เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

ยุทธการ 22 สิงหา : รุกทั้ง การเมือง กับ การทหาร จัดการ ต่อ ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’

10.07.2024

ผลสะเทือนจากสถานการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 นับวันยิ่งแผ่กว้างและดำเนินไปในลักษณะซึมลึก

มิได้เป็น “ปฏิกิริยา” จากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

หากที่มองข้ามไม่ได้คือ ปฏิกิริยาและความต่อเนื่องภายในกลไกแห่ง “อำนาจรัฐ” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ของ ผบ.เหล่าทัพเมื่อระดับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก่อปฏิบัติการอย่างที่สื่อสรุปอย่างรวบรัดว่า

เป็น “การปฏิวัติ” ผ่าน “หน้าจอ”

เห็นได้จากเมื่อทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ได้รับบาดเจ็บในสถานการณ์สลายการชุมนุมของตำรวจได้ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อศาลปกครอง

เพียง 1 วันหลังจากยื่นฟ้องในวันที่ 9 ตุลาคม ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและมีลำดับขั้นตอน

ปฏิกิริยาแหลมคมและร้อนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะปฏิกิริยาในทางสังคม

 

ที่กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อย่างฉับพลันทันใดคือ เมื่อกัปตันการบินไทยปฏิเสธการรับ ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน ไม่ยอมให้ขึ้นเครื่องบินในวันที่ 8 ตุลาคม หลังสลายการชุมนุม

นั่นเป็นการปฏิเสธต่อ นางฟาริดา สุไลมาน ส.ส.สุรินทร์ นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู นางชมภู จันทาทอง น.ส.หนองคาย

ยิ่งกว่านั้น ยังกระจายขยายเข้าไปสู่ในวงการแพทย์

นั่นก็คือ กลุ่มอาจารย์แพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์จะงดการตรวจรักษารัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล

กลุ่มวิชาการแพทย์ทั่วประเทศแถลงประณามให้รัฐบาลลาออกหรือยุบสภา

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ขอความร่วมมือกับสหภาพในเครือข่ายให้เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและออกมาตรการตอบโต้รัฐบาล

กลุ่ม 40 ส.ว.ยื่นจดหมายเปิดผนึก เรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของรัฐบาลไทยถึงผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ (OHCHR)

หนังสือ “บันทึกประเทศไทย ปี 2551” ของมติชนระบุว่า เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศหนึ่งในเอเชียโทรเลขด่วนส่งถึงหน่วยราชการของกระทรวงการต่างประเทศทั่วโลก แสดงความเห็นสวนทางกับสาระที่กระทรวงการต่างประเทศสั่งให้ทูตไทยประจำประเทศต่างๆ ชี้แจงเหตุการณ์ที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

โดยโทรเลขนี้ระบุว่า “การกระทำของรัฐบาลรุนแรงเกินกว่าเหตุและไม่เป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล ขณะที่แนวทางคำชี้แจงไม่สามารถให้ความกระจ่างซึ่งจะสร้างความไม่น่าเชื่อถือแก่ประเทศไทยและกระทรวงการต่างประเทศ”

“บันทึกประเทศไทย ปี 2551” ของมติชนแสดงความเห็นว่า กรณีดังกล่าวนับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นนัก

หากประมวลแล้ว “ปฏิกิริยา” แต่ละปฏิกิริยาสัมพันธ์กับท่าทีของ “กองทัพ”

 

ปฏิกิริยาหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นการจุดพลุนั่นก็คือ ปฏิกิริยาของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ต่อสถานการณ์การสลายการชุมนุม

นั่นก็คือ การยื่นใบลาออกจาก “ตำแหน่ง”

ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการในการรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

เป็นการลาออกกลางดึกของคืนวันที่ 7 ตุลาคม

จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ “บางกอกโพสต์” ฉบับประจำวันที่ 9 ตุลาคม ระบุว่า ปัญหาทางการเมืองของไทยในขณะนี้ไม่มีทางออกแล้ว ขอเรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก่อรัฐประหารยึดอำนาจ

“จากนั้น รีบคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อเปิดทางไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลรักษาการเพื่อคลี่คลายวิกฤต”

แม้ในวันที่ 10 ตุลาคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ออกรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ขอให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อการสลายการชุมนุม ส่วนกระแสกดดันให้ทหารออกมายึดอำนาจ กองทัพประเมินแล้วไม่คิดว่าจะแก้ปัญหาได้และไม่น่าจะคุ้ม

กระนั้น ในวันที่ 16 ตุลาคม ผบ.เหล่าทัพที่นำโดย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มารวมกันและให้สัมภาษณ์สดในรายการข่าว “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวเรียกร้องให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ด้วยประโยค

“ถ้าเป็นผม ผมลาออกแล้ว” อันกลายเป็นบทสรุปว่าเป็นการ “ปฏิวัติหน้าจอ”

 

ความร้อนแรงของสถานการณ์ได้ทวีขึ้นมาอีกด้วยความแหลมคมเมื่อมีความเห็นร่วมจากพรรคพลังประชาชนที่จะออกโรงตอบโต้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยการผลักดัน “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” หรือ “นปช.” เป็นกองหน้า

เป็นความร้อนแรงในลักษณะกล่าวได้ว่าเป็น “ม็อบชนม็อบ”

หากมองเข้าไปในแต่ละโครงสร้างของการเคลื่อนไหวก็จะสัมผัสได้ในมือทางการเมืองที่ยื่นเข้ามาในระนาบอันแตกต่างกัน

ไม่ว่าจะเป็นมือที่แตะเข้าไปยัง “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”

ไม่ว่าจะเป็นมือที่แตะเข้าไปยัง “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ”

ที่นำหน้าอาจเห็นเป็น “แกนนำ” ที่ปราศรัยอยู่บน “เวที”

ที่อยู่ข้างหลังแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เป็นพรรคพลังประชาชนอย่างแน่นอน

แต่ที่อยู่ข้างหลังพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องยอมรับว่าเปี่ยมพลัง

ในทางการเมืองอาจเห็นการแสดงออกที่หนุนช่วยของพรรคประชาธิปัตย์ในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ในวุฒิสภาที่นำหน้าย่อมเป็น “40 ส.ว.”

สถานการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ณ เบื้องหน้าการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้ชุมนุม บทบาทในการตรวจสอบและค้นหาความเป็นจริงเพื่อทวงคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ชุมนุม เป็นกรรมาธิการของวุฒิสภาอย่างเป็นด้านหลัก

ขณะเดียวกัน ก็ได้รับการหนุนเสริมผ่านแถลงการณ์และการเคลื่อนไหวจากปัญญาชนและนักวิชาการตามมหาวิทยาลัยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

แม้กระทั่งคณะแพทย์ก็ไม่ยอมอยู่อย่างนิ่งเฉย

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยังเป็นการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของบรรดานายทหารทั้งที่อยู่ในราชการและนอกราชการ แสดงความเอนเอียงและเห็นอกเห็นใจกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

หากพิจารณาจากพันธมิตรในแนวร่วมจึงแทบไม่น่าแปลกใจที่ความคึกคักในการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีแต่ขยายตัวใหญ่กว้างออกไปเป็นลำดับ

จากเดือนตุลาคม ไปยังเดือนพฤศจิกายน 2551 เวลาแห่งการเผด็จศึกใกล้เข้ามาเป็นลำดับ

ประสานทั้ง “การเมือง” และ “การทหาร” ประสานทั้ง “ในสภา” และ “นอกสภา”

 



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

กระดอเย็น
ความฝัน ความรัก ของ ‘โชต้า’ จากกอนโดมาร์ถึงลิเวอร์พูล
เกร็ดน่ารู้ ‘ที่สุด’ กีฬาซีเกมส์ ไทยนับถอยหลังเป็นเจ้าภาพ
ตลาดซื้อขายที่ดินเงียบ
ผ่าสเป๊ก ‘Volvo EX30 Cross Country’ EV ตัวเล็กจอมลุย-ออปชั่นเทียบรุ่นใหญ่
จดหมาย
เดินตามดาว | ศรินทิรา
สลัดทูน่าอะโวคาโด
ดาวกับดวง วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568
ขอแสดงความนับถือ
ลิซ่า ชี้ อดีตนายกฯ ขึ้นเวที ไม่ใช่การ “ผ่าทางตัน” ให้กับประเทศไทย แต่กลับเป็นการ “ตอกลิ่มประเทศ” ให้จมอยู่กับวังวนของปัญหาเดิม ๆ ยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่าระบอบ
คำศัพท์พื้นฐานในโลกของฟอเร็กซ์ที่ต้องรู้ก่อนเทรด