เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

ฐากูร บุนปาน : ไทยจะกลายเป็นแถวหน้า ปชช. “ทั้งแก่-ทั้งจน” ในเวลาอันไม่ช้า ?

05.08.2019

ช่วงปลายสัปดาห์ระหว่างที่เมืองไทยกำลังอุตลุดตะลุมบอนกันอยู่ด้วยเรื่องการแถลงนโยบายของรัฐบาล

และมี “ดราม่า” สารพัดเกิดขึ้นมากมาย

นอกสภาก็มีข่าวประดังประเดเกี่ยวกับเมืองไทยเข้ามาหลายเรื่องด้วยกัน

หยิบๆ จับๆ มาปะมาชุนต่อเป็นเรื่องได้ดังนี้

กรณีแรก สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐจั่วหัวว่า ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศแถวหน้าของตัวอย่าง “ทั้งแก่-ทั้งจน” ในเวลาอันไม่ช้า

เอาเป็นว่าสักประมาณ ค.ศ.2030 หรือ พ.ศ.2573

คืออีก 11 ปีจากนี้

จะว่าใกล้ก็ไม่ ไกลก็ไม่ แล้วแต่จะบริหารเวลาอย่างไร

เหตุผลของเขาก็คือ เมื่อถึงปีนั้นผู้สูงอายุในเมืองไทย (นับว่าอายุ 60 ขึ้นไป) จะมีจำนวนถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด

ในขณะที่อัตราการเกิดของไทยอยู่ในระดับร้อยละ 1.5 ที่ถือเป็นอัตราเกือบจะต่ำที่สุดในโลกมาหลายปี

คนแก่ (ที่ส่วนใหญ่ฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดี-แปลว่าจนนั่นแหละ) เพิ่ม เด็กไม่เพิ่ม แปลว่ากำลังการผลิตจะน้อยลง

จะเอาอะไรมาหล่อเลี้ยง

บลูมเบิร์กเขียนตรงๆ ว่า ตั้งแต่รัฐประหารสองครั้งหลัง ปี 2549 แผนการรับมือสังคมอายุ (และจน) นั้นทำกันเหมือนผักชีโรยหน้า

และรัฐบาลใหม่ที่ชุมนุมกันถึง 19 พรรคการเมือง ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อรับมือเรื่องนี้

ทางออกหนึ่งของปัญหาก็คือการเปิดรับแรงงานต่างชาติให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่แรงงานต่างชาติ (ที่บันทึกได้) มีจำนวนร้อยละ 10 ของจำนวนแรงงานทั้งหมดอยู่แล้ว

ใครบางคนที่เพิ่งชี้นิ้วโวยวายเรื่องแรงงานต่างชาติ

จะรับได้ไหมหนอ?

เวลาไล่เลี่ยกัน

เพิ่งได้อ่านงานวิจัยของศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ ที่นำข้อมูลพยากรณ์อากาศมาประยุกต์เข้ากับผลกระทบด้านอื่นๆ โดยเฉพาะการเกษตร

ท่านระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 1.5-2.0 องศาเซลเซียส ภายใน 40 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ระดับอุณหภูมิสูงสุดในช่วงเวลากลางวันอาจจะสูงขึ้น 2.0-4.0 องศาเซลเซียส

ซึ่งส่งผลให้ลักษณะมรสุมและปริมาณนํ้าฝนเกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลกระทบต่อปริมาณและคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรของไทยในหลายพื้นที่

รวมถึงการกระจายตัวของโรคพืชไปในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

จึงมีความเสี่ยงสูงที่ผลผลิตทางการเกษตรจะเกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณการมากกว่าร้อยละ 25 ภายใน 50 ปีข้างหน้า

สำหรับประเทศที่ยังมีคนอยู่ในภาคเกษตร 25-30 ล้านคน

และประกาศนโยบายจะเป็นครัวของโลก

นี่มันวิกฤตชัดๆ

ล่าสุดการจัดอันดับ The Global Innovation Index 2019 หรือดัชนีนวัตกรรมโลก ที่จัดทำขึ้นโดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การสหประชาชาติ

พบว่า จาก 129 ประเทศทั่วโลก สวิตเซอร์แลนด์ครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 สวีเดนตามมาเป็นอันดับ 2

จีนขึ้นมา 3 ขั้นจบที่อันดับ 14 ตามหลังฮ่องกงที่มาในอันดับ 13 ส่วนญี่ปุ่นอยู่ที่อันดับ 15

ส่วนประเทศไทยปีนขึ้นไป 1 อันดับ จาก 44 ไปที่ 43 แต่ยังตามหลังเวียดนามที่ได้อันดับ 42

แต่ 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อเรากระโดดขึ้นมาถึง 17 อันดับ

ดัชนีนวัตกรรมโลกพิจารณาจากดัชนีชี้วัด 80 ประเภท ตั้งแต่การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ปริมาณการยื่นขอจดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า

ไปจนถึงดัชนีชี้วัดใหม่ๆ อย่างการสร้างแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ และการส่งออกสินค้าไฮเทค

ประเทศที่ปัจจุบันอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าเพื่อนบ้านรอบข้าง (ยกเว้นสิงคโปร์-ซึ่งต้องไม่ลืมว่ารายได้ต่อหัวของเขาสูงกว่าเรา 9 เท่า คือ 64,528 เหรียญ/คน/ปี กับ 7,274 เหรียญ/คน/ปี กันชนรับแรงกระทบขนาดมันผิดกัน)

มองไปอนาคตยังจะแพ้เขาอีก

มันจะไปกันยังไง

เอาสองสามเรื่องข้างต้นขยำรวมกัน แล้วเรื่องก็ย้อนกลับมาย่อหน้าแรก

คือถึงเห็นด้วยว่าจะโยนให้แต่รัฐบาลซีกเดียวไม่ได้

เรือมันต้องพายต้องงัดกันทั้งลำพร้อมกันถึงจะไปเร็ว

แต่ในฐานะนายท้ายหรือผู้กุมบังเหียน (ที่กระโดดเข้ามาเอง ไม่ได้มีใครเอาเสลี่ยงไปหามมา)

รัฐบาลก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

จะบอกว่ามีนโยบาย (ที่เลื่อนๆ ลอยๆ เคลือบคลุม ไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติ) แต่อย่างเดียวไม่ได้

ไม่บอกว่าจะปฏิบัติอย่างไร-อะไร-เมื่อไหร่

ไม่ได้

นี่ถ้าเป็นแผนธุรกิจของบริษัท นอกจากตีตกแล้วบอร์ดต้องไล่ผู้บริหารออกทั้งชุดด้วย

แล้วระดับประเทศนะครับ

ตบท้ายด้วยคำคมของ “สไปเดอร์แมน” ที่ยืมวินสตัน เชอร์ชิล (ซึ่งยืมนักการเมืองเก่าอังกฤษ ที่ขโมยมาจากฝรั่งเศสอีกที) ว่า

“อำนาจที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง”

จริงไหม



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

ดาวกับดวง วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568
ขอแสดงความนับถือ
ลิซ่า ชี้ อดีตนายกฯ ขึ้นเวที ไม่ใช่การ “ผ่าทางตัน” ให้กับประเทศไทย แต่กลับเป็นการ “ตอกลิ่มประเทศ” ให้จมอยู่กับวังวนของปัญหาเดิม ๆ ยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่าระบอบ
คำศัพท์พื้นฐานในโลกของฟอเร็กซ์ที่ต้องรู้ก่อนเทรด
พล.ท.ภราดร นำทัพ กลุ่มสวัสดีคนไทย แสดงความคิดเห็นเพื่อตั้งหมุดหมาย ที่ “ 100 ปี ประชาธิปไตย”
คาดเดาไม่ออก บอกไม่ถูก | ลึกแต่ไม่ลับ
เริ่มแล้ว! “Thai–Chinese Golden Fest 2025 เทศกาลร้อยเรื่องราวไทย–จีน” เทศกาลประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญแห่งปี
ฟังเสียง ‘เยาวชน’ | ปราปต์ บุนปาน
“One Plan” โมเดลใหม่ ขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกพื้นที่
ไม้ดัดในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร | กวีกระวาด : สิริวตี
ตลาด..ชีวิตและความหวัง | เรื่องสั้น : มีนา ฟ้าศุกร์
ทำเล