ออกกำลังกายด้วยการหัวเราะ

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

ออกกำลังกายด้วยการหัวเราะ

วันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม ถือเป็นวันหัวเราะแห่งโลก หรือ World Laughter Day ผู้ริเริ่มวันแห่งความสุขนี้คือ ดร.มาดาน คาทาเรีย (Madan Cataria) ชาวอินเดีย ฉลองเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2541 มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง สร้างสันติภาพบนโลกด้วยเสียงหัวเราะ

ปัจจุบัน 115 ประเทศ ร่วมฉลองวันหัวเราะแห่งโลก

สำหรับปีนี้ วันหัวเราะแห่งโลกตรงกับวันวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม ประเทศที่ฉลองวันหัวเราะโลกนั้นเป็นการจัดตั้งชมรมหัวเราะอย่างเป็นทางการ

การฉลองนั้นสมาชิกของชมรมหัวเราะจะรวมตัวกันตามสวนสาธารณะหรือห้องจัดงานแล้วร่วมหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน และสวดขอพรเพื่อความสงบสุขบนโลก

ด้วยความตึงเครียดทางเศรษฐกิจตอนนี้ ทำให้คนไทยจำนวนมากหัวเราะไม่ออก

การหัวเราะไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เพราะการศึกษาทางการแพทย์ การหัวเราะเป็นเหมือนยาชั้นดีที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างพลังและลดความเครียด

หลายคนอาจคิดว่าคนเราจะหัวเราะก็ต่อเมื่อได้ฟังหรือเห็นเรื่องขำ

แต่จากการวิจัยพบว่า เพียง 10-15% ของการหัวเราะนั้นเกิดจากการฟังเรื่องตลกหรือเห็นพฤติกรรมขำขัน

ส่วนการหัวเราะที่เหลือ มีทั้งแสร้งหัวเราะ หัวเราะสะใจ หัวเราะประจบ หัวเราะเย้ยหยัน หรือหัวเราะแก้เขิน

การหัวเราะเป็นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างมนุษย์ เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันของมนุษย์ด้วยกัน เมื่ออยู่กับคนอื่นคนจะหัวเราะมากกว่าเวลาอยู่คนเดียวถึง 30 เท่า

มนุษย์รู้จักการหัวเราะตั้งแต่เกิด ทารกหัวเราะได้โดยที่ไม่ต้องมีใครสอน ทำได้ก่อนการพูด และเสียงหัวเราะก็เป็นเสียงสากลที่เหมือนกันทั่วโลก คือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซึ่งใครที่ได้ยินไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็จะเข้าใจได้ทันทีว่านี่เป็นเสียงหัวเราะ

แม้แต่คนหูไม่ได้ยินก็สามารถหัวเราะได้เสียงเหมือนคนหูปกติ คนตามองไม่เห็นก็สามารถหัวเราะได้

ดร.มาดาน คาทาเรีย ผู้ก่อตั้งวันหัวเราะแห่งโลกแนะนำว่า ไม่ต้องรอให้มีเรื่องขบขันเข้ามาหาถึงจะหัวเราะ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น คนเราหัวเราะน้อยลง เพราะความเครียดและปัญหาต่างๆ ในชีวิตที่เพิ่มขึ้นตามอายุ

ดังนั้น จึงต้องรู้จักสร้างเสียงหัวเราะให้กับตัวเอง ด้วยการฝึกส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาแม้จะไม่มีเรื่องขำอะไร ซึ่งเมื่อส่งเสียงหัวเราะไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เป็นการหัวเราะจริง ทำให้จิตใจผ่อนคลาย และทำให้คนรอบข้างหัวเราะตามไปด้วย

มีคำกล่าวว่า Laughter is contagious แปลว่าการหัวเราะสามารถส่งผ่านถึงกันได้

เวลาเราเห็นคนกำลังหัวเราะกัน ทั้งๆ ที่เราไม่ทราบว่าหัวเราะกันเรื่องอะไร แต่เราก็อดยิ้มหรือหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้

จากการศึกษาของ ดร.ลี เบิร์ก (Dr. Lee Berk) แห่งมหาวิทยาลัยโลม่า ลินดา (Loma Linda University) พบว่า การหัวเราะเป็นการออกกำลังทั้งร่างกายและจิตใจ

จากการศึกษาคน 14 คน โดยวัดระดับความดัน และเก็บตัวอย่างเลือดก่อนและหลังดูวิดีโอสองเรื่อง เรื่องละ 20 นาที โดยเรื่องแรกเป็นหนังสงคราม Saving Private Ryan ซึ่งเป็นหนังเครียดเรื่องราวสงครามโลกครั้งที่สอง

ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังตลก หลังจากดูหนังตลกเสร็จพบว่ากลุ่มสำรวจมีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปคือมีระดับฮอร์โมนเล็ปทิน (Leptin) ลดลง ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่คล้ายกับหลังออกกำลังกาย โดยฮอร์โมนเล็ปทินจะลดการอยากอาหารเมื่อมีการกินอาหารอย่างเพียงพอ

ในขณะที่การดูหนังเครียดไม่ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง

แต่ ดร.เบิร์กไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้การหัวเราะแทนการออกกำลังกาย เราต้องออกกำลังกายควบคู่ไปกับการหัวเราะ

เพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจจะได้แข็งแรง

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022