

หลังลับแลมีอรุณรุ่ง | ธงทอง จันทรางศุ
ชีวิตทางเลือก
สองสามวันที่ผ่านมาผมได้แวะไปเยี่ยมบ้านเพื่อนที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเขาใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมากนัก แต่จะบอกว่าเป็นที่เดียวกันก็เห็นจะไม่ได้ เพราะความเจริญยังห่างชั้นกันอยู่มาก
บ้านเพื่อนผมยังมีความเป็นต่างจังหวัดที่มีความเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านอย่างทางถนนธนะรัชต์ซึ่งเป็นทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากลำบนเพราะในรัศมีจากบ้านไม่ห่างไกลนัก ความเจริญได้คืบคลานเข้าไปถึงแล้ว
ถ้าไม่ขานชื่อให้ความลับรั่วไหลออกไปก็เห็นจะพอเล่าได้ว่า เพื่อนรายนี้ที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ครั้งยังทำงานอยู่ก็รับราชการเป็นนายทหารและเกษียณอายุพร้อมกันกับผมเมื่อสิบปีก่อนด้วยยศเป็นนายทหารชั้นนายพล แต่ก่อนมาก็มีบ้านช่องห้องหออยู่แถวถนนสุทธิสารวินิจฉัย
แต่พอเกษียณอายุมาได้พักใหญ่ก็ตัดสินใจไปปลูกบ้านอยู่ที่ปากช่องดังที่ว่า โดยไปอาศัยร่วมพื้นที่กับพี่ชายของเขาซึ่งไปปลูกบ้านอยู่ที่นั่นก่อนหน้าแล้วหลายปี
แต่บ้านเพื่อนผมกับบ้านพี่ชายเป็นบ้านคนละหลังกันนะครับ เพียงแต่ว่าปลูกอยู่ในที่แปลงเดียวกัน และอยู่ในรัศมีพอดีตะโกนกันถึงได้
แต่ด้วยความเป็นผู้มีอัธยาศัยรักสันโดษทั้งสองคน พี่น้องจึงไม่ได้คลุกคลีตีโมงกันมากนัก
ในวันที่ผมและเพื่อนอีกสามสี่คนเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ว่านี้ เราถามเจ้าตัวผู้เป็นชาวปากช่องไปแล้วว่า ในแต่ละวันทำอะไรบ้าง
เจ้าตัวก็อธิบายว่า เป็นชีวิตที่อยู่คนเดียว อาหารก็ทำเองบ้าง เป็นอาหารแบบง่ายๆ หรือไม่เช่นนั้นก็ไปซื้อของมาจากร้านสะดวกซื้อปากซอยที่อยู่ห่างไปไม่มากนักเอามาอุ่นไมโครเวฟหรือโยนเข้าเตาอบ แค่นี้ก็พอกินถมถืดแล้ว
ส่วนเวลากลางวันมักเดินท่อมๆ ไปทั่วบริเวณบ้านซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางอยู่พอสมควร เพื่อดูแลต้นไม้ ปลูกต้นโน้น ตัดต้นนี้ ใส่ปุ๋ยบ้าง ถ้าวันไหนฝนไม่ตกก็ต้องรดน้ำต้นไม้อีกเป็นชั่วโมง
นอกจากนั้นก็เป็นการให้อาหารหมาซึ่งมีอยู่สองตัว และไก่อีกประมาณร้อยตัว
ถูกแล้วครับ ไก่ร้อยกว่าตัว
เจ้าของไก่อธิบายว่า ไก่นี้เป็นไก่พื้นบ้านที่แต่แรกไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงจริงจัง แต่เป็นไก่ที่พลัดหลงมาจากที่ข้างเคียงซึ่งเจ้าของที่แปลงนั้นไม่ชอบไก่และยิงไก่ตายไปหลายตัวแล้ว ไก่ทั้งปวงประชุมปรึกษากันแล้วจึงย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่บ้านเพื่อนผม มาอยู่แล้วก็รู้สึกร่มเย็นเป็นสุข ออกลูกออกหลานมาอีกมากจนเดินทั่วไปตลอดทั้งบริเวณบ้าน
ผมถามว่าหมาไม่กัดไก่หรือ ได้ความแต่แรกก็กัดกันอยู่บ้าง แต่พออยู่ไปนานวันเข้าก็ทำสัญญาสงบศึก และสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหา
ภารกิจดูแลบ้านและบริเวณทั่วไปรวมทั้งสัตว์เลี้ยงต่างๆ นี้ เพื่อนผมมีผู้ช่วยหนึ่งคนซึ่งมีบ้านข้างเคียง และว่าจ้างกันมาช่วยทำงานเป็นรายวันไป
พวกเราที่ไปจากเมืองกรุงตั้งกรรมการสอบถามต่อไปอีกว่า เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยทำอย่างไร
เพื่อนตอบว่าถ้าเป็นเหตุฉุกเฉินหรือเจ็บป่วยเล็กน้อยก็ไปรักษาที่โรงพยาบาลปากช่องนานาซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล อาศัยสิทธิข้าราชการบำนาญก็ไม่ต้องจ่ายเงิน หรือถ้าต้องจ่ายเพิ่มเติมก็จ่ายไม่มากนัก
แต่ถ้าเป็นโรคประจำตัวที่มีหมอประจำอยู่แล้วหรือเป็นการใหญ่กว่านั้นก็จะเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในกรุงเทพฯ
ซึ่งทำให้แปลความได้ว่า เจ้าตัวต้องเดินทางเข้าออกกรุงเทพฯ แทบทุกเดือน เพราะหมอแต่ละโรคต่างคนต่างนัด เพื่อนผมก็ต้องเดินทางมาตามหมอนัดทุกครั้งไป
คำถามสุดท้ายที่ผมอยากรู้จริงๆ คือ ถ้าตายแล้ววางแผนจะให้ใครทำศพอย่างไร
คำตอบใสซื่อบริสุทธิ์จากเพื่อน คือ ไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น เราตายแล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เป็นเรื่องคนอยู่ข้างหลังจะต้องจัดการไปตามที่เขาเห็นสมควร
ในบรรดาเพื่อนที่เดินทางไปจากกรุงเทพฯ ร่วมคณะผมสามสี่คนอย่างที่ว่ามาข้างต้น มีคนหนึ่งมาจากเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอผู้เป็นสุภาพสตรีรายนี้แต่งงานกับสามีคนไทยและทำมาหากินอยู่ที่นั่นมาหลายสิบปีแล้ว
เมื่อเราพูดถึงชีวิตประจำวันของแต่ละคนโดยเริ่มต้นที่ชาวปากช่องแล้ว เราก็ไปพูดถึงชาวไมอามีบ้าง
เธอบอกว่าเนื่องจากครอบครัวของเธอไม่มีลูก ชีวิตแต่ละวันจึงเป็นการอยู่กันสองคนสามีภริยา ชีวิตเมืองนอกก็ต้องช่วยตัวเองเป็นหลัก การกินการอยู่และกิจวัตรประจำวันก็อย่าได้ไปหวังพึ่งพาใครเลยทีเดียว ตนนี่แหละเป็นที่พึ่งของตน
อัตตาหิ อัตโน นาโถ เปี๊ยบเลยทีเดียว
แต่บัดนี้เมื่ออายุมาถึงเขต 70 ปีแล้ว กำลังวางแผนอยู่เหมือนกันว่าในอนาคตที่ไม่ห่างไกลนัก สองคนสามีภริยาคิดจะย้ายกลับมาตั้งถิ่นฐานใหม่ครั้งหนึ่งในเมืองไทยซึ่งยังพอมีญาติมิตรเพื่อนฝูงอยู่
เห็นจะเป็นแนวทางที่อบอุ่นใจมากกว่าอยู่ที่เมืองนอกอย่างนั้น
ตัวอย่างเพื่อนของผมสองรายข้างต้นเป็นชีวิตจริงของทางเลือกการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน แต่แน่นอนว่าทางเลือกเหล่านั้นก็ต้องเป็นทางเลือกที่เหมาะกับจริต ปัจจัยเกื้อหนุน ร่วมตลอดถึงข้อจำกัดและทรัพยากรทั้งปวงที่มีอยู่ในชีวิตด้วย
แน่นอนว่าคนที่อยู่ในฐานะลำบากยากเข็ญและไม่มีประตูทางเลือกอื่นอยู่เลยนอกจากการจำนนอยู่กับชีวิตของตัวเองที่อยู่ตรงหน้าก็มีอีกเป็นจำนวนมากและเป็นปัญหาระยะยาวสำหรับความเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบอย่างที่ผมได้เคยพูดไว้ในที่นี้มาหลายครั้งแล้ว
แต่สำหรับคนที่ยังพอมีทางเลือกอยู่บ้างก็ต้องดิ้นรนขวนขวายกันไปตามอัตภาพและตามความต้องการของตัวเองที่เห็นว่าพอเหมาะพอสม
ไม่ต้องดูอื่นไกลครับ ดูแค่ตัวผมเองเป็นเบื้องต้นก็แล้วกัน ถึงแม้จะมีอายุเท่ากันคือ 70 ปีแล้ว แต่ผมก็ต้องยอมรับความจริงว่า ผมไม่ได้เป็นคนรักสันโดษถึงขนาดจะไปปลูกบ้านอยู่ที่ตำบลหนองสาหร่าย อย่างเพื่อนของผมได้
ผมยังสนุกกับชีวิตที่มีกิจกรรมอยู่ในเมืองกรุง ได้ไปประชุมอย่างโน้นอย่างนี้ มีบรรยายอยู่บ้าง เข้าออกนอกในวัดวาอารามต่างๆ ที่ตัวเองอาสาหรือปวารณาไปช่วยงาน มีนัดกินข้าวกับผู้คนทั้งหลาย
ยังมีหลานสองคนที่เป็นลูกของน้องชายอยู่ในบริเวณรั้วบ้านเดียวกัน และลุงคนนี้ก็ยังมีความสุขที่จะพบกับหลานให้ได้พอชื่นอกชื่นใจ
และอีกสิ่งหนึ่งซึ่งจะเรียกว่าเป็นความสุขหรือความห่วงกังวลผสมปนเปกันอยู่ คือ หนังสือจำนวนมากมหาศาลที่มีอยู่ในบ้านและมีผู้เคยประเมินว่าน่าจะมีจำนวนประมาณ 20,000 เล่ม
ทุกวันนี้ผมยังมีความสุขกับการเดินเข้าไปในห้องที่รายรอบอัดแน่นด้วยหนังสือ หยิบเล่มโน้นเล่มนี้มาอ่านทีละเล่ม พลิกกระดาษไปทีละหน้าอย่างบรรจง ทำความรู้จักคุ้นเคยและทักทายกับตัวอักษรที่เรียงเป็นแถวอยู่บนหน้ากระดาษด้วยความสุขใจ
จากบทสนทนากับเพื่อนสองคนที่อยู่ที่ปากช่องรายหนึ่ง อยู่ที่ไมอามีอีกรายหนึ่ง และนำมาคิดสมทบกับเรื่องชีวิตของตัวเอง ทำให้ได้ความชัดเจนขึ้นทีเดียวว่า ชีวิตของแต่ละคนไม่มีใครสามารถเลียนแบบหรือสร้างแบบมาตรฐานขึ้นได้ แต่ละคนก็ต้องเลือกใช้ชีวิตให้ถูกกับจริตของตัวเอง และข้อสำคัญอย่างที่ผมได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นคือ ด้วยข้อจำกัดและปัจจัยแวดล้อมที่มีอยู่จริงในชีวิตด้วย
เห็นช้างขี้ไปขี้ตามช้างก็ไม่ได้ ตัวเราเป็นตัวเรานี่แหละ
ข้อคิดอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการสนทนากับเพื่อนรอบนี้ คือ นอกจากการเป็นตัวของเราเองดังนั้นแล้ว การเปิดใจกว้างเข้าใจเพื่อนแต่ละคนว่าเขาต่างมีเหตุผล มีวิธีคิด รวมทั้งเรื่องราวอีกมากมายหลากหลายที่เขายังไม่ได้เล่าให้เราฟังและไม่จำเป็นจะต้องเล่าให้เราฟัง วนเวียนรวบรวมอยู่ในสมองของเขาอีกมากมาย และสรุปผลเป็นการตัดสินใจกำหนดแนวทางใช้ชีวิตของบุคคลแต่ละคน
ไม่มีใครคิดแทนกันได้ ไม่มีใครตัดสินใจแทนกันได้ ไม่มีใครผิดใครถูก และเราต้องไม่เอามาตรฐานของเราไปกำหนดชีวิตของคนอื่น
แม้กระทั่งเมื่อกี้นี้ที่ผมพูดถึงหลานของผมสองคน ทั้งสองคนต่างก็มีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเอง มีสุขและทุกข์เป็นสมบัติส่วนตัว
ผมซึ่งเป็นลุงแห่งชาติก็ทำหน้าที่เป็นผู้ยืนชมและคอยให้กำลังใจ รวมทั้งบอกหรือแสดงให้เขารู้ว่าผมพร้อมจะสนับสนุนหรือให้ความคิดความเห็นตามกำลังที่ผมมีอยู่ แต่ผมจะไม่เป็นผู้บงการชีวิตของเขาหรือของใครเป็นอันขาด
ลองนึกดูนะครับว่า ในเมื่อตัวเราเองไม่อยากให้มีใครมาเป็นเจ้าชีวิต สั่งให้เราเป็นโน่นเป็นนี่ สั่งให้เราทำอย่างโน้น สั่งไม่ให้เราทำอย่างนี้ แล้วทำไมเล่า เราจึงจะไปเป็นอย่างนั้นเหนือชีวิตคนอื่น
นี่แค่ไปปากช่องแล้วเลยไปนอนโคราชมาแค่สามวันกับสองคืนยังได้ข้อคิดพิจารณามาถึงเพียงนี้
ยังไม่ได้ทันพูดถึงน้อยหน่ากลางดง น้ำนมข้าวโพดไร่สุวรรณฯ และร้านอร่อยอีกหลายร้านที่เราได้ไปแวะกินมาตลอดเส้นทางเลย
ใจของผมก็ปลอดโปร่งขึ้นตั้งเยอะ
สงสัยต้องชวนเพื่อนวัยเดียวกันไปเที่ยวอีกบ่อยๆ เสียแล้วสิ