

ลึกแต่ไม่ลับ | จรัญ พงษ์จีน
เกมชิงกรรมาธิการวิสามัญ
ผ่านฉลุยวาระแรกไปเรียบร้อย “ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569” วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ที่ประชุมสภาเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม ลงมติเห็นด้วย 322 เสียง ไม่เห็นด้วย 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง
จำนวนพรรคฝ่ายค้านมี 170 เสียง ลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างงบประมาณปี 2569 แค่ 158 เสียง หายไป 12 เสียง ในจำนวนนี้เป็น 1 เสียงของ “กฤษฎ์ ชีวะธรรมานนท์” ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน โหวตสวนมติของพรรค ส่วน ส.ส.ของพรรคไทยสร้างไทย ลงมติหนุนรัฐบาล ได้แก่ รำพูล ตันติวณิชชานนท์, สุภาภรณ์ สลับศรี และ ฐากร ตัณฑสิทธิ์
แต่ที่ไม่ฉลุย ก็เป็นเหตุการณ์หลังลงมติ เมื่อ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม หยิบยกวาระเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ รายจ่ายปี 2569 มีทั้งหมด 73 คน
แบ่งเป็นสัดส่วนจากคณะรัฐมนตรี 18 คน พรรคเพื่อไทย 16 คน ประชาชน 16 คน ภูมิใจไทย 8 คน รวมไทยสร้างชาติ 4 คน ประชาธิปัตย์ 3 คน กล้าธรรม 3 คน พลังประชารัฐ 2 คน ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ และไทยสร้างไทย ได้สัดส่วนพรรคละ 1 คน
“มนพร เจริญศรี” รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม ลุกขึ้นเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญในโควต้าคณะรัฐมนตรีทั้ง 18 คน จากนั้นตัวแทนของแต่ละพรรคเสนอชื่อตามสัดส่วนที่ได้รับพร้อมขอผู้รับรอง
ครั้นเมื่อมาถึงการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญในนามพรรคไทยสร้างไทย ปรากฏว่า กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ลุกขึ้นเสนอชื่อ “ชัชวาล แพทยาไทย” ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ทำให้เกิดเสียงฮือกลางห้องประชุมเพราะมีเสียง ส.ส.หญิงดังแทรกขึ้นมา ประธานในที่ประชุมแสดงสีหน้างงๆ ถามว่า เสียงผู้หญิงคนนั้นคือใคร
“เสียงดิฉันค่ะ” สุภาภรณ์ สลับศรี ส.ส.ยโสธร เขต 1 พรรคไทยสร้างไทย ลุกขึ้นตอบประธาน และขานชื่อ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย เป็นกรรมาธิการวิสามัญ พร้อมขอผู้รับรอง
คราวนี้เกิดปัญหาอลหม่านเพราะจำนวนกรรมาธิการวิสามัญที่เสนอมาทั้งหมดมี 74 คน เกินจากที่กำหนดไว้
ฝ่ายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน รีบลุกขึ้นแจงเหตุผลทำไมจึงโยนให้ “กัณวีร์” เป็นผู้เสนอชื่อ “ชัชวาล” อ้างว่าเพราะเป็นมติของวิปฝ่ายค้าน และได้รับหนังสือแจ้งจากกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย
ปกรณ์วุฒิเรียกร้องให้ “ฐากร” ถอนตัวออกจากกรรมาธิการวิสามัญเพื่อให้สภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ท้ายประโยค ปกรณ์วุฒิเปิดเกมท้าให้สมาชิกสภาโหวตเสียง
ฝ่าย “อรรถกร ศิริลัทธยากร” ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ลุกขึ้นสวน “ปกรณ์วุฒิ” ว่าในฐานะคนกลาง การเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญ อย่างพรรคกล้าธรรมไม่จำเป็นต้องมีหนังสือรับรองจากกรรมการบริหารพรรค
“ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงดูงงๆ อยู่ ดูเหมือนภายในพรรคไทยสร้างไทย ฝ่ายหนึ่งมี ส.ส. 1 คน และผู้ที่เสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญอยู่อีกพรรค ส่วนอีกฝ่ายมี ส.ส. 5 คน เสนออีกชื่อหนึ่ง เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกัน ประธานในที่ประชุมต้องหาทางออก” อรรถกรแนะนำ
ช่วงเวลานั้น เสียงพูดคุยถกเถียงในประเด็นชื่อ 2 ส.ส.พรรคไทยสร้างไทยเป็นกรรมาธิการวิสามัญดังอื้ออึงอลหม่าน
ท่ามกลางความอลหม่าน “ฐากร” ขออนุญาตประธาน ชี้แจงฐานถูกพาดพิงว่า ตามแนวปฏิบัติที่ผ่านๆ มา คนที่เสนอชื่อเป็นกรรมาธิการวิสามัญก็คือคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่คนจากพรรคอื่น ณ วันนี้ สมาชิกพรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อฐากร แต่พรรคอื่นเสนอสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยเป็นกรรมาธิการวิสามัญ ถ้าเป็นอย่างนี้ ต่อไปใครก็เสนอชื่อใครก็ได้ ขอให้ประธานวินิจฉัยด้วย
ประธานในที่ประชุมวินิจฉัยว่า ไม่มีข้อบังคับ ใครก็เสนอชื่อได้ถ้ามีผู้รับรองถูกต้อง
ทันทีที่ “พิเชษฐ์” วินิจฉัยจบ เสียง ส.ส.ในสภาดังอื้ออึงอีกครั้งจนพิเชษฐ์ต้องบอกว่า จะเอายังไง ขอให้ที่ประชุมช่วยๆ กันหน่อย
ความอลหม่านส่อยึดเยื้อต่อไปเมื่อ “วาโย อัศวรุ่งเรือง” ส.ส.พรรคประชาชน ยกข้อบังคับการประชุมว่าด้วยการเสนอชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ ถ้าเสนอชื่อเกินกว่าที่กำหนดไว้ ที่ประชุมต้องลงคะแนนลับกรรมาธิการวิสามัญทั้งหมด 73 ตำแหน่ง
“พิเชษฐ์” แสดงสีหน้างงๆ กับข้อเสนอของหมอวาโย เพราะถ้าให้โหวตลับ พิเชษฐ์เชื่อว่าจะกลายเป็นเรื่องยาวแน่ๆ
ทางออกของประธานสั่งหยุดพักการประชุม 5 นาทีแล้วให้บรรดา ส.ส.ไปคุยกันจะเอายังไงต่อ
หมดเวลาพักยก “พิเชษฐ์” เดินกลับมาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมหลังได้ทราบแนวทางแก้ปัญหาแล้ว และอนุญาตให้ “สุภาภรณ์” เสนอถอนชื่อ “ฐากร” พ้นจากตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญ
ระหว่างนั้น “พิเชษฐ์” ทบทวนการถอนชื่อ “ฐากร” แต่ดันเรียกชื่อผิด แทนที่จะเป็น “ฐากร” กลับเป็น “อรรถกร” เรียกเสียงฮาลั่นกลางสภาจนพิเชษฐ์ต้องประกาศย้ำด้วยเสียงเขินๆ เปื้อนรอยยิ้มว่า “ฐากร ตัณฑสิทธิ์”
ต่อมา “มนพร เจริญศรี” ลุกขึ้นเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 ในสัดส่วนคณะรัฐมนตรีเป็น 16 รายชื่อที่มีชื่อ “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” ในลำดับที่ 6 แทน “พิษณุ หัตถสงเคราะห์”
เกมชิงกรรมาธิการวิสามัญครั้งนี้ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเต็ม ไม่เพียงสร้างความงุนงงและอลหม่านให้กับบรรดา ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมสภา แต่ยังเกิดคำถามตามมาว่า พรรคไทยสร้างไทยจะก้าวต่อไปในทางใด?
วันนี้เป็นที่รู้กันแล้วว่า ส.ส.ของพรรคที่มีทั้งหมด 6 คน มีเพียง 1 คนที่อยู่ในอาณัติพรรค คือ ชัชวาล แพทยาไทย อีก 5 คนแสดงความเป็นเอกเทศไม่อยู่ในอาณัติของพรรค ส่วนจะเป็นเพราะเหตุใด ส.ส.ทั้ง 5 คนมีคำตอบมานานแล้ว
คณะกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย สร้างเกมบีบสกัด “ฐากร” ไม่ให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญ ด้วยการแจ้งมติกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทยผ่านทางพรรคฝ่ายค้านเป็นหัวหอก และ “กัณวีร์” เป็นตัวแทน เป็นสัญญาณบอกให้ทั้งประเทศรู้ว่าความขัดแย้งภายใน “ไทยสร้างไทย” ยกระดับความรุนแรงถึงเปิดเกมเชือดเฉือนกันกลางสภา
ตามธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทยมีมติให้ “ชัชวาล” เป็นกรรมาธิการวิสามัญเรียบร้อยแล้วต้องส่งมติให้ ส.ส.ทั้ง 6 คนรับรู้ แต่ปรากฏว่ามติของพรรคไทยสร้างไทยส่งตรงให้เฉพาะประธานวิปฝ่ายค้านเท่านั้น ส.ส.ซีก 5 คนไม่รู้เรื่องด้วยจึงทำให้เกิดข้อกังขาว่ามีอะไรซ่อนเร้นอยู่
เกมชิงตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้ “ฐากร” รับรู้ว่าการเมืองนั้นมีมิติซับซ้อนทั้งกว้างลึก
และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ได้รู้ว่าสัจวาจาของนักการเมืองหาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในท้องทะเล
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022