
ปฏิทินราคา 50 ล้าน : สัญลักษณ์ของความไม่คุ้มค่า ที่ผู้ประกันตนท้วงถาม

ฝนไม่ถึงดิน | ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี
ปฏิทินราคา 50 ล้าน
: สัญลักษณ์ของความไม่คุ้มค่า
ที่ผู้ประกันตนท้วงถาม
ต้องบอกว่าประเด็นปฏิทินประกันสังคมที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของกระดาษพิมพ์ราคาแพงที่ห้อยอยู่ตามฝาผนัง แต่มันคือภาพสะท้อนของวิธีคิดในการบริหารจัดการเงินมหาศาลที่ผู้ประกันตนกว่า 24.6 ล้านคนฝากไว้ให้ดูแล
แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องปฏิทินประกันสังคมถูกตั้งคำถาม
แต่ในยุค Social Media เข้มข้นต้องให้เครดิตจาก “ไอซ์ รักชนก ศรีนอก” ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ที่กล้าเปิดเผยข้อมูลจากงาน “Hack งบประกันสังคม” ว่าสำนักงานประกันสังคมได้ใช้งบประมาณจัดทำปฏิทินไปแล้วกว่า 450 ล้านบาทใน 8 ปีที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยปีละ 50-70 ล้านบาท
ตัวเลขนี้อาจดูเล็กเมื่อเทียบกับกองทุนประกันสังคมที่มีเงินหมุนเวียนนับล้านล้าน
แต่มันเป็นภาพสะท้อนของความไม่คุ้มค่าที่เกิดขึ้นในระบบ ทั้งที่เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการทั่วประเทศ
น่าขันที่ว่าในแต่ละปีมีการผลิตปฏิทินมากถึง 4.1 ล้านฉบับ แบ่งเป็นแบบแขวน 3.7 ล้านฉบับ และแบบตั้งโต๊ะ 4 แสนฉบับ โดยที่ต้นทุนการผลิตจริงๆ สำหรับปฏิทินตั้งโต๊ะอยู่ที่ราว 40 บาทต่อชิ้น และปฏิทินแขวนราว 20 บาทต่อชิ้น
นอกจากความพ้นสมัยของปฏิทิน ยังมีประเด็นเรื่องความคุ้มค่าว่ากระบวนการผลิตโปร่งใสเพียงใด
คำตอบส่วนหนึ่งอาจอยู่ที่วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ใน 5 ปีหลังนี้ มีเพียง 1 ปีเท่านั้นที่ใช้วิธี E-Bidding ส่วนที่เหลือเป็นการใช้วิธีกรณีพิเศษ 2 ปี และวิธีเฉพาะเจาะจงอีก 2 ปี
และน่าแปลกที่ปีที่ใช้ E-Bidding กลับเป็นปีที่มีงบประมาณน้อยที่สุด ซึ่งบ่งชี้ว่าการเปิดให้มีการแข่งขันอย่างโปร่งใสอาจทำให้ราคาถูกลงได้
ข้ออ้างที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ใช้ในการแก้ตัวคือ ปฏิทินเหล่านี้จำเป็นสำหรับผู้ประกันตนในพื้นที่ห่างไกลที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต ต้องใช้ปฏิทินในการสื่อสารข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆ
แต่ในยุคที่แทบทุกคนมีสมาร์ตโฟน คำอ้างนี้ฟังดูขัดแย้งกับความเป็นจริง และที่น่าขันกว่านั้นคือ ผู้ที่อยู่ห่างไกลกลับเป็นกลุ่มที่มักจะไม่ได้รับการแจกปฏิทินเหล่านี้เสียด้วยซ้ำ
แรงกดดันจากสังคมทำให้รัฐมนตรีต้องออกมาประกาศว่าจะทำประชาพิจารณ์ว่าจะยกเลิกหรือดำเนินการจัดทำปฏิทินต่อไป
โดยสำนักงานประกันสังคมได้เริ่มสำรวจความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2568 ผ่านแบบสอบถามออนไลน์
หากผลสำรวจบ่งชี้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการปฏิทินอีกต่อไป ก็จะยกเลิกการพิมพ์ในปี 2570
ล่าสุด ผลประชาพิจารณ์เบื้องต้นปรากฏว่ามีผู้ให้ความเห็นไม่ต้องการปฏิทินมากถึง 60% สะท้อนเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า
แต่ดูเหมือนว่าการยกเลิกเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะเป็นเพียงงบประมาณราว 0.1% จากงบฯ บริหารสำนักงานก็ตาม
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเหนียวแน่นของระบบราชการที่มักจะยึดติดกับแนวทางเดิมๆ
หรืออาจมีผลประโยชน์บางอย่างที่ไม่อยากให้หลุดลอยไป
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีได้ตั้งเกณฑ์ไว้ล่วงหน้าว่า หากมีคนประมาณร้อยละ 30-40 เห็นว่ายังจำเป็น ก็จะยังทำปฏิทินต่อไป
นั่นหมายความว่าแม้มีคนเกินครึ่งไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามีคนราวหนึ่งในสามเห็นด้วย ก็อาจใช้เป็นเหตุผลในการดำเนินการต่อได้
ซึ่งขัดกับหลักการปกครองแบบเสียงส่วนใหญ่โดยสิ้นเชิง
อนุกรรมการประชาสัมพันธ์สัดส่วนผู้ประกันตนพยายามผลักดันการตัดงบประมาณที่ไม่คุ้มค่า ไม่โปร่งใส และเดินหน้าสู่การประชาสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น เข้าใจผู้คนได้มากขึ้น
แต่ดูเหมือนทางสำนักงานจะพยายามยื้อเวลาออกไป รวมถึงกลุ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวพันกับการผลิตปฏิทินที่พยายามโยงประเด็นเรื่องยกเลิกการผลิตปฏิทินเข้าสู่ประเด็นทางการเมืองเพื่อโจมตีกลุ่มประกันสังคมก้าวหน้าอันเป็นคณะกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งทางตรงครั้งแรก
ประเด็นปฏิทินประกันสังคมนี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กในสายตาคนบางกลุ่ม และหากมองเป็นสัดส่วนของงบประมาณทั้งหมดก็เพียง 0.1% เท่านั้น
แต่มันเป็นสัญลักษณ์ของการตรวจสอบถ่วงดุลที่สำคัญในสังคมประชาธิปไตย
เมื่อประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงเริ่มตั้งคำถามกับการใช้เงินกองทุนที่ตนเองมีส่วนร่วม
นี่คือก้าวย่างสำคัญของการมีส่วนร่วมและความโปร่งใสที่ควรเกิดขึ้นในทุกมิติของการบริหารเงินของผู้ประกันตน
งบประมาณการบริหารจึงควรถูกจัดเพื่อกิจการของประกันสังคมมากกว่าการเป็นโครงกดารกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวาของกระทรวงแรงงานว่าหากไม่รู้จะนำงบประมาณจากตรงไหนก็หันเข้าหาประกันสังคม ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ผิดวัตถุประสงค์ของงบประมาณประกันสังคม
สุดท้าย คงต้องติดตามกันต่อไปว่าผลประชาพิจารณ์อย่างเป็นทางการจะออกมาอย่างไร
และจะมีการปรับเปลี่ยนการบริหารงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ประกันตนอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่
งบประมาณกว่า 50 ล้านบาทต่อปีที่ใช้ทำปฏิทิน แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของงบฯ ทั้งหมด
แต่หากนำไปใช้ในการพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่จับต้องได้และส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของผู้ประกันตน
ก็จะเกิดคุณค่ามากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022