคุณทักษิณที่ไม่ใช่นายกฯ แต่กลับมีความเป็นผู้นำมากกว่าคุณแพทองธารจนเหลือเชื่อ
ตัวอย่างเช่น คุณทักษิณไปปาฐกถาเรื่องปราบยาเสพติดโดยมีผู้ฟังคือรองนายกฯ หลายคน ทั้งที่คุณทักษิณไม่มีตำแหน่งอะไรเลย
ขณะที่รัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้ ปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลก็ลุกลามไม่หยุด คนของเพื่อไทยยื่นยุบภูมิใจไทยและเอาผิดจริยธรรมคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ส.ว.ยื่นศาลให้รัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่
และทั้งหมดนี้คุณแพทองธารทำได้แค่นั่งเป็นหัวหลักหัวตอจนคุณทักษิณต้องมาเคลียร์
ความเป็นผู้นำของคุณทักษิณมาจากการที่คุณทักษิณเป็นเจ้าของเพื่อไทยตัวจริง นายกฯ ฝ่ายคุณทักษิณทุกคนจึงกระจ้อยร่อยกว่าคุณทักษิณหมด ไม่ว่าคุณสมัคร สุนทรเวช, คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์, คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือคุณเศรษฐา ทุกครั้งที่ทหารยึดอำนาจทั้งในปี 2549 และ 2557 ความเป็นผู้นำของคุณทักษิณจึงหายไปทันที
แน่นอนว่าลำพังความเป็นเจ้าของพรรคไม่ได้การันตีความเป็นผู้นำ เพราะคุณเนวิน ชิดชอบ เป็นเจ้าของภูมิใจไทยตัวจริง เหมือนคุณทักษิณเป็นเจ้าของเพื่อไทย แต่คุณเนวินก็ไม่ได้ถูกสังคมยอมรับในฐานะผู้นำทางการเมืองมากเท่ากับความเป็น “ครูใหญ่” ของภูมิใจไทยและเจ้าของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด
ในแง่นี้ ความเป็นผู้นำไม่ใช่เรื่องของตำแหน่ง แต่เป็นเรื่องบทบาททางสังคม (Social Role) ที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่าง “ผู้นำ” กับ “ผู้ตาม” ซึ่ง “ผู้นำ” ต้องมีความสามารถและทรัพยากรที่จะนำสังคมให้ไปถึงจุดที่เชื่อว่า “ผู้นำ” จะจรรโลงระบบทั้งหมดให้คงอยู่อย่างมีดุลยภาพได้จริงๆ
หัวใจของความเป็นผู้นำไม่ได้อยู่ที่การมีตำแหน่งสูงสุดในประเทศ หรือแม้แต่ในองค์กร แต่หัวใจของความเป็นผู้นำอยู่ที่ “การนำ” (Hegemony) ซึ่งคนส่วนใหญ่ต้องเชื่อว่าคนที่มีตำแหน่งผู้นำต้องมี “การนำ” ซึ่งทำให้ทุกคนอยู่รอดได้
และคุณสมบัตินี้ไม่มีในตัวคุณแพทองธารเลย
อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ เคยเขียนบทความสั้นๆ ชื่อ “วีรบุรุษในวัฒนธรรมไทยในทศวรรษ 2540 ในงานรำลึก อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ซึ่งไอเดียหลายอย่างอยู่กับผมมาจนปัจจุบัน ตัวบทความไม่มีอะไรเกี่ยวกับคุณแพทองธารแน่ๆ แต่ประเด็นของอาจารย์เรื่องผู้นำในวัฒนธรรมไทยใช้ได้แม้อาจารย์จะจากไป
สังคมไทยมักคิดถึง “ผู้นำ” ในเชิงวีรบุรุษที่เก่งอยู่คนเดียวและนำ “ผู้ตาม” ไปสู่ชัยชนะด้วยคนเพียงคนเดียว แต่ผู้นำแบบนั้นเกิดได้แต่ในเงื่อนไขทางวัฒนธรรมบางอย่าง ความเป็นวีรบุรุษของผู้นำจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติส่วนบุคคลของตัวผู้นำล้วนๆ หากยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางสังคมของผู้นำ
ผมคิดถึงประเด็นของอาจารย์นิธิเชื่อมโยงกับทฤษฎีผู้นำการเมืองซึ่งผมไปบรรยายให้ กกต.ในหลักสูตรพัฒนาการเมืองสัปดาห์ที่ผ่านมา สรุปสั้นๆ คือ ผู้นำเชิงวีรบุรษ (Heroic Leadership) เป็นเพียงรูปแบบเดียวของการนำทางการเมือง แต่สังคมที่ไม่มีวีรบุรุษก็มีผู้นำแบบอื่นได้เช่นกัน
ผู้นำเชิงเครือข่ายเป็นอีกรูปแบบของผู้นำทางการเมือง ตัวบุคคลที่เป็นผู้นำแบบนี้มีความเป็นผู้นำเชิงวีรบุรุษได้ก็ดี แต่ไม่มีก็ได้ เพราะหัวใจของผู้นำประเภทนี้คือการนำผ่าน “เครือข่าย” ซึ่งได้รับความยอมรับจาก “ผู้ตาม” โดยกว้างขวางด้วยการประสานประโยชน์หรือสร้าง Consensus บางแบบขึ้นมา
อนึ่ง คำว่า “เครือข่าย” ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ คำจึงไม่ได้สื่อสารถึงขบวนการลึกลับหรือองค์กรลี้ลับอะไร และไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดสินคุณค่าด้วย แต่เป็น “เครือข่าย” ในความหมายของ “อำนาจทางสังคม” ที่นักสังคมวิทยาชื่อดัง Michael Mann ใช้ในงานสำคัญ The Source of Social Power
นักวิชาการเรื่องเมืองไทยพูดเยอะเรื่องรัฐพันลึกหรือ Network Monarchy ซึ่งความหมายต่างจากคำว่า “เครือข่าย” ที่เรากำลังพูดกัน เพราะรัฐพันลึกหรือ Network Monarchy คือขบวนการชนชั้นนำที่แทรกซึมในองค์กรต่างๆ เพื่อควบคุมประเทศจนไม่สนใจอำนาจของประชาชนและอำนาจในสังคม
คุณแพทองธารเป็นนายกฯ จากการเลือกของสภา แต่คุณแพทองธารไม่ได้มาจากพรรคที่ชนะเลือกตั้ง ความยอมรับจากประชาชนติดลบตั้งแต่ต้น รัฐบาลแพทองธารจึงเป็นสัญลักษณ์ของรัฐพันลึกหรือ “ดีลลับ” ซึ่งอยู่ตรงข้าม “เครือข่ายในสังคม” จนสร้างความยอมรับในฐานะผู้นำได้ยากเหลือเกิน
เมื่อใดที่ประชาชนเห็นคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร เมื่อนั้นประชาชนก็จะเห็นนักการเมืองหน้าเดิมจากตระกูลการเมืองเดิมๆ ที่ปกครองประเทศมาตั้งแต่รุ่นพ่อกว่า 20 ปีแล้ว ความไม่พอใจที่ประชาชนมีต่อนักการเมืองกลุ่มนี้จึงเป็นความไม่พอใจต่อรัฐบาลแพทองธารด้วยทันที
คุณชวน หลีกภัย และคุณทักษิณเป็นนายกฯ จากขั้วการเมืองต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือทั้งคู่ชนะเลือกตั้งอันดับ 1 จนเป็นนายกฯ ที่มาจากการสนับสนุนของ “เครือข่ายทางสังคม” เหมือนกัน ทั้งคู่จึงสามารถตั้งคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องกังวลต่อพรรคการเมืองมากนักในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของแต่ละคน
ในช่วงที่คุณชวนชนะเลือกตั้งจนได้เป็นนายกฯ ในปี 2535 และคุณทักษิณชนะจนได้เป็นนายกฯ ในปี 2544 ทั้งคู่เป็นที่ยอมรับจากสังคมยิ่งกว่ารัฐบาลแพทองธารราวฟ้ากับเหว สองปีของรัฐบาลเพื่อไทยจึงเป็นสองปีที่ฝ่ายเพื่อไทยได้เป็นนายกฯ
แต่ความยอมรับในความเป็นผู้นำยิ่งนานยิ่งดิ่งเหวลงจนปัจจุบัน
ผมเขียนไว้ตั้งแต่พุธที่แล้วก่อนศาลปกครองจะอ่านคำตัดสินคดีจำนำข้าววันพฤหัสบดีว่าคุณยิ่งลักษณ์จะโดนค่าเสียหายในวงเงิน 10,027 ล้านบาท สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณยิ่งลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งของ “นิติอภิมหาสงคราม” ที่จะยกระดับจนพาการเมืองไทย Turn Right หรือเลี้ยวขวาครั้งใหญ่ในรอบหลายปี
ด้วยการเป็นรัฐบาลความยอมรับต่ำตั้งแต่ต้นจนลดลงเรื่อยๆ อย่างปัจจุบัน รัฐบาลชุดนี้กำลังนับถอยหลังจนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นแน่ การปรับคณะรัฐมนตรีจะมีขึ้นหลังสภาผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ นิติอภิมหาสงครามจะรุนแรงถึงขีดสุดจนสุ่มเสี่ยงจะเกิดวิกฤตการเมืองยาว
ถ้ารัฐบาลไม่สามารถสร้างความยอมรับในประชาชนได้มากกว่านี้ การเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงสู่จุดที่ประชาธิปไตยถอยหลังลงคลองจนความเป็นประชาธิปไตยที่ต่ำอยู่แล้วจะยิ่งต่ำกว่าเดิม
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022