
คุยกับทูต | แดนนี แอนนัน เดนมาร์กกับเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (จบ)

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน
การทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศเดนมาร์ก
“ผมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนของเดนมาร์กในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2024 ไทยเป็นประเทศที่มีชีวิตชีวา อุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัฒนธรรม การต้อนรับ และประวัติศาสตร์ การผสมผสานระหว่างประเพณีและนวัตกรรมที่สร้างสรรค์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจ
เราทั้งสองประเทศต่างมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนไทย และแน่นอนว่าอาหารไทยมีรสชาติหลากหลายและยอดเยี่ยมมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่น่ายินดีของประสบการณ์นี้
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้มุ่งเน้นไปที่การค้าเป็นหลัก เราช่วยให้บริษัทต่างๆ ของเราสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นโดยอาศัยความสัมพันธ์ทางการค้าที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 400 ปี
เดนมาร์กและไทยมีความสัมพันธ์ทางการเมืองที่แน่นแฟ้นอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังเชื่อว่าเราสามารถทำได้มากกว่านี้เพื่อเสริมสร้างการเจรจาทางการเมืองของเรา เรื่องที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การสนับสนุนช่วยเหลือนักเดินทางและผู้อยู่อาศัยชาวเดนมาร์กในประเทศไทย ตลอดจนชาวไทยที่เดินทางไปเดนมาร์ก”
การทำธุรกิจของบริษัทเดนมาร์กในไทยมีความสำคัญที่โดดเด่น เพราะช่วยสร้างงานให้คนไทยมากกว่า 5 หมื่นตำแหน่ง นอกจากนี้ หอการค้าไทย-เดนมาร์ก ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1992 ในปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 100 บริษัทและถือเป็นหอการค้าเดนมาร์กที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ในทางกลับกัน บริษัทชั้นนำของไทยก็ได้ไปลงทุนในเดนมาร์ก เช่น เครือเซ็นทรัล, การบินไทย, CPF, ร้านอาหารไทย Blue Elephant และ Indorama ซึ่งประกอบการด้านพลาสติก เป็นต้น
นอกจากเอกอัครราชทูตแดนนี แอนนัน ประจำประเทศไทยแล้ว ยังได้รับการรับรองให้ประจำประเทศกัมพูชาด้วย

ชุมชนชาวเดนมาร์กและธุรกิจของชาวเดนมาร์กในกัมพูชา
“ในกัมพูชา คาดว่า ชุมชนชาวเดนมาร์กมีประมาณ 100 คน ในขณะที่ในประเทศไทยมีประมาณ 4,000 ถึง 6,000 คน บริษัทเดนมาร์กหลายแห่งก่อตั้งมายาวนานในประเทศไทย โดยมีพนักงานชาวไทยประมาณ 50,000 คนทำงานให้กับบริษัทเดนมาร์กเหล่านี้
ส่วนในกัมพูชา ความสัมพันธ์ทางธุรกิจยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม เรามีบริษัทเดนมาร์กชั้นนำบางแห่งที่ดำเนินกิจการในกัมพูชา เช่น บริษัทเดินเรือ Maersk, โรงเบียร์ Carlsberg และบริษัทขนส่ง DSV โดยเรายังเห็นการพัฒนาในเชิงบวกอย่างมากสำหรับการค้าทวิภาคีของเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”
ซึ่งปัจจุบันกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกมิติ

ความภาคภูมิใจในความเป็นคนเดนมาร์ก
“ผมภูมิใจในความเป็นผู้นำระดับโลกของเดนมาร์กทางด้านความยั่งยืน สิทธิมนุษยชน และนวัตกรรม แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมภูมิใจในคุณค่าของเรา ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นในเรื่องของความเท่าเทียม ความไว้วางใจ และความสำคัญของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเมืองสีเขียว แนวทางการศึกษา หรือระบบการดูแลสุขภาพของเรา เพราะเรามุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเจริญรุ่งเรืองได้”
ประเทศเดนมาร์กเป็นหนึ่งในประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ชาวเดนมาร์กมีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นเสรีนิยมและความเฉลียวฉลาดแบบสแกนดิเนเวีย ด้วยมาตรฐานการครองชีพที่สูง พวกเขาจึงได้สร้างประเทศและวัฒนธรรมที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมการปั่นจักรยานและการดื่มกาแฟ มีอิฐเลโก้ (Lego bricks) ที่น่ารัก แรงบันดาลใจในการสร้างละครเรื่อง แฮมเลต (Hamlet) ของเชกสเปียร์ และแนวคิดเรื่องฮุกกะ (Hygge) การเพลิดเพลินกับสิ่งเล็กๆ รอบตัว เป็นความสุขใจที่เรียบง่าย
นี่คือเหตุผลง่ายๆ แต่ลึกซึ้งเพียงไม่กี่ประการที่ทำให้เดนมาร์กมีเสน่ห์อย่างลึกซึ้ง

กิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจมีอะไรบ้าง
“ผมพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแบ่งเวลาให้กับครอบครัว แม้ว่าจะเต็มไปด้วยภาระหน้าที่ก็ตาม เราชอบที่จะออกสำรวจประเทศอันแสนวิเศษนี้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความมีชีวิตชีวาในกรุงเทพฯ ทิวเขาน้อยใหญ่ทางภาคเหนือ หรือชายหาดที่สวยงามทางภาคใต้ และเราก็จะรู้สึกทึ่งกับความงดงามของประเทศไทยเสมอ
นอกจากนี้ เรายังเพลิดเพลินและสนุกสนานกับการค้นพบอาหารไทยเมนูใหม่ๆ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอีกด้วย
ในฐานะครอบครัว การมีประสบการณ์ร่วมกันเหล่านี้ช่วยให้เราไม่เพียงแค่รู้สึกเหมือนเป็นผู้มาเยือน แต่ยังรู้สึกเชื่อมโยงกับชีวิตในประเทศไทยอย่างแท้จริง”

อนาคตของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเดนมาร์ก
“ผมมองเห็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ โดยหวังว่า ในทางการเมือง จะได้สานต่อความร่วมมือระหว่างไทยและเดนมาร์กต่อไป เพื่อกระชับความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์และยกระดับไปสู่อีกระดับหนึ่ง
ในด้านเศรษฐกิจ เรามุ่งหวังที่จะสนับสนุนธุรกิจไทยและเดนมาร์กที่เน้นการเติบโตและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น
ในด้านวัฒนธรรม เราจะยังคงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น เทศกาลภาพยนตร์นอร์ดิก และ Nordic Run ซึ่งเป็นกิจกรรมการวิ่งและการเดินเพื่อสุขภาพรูปแบบหนึ่ง ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตนอร์ดิกและพันธมิตร โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและวิถีชีวิตแบบชาวนอร์ดิกที่เน้นสุขภาพ เป็นความสุขทุกการเคลื่อนไหว ในใจกลางกรุงเทพฯ ความสัมพันธ์นี้สร้างขึ้นจากความเคารพซึ่งกันและกัน
และผมเชื่อว่าเรื่องราวดีๆ จะยังมีตามมาอีกอย่างแน่นอน”
